เอแด็ง อาซาร์ ได้รับการเปิดตัวในฐานะผู้เล่นของ เรอัล มาดริด เป็นแกแล็กติโกคนใหม่ของทัพราชันชุดขาว ไปเมื่อปลายสัปดาห์ แต่ แฟนบอลดูจะยังไม่พอใจกับมิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยี่ยมเพียงคนเดียวในซัมเมอร์นี้สำหรับการขึ้นไปโค่นบัลลังก์ของบาร์เซโลน่า มีเสียงตะโกนจากสแตนด์บอกว่า "เราต้องการ เอ็มบัปเป้" แต่บอร์ดสโมสรจะพร้อมตอบสนองหรือไม่ หลังจากที่ใช้เงินเสริมทัพไปแล้วถึง 342 ล้านยูเอสดอลลาร์ คว้าหน้าใหม่มา 5 คน ในขณะที่ยังมีข่าวกับ พอล ป็อกบา ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถี่ขึ้นอีกในช่วงหลัง แฟนเรอัล มาดริด ยังคงเรียกร้องต่อสโมสรให้ทำการซื้อซูเปอร์สตาร์เพิ่มอีกคน คือ คิลิย็อง เอ็มบัปเป้ ไอ้หนูจอมพลิ้ววัย 20 ของ สโมสร ปารีส แซงต์ แฌร์แม็ง ในลีกเอิง ที่มีข่าวกับทีมราชันชุดขาวมานาน ซึ่งบรรดากองเชียร์ของทีมอยากให้ทางสโมสรคว้าตัวมาร่วมทีมให้ได้ในซัมเมอร์นี้ เปแอสเช ยังไม่มีความคิดที่จะขายกองหน้าคนสำคัญรายนี้ออกไป หลังทำผลงานซัดไปถึง 39 ประตูมากอย่างเหลือเชื่อเกินวัย จากการลงสนามไป 43 นัดในทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ในวันเปิดตัว อาซาร์ ที่ย้ายจาก เชลซี ด้วยค่าตัวถึง 150 ล้านปอนด์ มีแฟนมาดริดเข้ามาพร้อมต้อนรับเพลย์เมกเกอร์คนใหม่ที่ เบร์นาเบว ถึงราว 50,000 คน แต่การมาของ มิดฟิลด์ชาวเบลเยี่ยม ก็ไม่ได้ทำให้ แฟนเลิกกดดันสโมสรในการซื้อผู้เล่นบิ๊กเนมเพิ่มอีกในซัมเมอร์นี้ หลังจากต้องพบความผิดหวังกับความล้มเหลวของทีมขั้นสุดในฤดูกาลที่ผ่านมา และเสียงตะโกนจากสแตนด์บอกว่า "We want Mbappe" ก็ดังขึ้นช่วงพรีเซนเตชั่นขณะเปิดตัว อาซาร์ อย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสฯ พอล ป็อกบา เป็นนักเตะอีกคนที่ มาดริด ต้องการตัวในซัมเมอร์นี้ ถาม อาซาร์ ว่า ทางสโมสรควรเซ็นสัญญาเขากับ เอ็มบัปเป้ หรือไม่ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยี่ยม ตอบ "ผมต้องการเล่นกับนักเตะที่เก่งที่สุด และทุกคนที่มีการเอ่ยชื่อมาล้วนเป็นนักเตะระดับสุดยอด แต่ผมไม่ได้มีหน้าที่ต้องมาตอบคำถามเกี่ยวกับการซื้อนักเตะเสริมทัพ" อาซาร์ ยังยอมรับด้วยว่า เขามา ลาลีกา ก็เพื่อล่า บัลลง ดอร์ "ผมอายุ 28 แล้ว ผมอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของนักฟุตบอลอาชีพ ผมฝันที่จะได้มาเล่นให้กับสโมสรแห่งนี้มานานมากแล้ว ผมคิดว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการเปลี่ยนแปลง และในที่สุดผมก็ได้ย้ายมาอยู่กับสโมสรที่ดีที่สุดในโลกเป็นที่เรียบร้อย" "ผมไม่เคยสงสัยเลยว่าสุดท้ายผมจะได้มาเล่นให้ เรอัล มาดริด ผมจะพยายามให้ดีที่สุดเพื่อกลายเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก แต่ก่อนที่จะถึงวันนั้นผมจะพยายามที่จะทำให้ เรอัล มาดริด เป็นทีมที่ดีที่สุดในโลกอีกครั้งให้ได้" แฟนราชันชุดขาว ต้องการให้ทีมคว้า ซูเปอร์สตาร์ เข้าเสริมแกร่งอีกคน แต่การที่ ทางสโมสร ใช้เงินไปแล้ว 342 ล้านปอนด์ คว้านักเตะฝีเท้าดีได้แล้ว 5 คน จะเป็นอุปสรรคหรือไม่ และนักเตะที่แฟนๆล็อคสเป็คให้ไว้ ก็ดันเป็น คิลิย็อง เอ็มบัปเป้ นักเตะดาวรุ่งวัย 20 ปี เจ้าของสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลก ทีมมหาอำนาจลูกหนังของลาลีกา จำเป็นต้องสร้างทีมขึ้นใหม่ให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง หลังขาย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปให้ ยูเวนตุส เมื่อตอนซัมเมอร์ที่แล้ว ที่ทำให้ ซิเนอดีน ซิดาน เฮ้ดโค้ชคนปัจจุบันต้องลาเก้าอี้หลังจากนั้นไม่กี่วัน ทั้งที่เพิ่งพาทีมคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันได่อย่างไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน แต่ปีนี้พวกเขาจอดป้ายแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ขณะที่ ในลาลีกา ก็ฟอร์มกระท่อนกระแท่นอย่างมาก ส่วนในโคปา เดล เรย์ ก็ไปได้สุดที่รอบเซมิไฟนอล ซิดาน ถูกเชิญกลับมาเป็นโค้ชอีกครั้งในเดือน มีนาคม แทน ซานติอาโก้ โซลารี่ เพราะบอร์ดทนเห็นหายนะของทีมอีกต่อไปไม่ไหว สิ่งที่พวกเขาร้างลาไปคือครองบัลลังก์แชมป์ลีกสูงสุดของสเปน ที่ บาร์เซโลน่า ยึดมา 3 ปีติด ไม่แปลกที่เราได้เห็น มาดริด ทุ่มเสริมทัพครั้งใหญ่ในซัมเมอร์นี้ คว้าตัว เอแด็ง อาซาร์, ลูก้า โจวิช, เอแดร์ มิลิเตา, แฟรล็องด์ เมนดี้ และ โรดริโก โกเอส รวมแล้ว 342 ล้านยูเอสดอลลาร์ สื่อดังอย่าง มาร์ก้า ระบุว่า เรอัล มาดริด มีแผนที่จะซื้อนักเตะเพิ่ม และให้ความสนใจไปที่ พอล ป็อกบา มิดฟิลด์ตัวแสบของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าตัว 170 ล้านยูเอส แต่อีกรายงานจากสื่อเดียวกันก็บอกว่าทีมราชันชุดขาวกำลังรอดูท่าทีของ เอ็มบัปเป้ ไอ้หนูมหัศจรรย์ที่เคยยิงไป 4 ประตูในเวลาเพียง 13 นาทีเท่านั้น และโชว์ฟอร์มได้อย่างไม่มีตกแม้ในช่วงที่ไม่มี เนย์มาร์ อยู่ในทีม เอ็มบัปเป้ เคยเปรยออกมาเมื่อเร็วๆนี้ว่าอยากย้ายจาก ปารีส แซงต์ แฌร์แม็ง แต่จะมีสักกี่ทีมที่สามารถจ่ายค่าตัวเขาได้ที่ 280 ล้านยูเอส เรอัล มาดริด เป็นหนึ่งในไม่กี่ทีมที่สามารถจ่ายได้ แต่หากเอาจริง ซัมเมอร์พวกเขาก็อาจใช้เงินไปอย่างมหาศาลถึง 792 ล้านยูเอส และการจะซื้อผู้เล่นเพิ่มอีกคน เรอัล จะต้องขายนักเตะของทีมออกไปจำนวนหนึ่งเพื่อได้งบทำทีมกลับมา สื่อสเปนมองว่า แกเร็ธ เบล กับ ฮาเมส โรดริเกซ จะต้องถูกขาย และการขาย เบล ให้ ยูไนเต็ด หรือแม้กระทั่งขายคืนสโมสรเดิม คือท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ก็น่าจะได้เงินกลับมาเพียง 55 ล้านยูเอส
