คนขับแท็กซี่ฝ่าไฟแดง มาชนรถเก๋งจนคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส อาจต้องเป็นเจ้าชายนิทรา เข้ามอบตัวแล้ว เผย ที่ไม่มาตามนัดไม่ได้ตั้งใจหนี แต่ไม่มีค่ารถ จะแลกด้วยชีวิตก็ยอม
นี่คือภาพจากกล้องหน้ารถบันทึกภาพขณะ รถคันที่มีกล้องได้ขับมาปกติ เมื่อสัญญาณไฟเขียวก็เลี้ยวผ่านแยกปรากฏว่ามีรถแท็กซี่สีเหลืองคันหนึ่งฝ่าไฟแดงมาชนเข้าอย่างจัง ทำให้คนขับรถที่มีกล้องได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่บริเวณแยกทางด่วนสุขาภิบาล 5 กทม.
ล่าสุดวันนี้ (20 ส.ค.) นายปรัธญาพล ธงไชย อายุ 36 ปี น้องชายผู้บาดเจ็บ และนางวรางรัตน์ สุนนท์ อายุ 40 ปี ภรรยาผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้เดินทางมาที่ สน.คันนายาว เพื่อหวังจะมาคุยกับคนขับแท็กซี่ เนื่องจากได้นัดแนะพูดคุยกับบริษัทประกันแล้วว่า จะมาพบวันนี้ เวลา 10.00 น. หลังจากเบี้ยวนัดมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ในวันนี้คนขับแท็กซี่ก็ไม่มา
ด้านนายปรัธญาพล น้องชายผู้บาดเจ็บเผยว่า ทางญาติไม่ได้มีการพูดคุยกับคนขับแท็กซี่เลย คนขับก็ไม่มีการออกมาขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด แม้ว่าขณะนี้ทางตำรวจได้ออกหมายเรียกคนขับแท็กซี่ไปแล้ว ส่วนด้านนางวรางรัตน์ ภรรยา เล่าทั้งน้ำตาว่า อาการของสามี ได้รับบาดเจ็บหนักมาก เลือดคลั่งในสมอง แพทย์เผยว่าสมองตายไปแล้ว 70% อยู่ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งตอนนี้ไม่สามารถกลับไปเป็นปกติแล้ว อาจจะต้องเป็นเจ้าชายนิทรา
นายปรัธญาพล ธงไชย น้องชายผู้บาดเจ็บ, นางวรางรัตน์ สุนนท์ ภรรยาผู้ได้รับบาดเจ็บ
โดยครอบครัวได้พูดคุยกับ เจ้าของอู่แท็กซี่ให้เช่า นายณรงค์ มานะทวีเกียรติ ซึ่งมารอพบคนขับแท็กซี่ดังกล่าวเช่นกัน โดย นายณรงค์ เล่าว่า จากที่เห็นจากในคลิป ชัดเจนมากว่าแท็กซี่เป็นคนผิด ช่วงเกิดเหตุยังติดต่อกับคนขับได้อยู่เลย แต่หลังจากนั้นก็ปิดเครื่องหนีไป สำหรับคนขับแท็กซี่คนนี้ มาขอเช่ารถขับในช่วงวันแม่ 12 ส.ค. ขับมาได้ 3 วัน ก็เกิดเหตุ ก่อนที่จะเช่ารถ ก็ได้เล่าให้เขาฟังว่า ตัวเองชีวิตลำบาก อยู่กับแม่สองคน ก่อนหน้านี้เคยขับแท็กซี่อยู่มีนบุรี มีใบขับขี่สาธารณะ ทางเจ้าของอู่รถจึงทำเอกสารให้เช่า
ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น. นายสมภพ ราชา อายุ 24 ปี คนขับแท็กซี่ดังกล่าว ได้เดินทางมาตามหมายเรียกแล้ว เมื่อเดินทางมาถึงก็มีตะลุมบอนเกิดขึ้นจากกลุ่มเพื่อนของผู้ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากไม่พอจากที่ไม่ยอมรับผิดชอบและหลบหนี ตำรวจ สน. คันนายาวได้เข้ามาห้ามและแยกย้ายทั้งสองฝ่าย พร้อมนำตัวคนขับรถแท็กซี่ส่งพนักงานสอบสวน
นายสมภพ ราชา คนขับแท็กซี่คันดังกล่าว
ด้านนายสมภพ เผยว่า ไม่ได้ตั้งใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่เวลา 10.00 น. ไม่มาตามนัดเพราะเขาหาค่ารถมาไม่ได้ เนื่องจากชีวิตอยู่อย่างลำบาก ทั้งนี้ยอมรับผิดทุกอย่าง ตอนเกิดเหตุไม่แน่ใจว่าสัญญาณไฟของตัวเองเป็นสีอะไร พอรู้ว่าเป็นคนผิด ก็พร้อมที่จะรับผิด หากแลกด้วยชีวิตได้ ก็จะแลก
