โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

แบงค์ ธิติ ยืนยัน พิมฐา แค่เพื่อนร่วมงาน ไม่ใช่มือที่สามทำเลิก บี  ส่วนอนาคตตอบไม่ได้

Khaosod

อัพเดต 21 ม.ค. 2563 เวลา 10.00 น. • เผยแพร่ 21 ม.ค. 2563 เวลา 10.00 น.
Untitled-1

แบงค์ ธิติ ยืนยัน พิมฐา แค่เพื่อนร่วมงาน ไม่ใช่มือที่สามทำเลิก บี  ส่วนอนาคตตอบไม่ได้

 

วันที่ 21 ม.ค. บริษัท นาดาวฯ เปิดโปรเจ็กต์ Nadao Academy ค้นหา เด็กฝึก (Trainee) เพื่อพัฒนาเป็นนักแสดง นาดาวบางกอก และศิลปินนาดาวมิวสิค   ในงานแถลงมีนักแสดงรุ่นพี่ “แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์”  มาร่วมด้วย  เจ้าตัวเลยถูกสัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เน็ตไอดอลสาว“พิมฐา – ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล” ถูกโยงเป็นมือที่สามทำให้เลิก “บี” แฟนสาวนอกวงการ

 

 

 

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

โดยชาวโซเชียลฯ ได้ตั้งข้อสงสัยว่าที่ แบงค์ และแฟนสาว เลิกกันเพราะอาจจะมีมือที่สามเข้ามาเอี่ยว    ซึ่งคนที่โดนโจมตีมากที่สุด พิมฐา ซึ่งเธอร่วมงานกับ หนุ่มแบงค์  ในรายการ ป๋าซ่าพาซิ่ง ซีซั่น 2  และ ประจวบเหมาะกับที่ตัวของ สาวพิมฐา นั้นก็เพิ่งจะเลิกรากับแฟนหนุ่มนามว่าบูม**  ไปหมาดๆ เหมือนกัน

 

 

เปลี่ยนสถานะมาเป็นหนุ่มโสดแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ?

“โสดก็ทำงาน และก็ทำงานครับ ช่วงนี้ค่อนข้างที่จะมีงานเยอะเหมือนกัน เพราะละครเรื่องใหม่ก็เพิ่งจะเปิดกล้องด้วย”

 

รู้สึกโล่งขึ้นไหมหลังจากที่ได้พูดเรื่องสถานะแล้ว ?

“จริงๆ ก็รู้สึกดี เพราะเขาจะได้รับรู้ในฝั่งของอีกคนหนึ่งด้วย และก็สถานะของเราด้วย”

 

หลังจากที่เราออกมาพูดในวันนั้น เราได้ติดตามฟีดแบคบ้างไหม ?

“ก็ดูบ้างครับ คือมันก็จะมีฟีดแบคกลับมาให้เห็นอยู่เหมือนกันทางทวิตเตอร์”

 

จากข่าวที่เราออกมาพูดเรื่องเลิกกับแฟน มันเลยทำให้ พิมฐา ถูกมองว่าเป็นมือที่สาม ?

อ๋อ จริงๆ ไม่ใช่ครับ แต่ที่มันมีฟีดแบคนี้เกิดขึ้นก็เป็นเพราะเราสองคนได้มีโอกาสไปถ่ายรายการด้วยกัน ชื่อรายการว่า ป๋าซ่าพาซิ่ง ซึ่งเป็นรายการที่เราต้องไปดูแลพ่อๆ พาพ่อๆ ไปเที่ยวที่ต่างประเทศ มันก็เลยมีคนที่เขารู้จิ้นตามรูปแบบของรายการ

 

ตัวเราเองกับ พิมฐา สนิทสนมกันมากแค่ไหน ?

“ก็สนิทนะครับ เพราะพอเราได้ไปถ่ายรายการด้วยกัน ได้ใช้ชีวิตอยู่ดูแลพ่อๆ ด้วยกันก็ถือว่าเขาเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งครับ”

 

พิมฐาเขาเครียดไหม เรื่องนี้กระทบความสัมพันธ์ของเรากับเขาหรือเปล่า ?

“ก็มีได้คุยกันบ้างครับ คือผมไปบอกเขาว่ามันอาจจะมีอะไรพวกนี้นะ และก็ขอโทษเขาด้วยที่ทำให้เขาซวย (ยิ้ม) ซึ่งเขาก็เข้าใจ ไม่ได้เครียด”

 

เรารับมือกับกระแสข่าวที่ออกมากันยังไง ?

“คือเราจะมีกลุ่มไลน์ที่คุยกันอยู่แล้ว เป็นแก๊งป๋าซ่าพาซิ่ง ซึ่งพอมีข่าวแบบนี้ออกมา พ่อๆ ทุกคนก็ช่วยกันบอกว่าไม่เป็นไรนะอย่างนั้นอย่างนี้ และตัวผมเองก็บอกเขาไปเหมือนกันว่า ถ้าช่วงนี้มันมีข่าวอะไรออกมาก็อยากให้ใช้สติในการอ่านนิดหนึ่ง เหมือนเราต้องรู้ตัวเองก่อน เพราะโลกโซเชียลมันเป็นโลกที่ใครๆ ก็สามารถแสดงความเห็นได้ ไม่ว่าความเห็นนั้นมันจะแรงขนาดไหนหรือกระทบกับจิตใจเราขนาดไหน เนื่องจากเขาไม่ได้รับรู้หรอกว่าเมื่อเขาคอมเมนต์ไปแล้วเราจะรู้สึกยังไง ดังนั้นเราจึงทำได้แค่รับมา สิ่งไหนที่เราสามารถนำมาปรับปรุงแก้ไขตัวเอง และทำให้ตัวเราดีขึ้นได้เราก็จะรับ รวมถึงนำมาพิจารณาอีกทีหนึ่ง”

 

พอมันมีกระแสแบบนี้ทำให้เราสองคนต้องเว้นระยะห่างกันมากขึ้นไหม ?

“โดยปกติเราก็ไม่ค่อยได้เจอกันอยู่แล้วนะครับ และถ้าหากเราเจอกัน เราก็จะแค่ไปกินข้าวกับแก๊งพ่อๆ คือผมรู้สึกว่าเราก็เป็นแค่เพื่อนที่เคยมีโอกาสได้ร่วมงานกันมากกว่า”

 

อีกประเด็นคือตอนนี้เราทั้งคู่โสด คนก็เลยยิ่งจับตามองเป็นพิเศษ ?

“ก็อาจจะเป็นเพราะเรื่องนั้นด้วยครับ”

 

ไทม์ไลน์ความโสดของเราทั้งคู่ เราสามารถชี้แจงได้ไหม ?

‘”จริงๆ ตัวผมเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องส่วนตัวของเขานะครับ แต่สำหรับเรื่องของผม ก็เหมือนกับที่ผมเคยสัมภาษณ์ไปว่ามันเป็นช่วงก่อนปีใหม่ก่อนวันเกิดผม ซึ่งค่อนข้างที่จะเป็นระยะเวลาที่นานแล้ว ตามเหตุผลที่ให้ไปครับ”

 

เราสนิทกัน แต่ก็ไม่เคยไปแฮงค์เอาด้วยกันหรือไปเที่ยวด้วยกันใช่ไหม ?

“เรามีแต่ไปเที่ยวแบบเป็นกลุ่มๆ กับเพื่อนที่เรารู้จักครับ เพราะเพื่อนของเขาก็รู้จักกับผมเหมือนกัน รวมถึงเรายังมีแก๊งป๋าซ่าพาซิ่งและทีมงานรายการที่เราไปทานข้าวด้วยกันอีก แต่ถ้าไปกันสองคนไม่มีแน่นอนครับ”

 

นอกจากฝั่งที่จับผิดแล้ว มีฝั่งเชียร์ด้วยไหม ?

“ต้องเชียร์ด้วยเหรอครับ (หัวเราะ) ตอนนี้ผมยังไม่รู้อนาคตเหมือนกัน ขอทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อนดีกว่า เพราะแค่นี้ก็หนักสำหรับผมแล้วเหมือนกัน”

 

เรียกว่าตอนนี้เรายังไม่พร้อมดูแลใคร ?

“ใช่ครับ ตอนนี้ขอคุยกับตัวเองก่อนละกัน”

 

กังวลไหมว่าตอนนี้เราตอบแบบนี้ แต่อนาคตอะไรมันอาจจะเกิดขึ้นได้ ?

“ใช่ครับ เพราะเราไม่สามารถรู้อนาคตได้อยู่แล้วว่าเราจะไปคุยกับใคร หรือเราจะไปมีความสัมพันธ์ที่มันพัฒนาไปอย่างไรในอนาคต ซึ่งเราตอบไม่ได้อยู่แล้ว และอีกอย่างผมเองก็รู้สึกว่าอยากให้มันเป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า เหมือนกับที่ผมบอกผมอยากทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อน”

 

ณ ตอนนี้สำหรับ พิมฐา ก็คือเพื่อน ?

“ใช่ครับ ใช่”

 

 

 

พอโสดแล้วก็ฮอต รูปอ้าขาของเราคือฮามาก ?

“(หัวเราะ) ผมไม่ได้ตั้งใจ เรื่องอะไรพวกนี้มันอยู่ที่คนจะมองมากกว่า แต่ที่ผมลงผมรู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติและท้องฟ้ามันก็สวยดี จริงๆ ก่อนที่จะลงผมก็ซูมดูของตัวเองแล้วนะว่ามันมีอะไรเล็ดลอดหรือเปล่า และพอมันไม่ได้มีอะไรเล็ดลอดมันยังอยู่ในกางเกง ผมก็เลยโอเค”

 

เราทราบฟีคแบคไหมว่าทำไมคนถึงฮือฮากัน ?

“มันอยู่ที่คนจะมองมากกว่าครับ หรือถ้าคิดไปทางนั้นผมก็ไม่รู้จะห้ามอย่างไร (หัวเราะ)”

 

ไม่ได้นอยด์ใช่ไหมถ้าคนจะโฟกัสผิดจุด ?

“.เอ่อ…ก็เราไม่ได้ตั้งใจให้มันลงไปในทิศทางนั้น.”

 

พอเราโพสต์ภาพแบบนี้ออกไป มีโรคจิตทักเข้ามาหาบ้างหรือเปล่า ?

“มีๆๆๆ ผมเคยเข้าไปเช็กใน Direct Instagram ครับ เหมือนเขาบอกประมาณว่า ‘ถ้าหากพี่แบงค์เรียกชื่อเขา เขาจะถอดเสื้อให้ดู’ เหมือนเขาอยากให้เราตอบกลับ แต่ผมไม่ได้ตอบนะ”

 

เจอแค่ทางข้อความใช่ไหม ไม่ได้เจอใครมาเดินตามหรือทำอะไรแปลกๆ ?

“ไม่มีครับ”

 

บางอย่างที่เราเจอ เรามองว่ามันเป็นการคุกคามไหม ?

“เราคงห้ามความคิดเห็นของคนอื่นไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นผมจึงมองว่าถ้ามันมีฟีดแบคแบบนี้มา ผมก็แค่ต้องระวังตัวในการโพสต์รูปมากขึ้น แต่จริงๆ อย่างที่ผมบอก ผมไม่ได้คิดอะไรยังไงครับ”

 

ขอบคุณภาพจาก  รายการ ป๋าซ่าพาซิ่ง / bank_thiti

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0