โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

แข้งพันล้านคนต่อไป “เจมส์ แมดดิสัน” ของรักของหวง “เลสเตอร์”

Manager Online

เผยแพร่ 17 พ.ย. 2562 เวลา 07.14 น. • MGR Online

พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ ชื่อของ เลสเตอร์ ซิตี แชมป์เก่าปี 2015-16 กลับมาอยู่ในความสนใจจากผลงานบนสนามที่ร้อนแรงสูสีไม่แพ้สองทีมลุ้นแชมป์ลีกอย่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี โดยลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เดินหน้าเก็บชัยชนะสำคัญมากมายจนตอนนี้ครองตำแหน่งรองจ่าฝูง ส่วนหนึ่งนอกจากแผนการเล่นที่ไฉไล นักเตะทุกคนก็อยู่ในฟอร์มที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะ เจมส์ แมดดิสัน ที่กำลังฉายแสงรัศมีเปล่งปลั่ง

พลพรรค “สุนัขจิ้งจอก” ขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นทีมที่มักเสียนักเตะสำคัญให้กับทีมยักษ์ใหญ่อื่นๆมากมายทั้ง ริยาด มาห์เรซ ที่ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ซิตี, เอ็นโกโล กองเต้ จอมตัดเกมที่ออกไปอยู่ชายคา เชลซี, แฮร์รี แม็คไกวร์ ปราการหลังตัวแกร่งที่เพิ่งถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สอยตัวไปเมื่อตลาดซัมเมอร์ กระนั้นพวกเขาก็ปั้นนักเตะใหม่ขึ้นมาเป็นตัวตายตัวแทนได้เสมอ ล่าสุดก็เป็น แมดดิสัน ซึ่งกลายเป็นหัวใจของทีมในตำแหน่งกองกลางตัวรุก ช่วยขับเคลื่อนเกมจนทำให้ทีมกดประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ส่วนตัวเองก็ยิงไปแล้ว 4 ตุง

ดาวรุ่งหนุ่มอังกฤษ เป็นผลิตผลจากอะคาเดมี่ของ โคเวนทรี ซิตี ทีมระดับลีกวันของอังกฤษ บ่มเพาะฝีเท้าบนฟลอร์หญ้าตั้งแต่เด็กจนกระทั่งได้รับการผลักดันขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ในปี 2014 และได้เซ็นสัญญาอาชีพ แต่โชคร้ายมีอาการบาดเจ็บแผ่นหลังมาสกัดดาวรุ่งทำให้แทบไม่ได้ลงสนามมากนัก กระนั้นฟ้ายังมีตาเมื่อ นอริช ซิตี เห็นแววปลุกปั้นต่อไปได้จึงดึงตัวมาเซ็นสัญญาเมื่อปี 2016 แต่เนื่องจากประสบการณ์ยังน้อยเลยส่งตัวไปให้ อาเบอร์ดีน ทีมจากลีกสกอตติชไปสร้างเสริมกระดูกก่อน

แม้จะใช้เวลานานไปหน่อยเกือบ 1 ปีกว่าจะได้สัมผัสหญ้าที่อังกฤษในลีก เดอะ แชมเปียนชิป แต่เมื่อได้กลับมาอยู่กับ “นกขมิ้น” แมดดิสัน ที่ไปฝึกวิชามาเรียบร้อยก็สร้างความประทับใจแก่ทีมงานและแฟนบอล ออกสตาร์ทเป็นตัวหลักของทีมเกือบทุกนัด กดไป 15 ประตูจนได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2017-18 รวมถึงมีชื่อติดลุ้นรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของลีกด้วย ถึงจะพลาดรางวัลไปแต่ก็ทำให้ชื่อของเจ้าหนู แมดดิสัน เริ่มขจรออกไปจนเตะตาทีมงานของ เลสเตอร์ ซิตี ที่กำลังมองหานักเตะใหม่เสริมทีมพอดี

จนซัมเมอร์ปี 2018 เลสเตอร์ ประกาศเซ็นสัญญาพา แมดดิสัน มาวาดลวดลายที่ คิง พาวเวอร์ สเตเดียม สนนราคาจ่ายให้ นอริช ซิตี ที่ 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 775 ล้านบาท) ก่อนหน้านี้ เลสเตอร์ ได้รับเสียงครหาเรื่องหว่านเงินซื้อนักเตะไปมากมาย แต่คุณภาพที่ได้กลับไม่ตอบแทนเม็ดเงินที่จ่ายไป กระนั้นการมาของ แมดดิสัน ก็เปรียบดังการตัดสินใจที่ถูกต้องเมื่อเจ้าตัวทำประตูได้ต่อเนื่อง ประสานงานกับแดนหน้าได้ลงตัวแถมมีทีเด็ดจากลูกเซตพีซสร้างความได้เปรียบให้ทีม จนกลายเป็นคนที่ขาดไม่ได้ไปแล้ว

ถึงเป็นคนที่ยิงประตูได้ไม่เยอะแต่การเชื่อมเกมที่ไร้รอยต่อก็ทำให้ดาวเตะชาวอังกฤษเชื้อสายไอริช ได้รับโอกาสสำคัญกับทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรกเมื่อ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือที่ขึ้นชื่อเรื่องการเรียกนักเตะดาวรุ่งมาร่วมเล่นทีมชาติกับนักเตะตัวเก๋า เรียก แมดดิสัน มาติดธงครั้งแรกสำหรับเกมที่ “สิงโตคำราม” เปิดบ้านเจอ มอนเตเนโกร วันที่ 14 พฤศจิกายน และไปเยือน โคโซโว วันที่ 17 พฤศจิกายน ในภารกิจทำศึก ยูโร 2020 รอบคัดเลือก เพื่อการันตีผ่านเข้ารอบสุดท้ายแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

“เขา (แมดดิสัน) เป็นนักเตะที่โดดเด่นเรื่องเทคนิค ทักษะ สายตาที่มองการณ์ไกล การเซตเกมอยู่ในระดับเวิลด์คลาส แม้ตอนอยู่กับสโมสรเขาจะอยู่ตำแหน่งแดนกลางแต่เขาสามารถเรียนรู้การเล่นด้านอื่นๆเพิ่มเติมได้อีก” เซาธ์เกต พูดถึงแข้ง เลสเตอร์ ซิตี ซึ่งน่าสนใจยิ่งว่าเจ้าตัวจะได้รับโอกาสมากน้อยเพียงใดสำหรับสัปดาห์พักเบรคทีมชาติที่กำลังจะมาถึง

และเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อโชว์ลีลาในสนามได้ดี ก็ต้องมีทีมยักษ์ใหญ่ให้ความสนใจ โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีข่าวขาดแคลนนักเตะสร้างสรรค์เกมกลางสนามและมองว่า แมดดิสัน จะสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีควบคู่กับ พอล ป็อกบา ดาวเตะซูเปอร์สตาร์ชาวฝรั่งเศส ขณะเดียวกัน “ผีแดง” ภายใต้การดูแลของ โอเล กุนนาร์ โซลชา ซึ่งมีรสนิยมให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งมาเล่นทีมชุดใหญ่เป็นทุน โอกาสยึดตัวจริงในสีเสื้อ แมนฯยู ของ แมดดิสัน เป็นไปได้สูง

ดังนั้นกลายเป็นว่าสัปดาห์ทีมชาตินี้ ถือเป็นโอกาสชั้นดีที่หนุ่มน้อยจากโคเวนทรี จะได้แสดงฝีเท้าออกมาให้โลกได้เห็น ซึ่งหากเล่นกับทีมชาติอังกฤษ 2 เกมนี้ได้ยอดเยี่ยมเหมือนกับที่เล่นให้ เลสเตอร์ ซิตี ตำแหน่งนักเตะค่าตัว 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,900 ล้านบาท) คนต่อไปคงไม่ใช่ใครอื่น

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0