วันนี้ (22ส.ค.62) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้ว่าขยายตัวต่ำกว่าคาด จากการกีดกันทางการค้าโลกที่ทวีความรุนแรง และขยายวงกว้างมากขึ้น ทำให้มีสัญญาณการส่งออกไทยในไตรมาส 3 หดตัวมากกว่าที่ประเมินไว้ ยิ่งส่งผลให้การบริโภคมีแนวโน้มชะลอลงมากกว่าที่ประเมินไว้จากรายได้ครัวเรือนนอกภาคเกษตรและการจ้างงานที่ลดลงโดยเฉพาะการจ้างงานล่วงเวลา (โอที) ในภาคการผลิตเพื่อส่งออก จึงต้องติดตามตลาดแรงงานทั้งลูกจ้างที่เป็นสัญญาจ้างชั่วคราว รายได้ครัวเรือนทั้งในและนอกภาคเกษตร รวมทั้งความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนซึ่งมีผลต่อการบริโภคอีกด้วย
นอกจากนี้คณะกรรมการฯ มีข้อสังเกตว่าการดำเนินนโยบายของรัฐบาลใหม่ควรระมัดระวังการกระตุ้นให้ครัวเรือนก่อหนี้เพิ่มเติมเพื่อไม่ให้ซ้ำเติมปัญหาหนี้ครัวเรือนในปัจจุบัน โดยการก่อหนี้ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามการขยายสินเชื่อทั้งจากธนาคารพาณิชย์ และนอนแบงก์ ซึ่งต้องติดตามการขยายสินเชื่อที่ผ่อนปรนมากขึ้น ทำให้ ธปท. ร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ กำหนดมาตรฐานกลางในการคำนวณภาระผ่อนชำระหนี้เทียบกับรายได้ (ดีเอสอาร์) เพื่อเตรียมความพร้อมหากจำเป็นต้องออกมาตรการดูแลหนี้ครัวเรือนเพิ่มเติม และต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของธุรกิจเอส เอ็มอีที่มีแนวโน้มด้อยลงสะท้อนจากเอ็นพีแอลที่ทรงตัว และอยู่ในระดับสูง ส่วนสินเชื่อที่ค้างชำระตั้งแต่ 30-90 วันติดต่อกัน (เอสเอ็ม) ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม กนง.จะติดตามพัฒนาการของการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งปัจจัยเสี่ยง ต่าง ๆ โดยเฉพาะผลกระทบของสภาวะการกีดกันทางการค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อประกอบการดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมและเห็นถึงความจำเป็นในการประสานเชิงนโยบาย ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในการสนับสนุนเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัว.