โลร็อง เอตาเม่ อดีตดาวเตะของ อาร์เซนอล เผยว่าเขาไม่เคยเสียใจที่วิ่งเข้าไปผลักและเยาะเย้ย รุด ฟาน นิสเทลรอย หลังพลาดจุดโทษในเกมที่พวกเขาเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 ใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปี 2003
เมื่อย้อนกลับไปเมื่อปี 2003 เกมสุดเดือดของทั้งสองทีมเริ่มต้นจาก ปาทริก วิเอร่า ที่ไปยื่นขาเหยียดใส่ นิสเทลรอย จากจังหวะที่เจ้าตัวโดนทำฟาวล์ จนได้รับใบเหลืองที่สองเป็นแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้เกิดการชุลมุนขึ้นในเวลาต่อมา
ก่อนที่เกมจะเดือดขึ้นไปอีกเมื่อฝั่ง "ปีศาจแดง" เจ้าบ้านมาได้จุดโทษในนาทีที่ 90+1 จากจังหวะที่นักเตะทีมเยือนมองว่าไม่ชัดเจนนัก ทว่าเป็นศูนย์หน้าชาวดัตช์ที่ยิงไปชนคานเต็มๆ จนถูกนักเตะฝั่งทีมเยือนวิ่งเข้ามาเย้ย เมื่อเสียงนกหวีดเป่าจบเกมจะดังขึ้น นิสเทลรอย ก็โดนนักเตะของ "ปืนใหญ่" หลายคนเข้ามารุมผลัก ตบหัว กันอย่างสะใจ อีกครั้ง
โดย เอตาเม่ เองที่เป็นหนึ่งในนักเตะที่เข้าไปผลักและเยะเย้ย นิสเทลรอย หลังจบเกม ก็ยอมรับว่าเขาไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่เขาทำ
"ผู้คนมาถามผมหลายครั้งแล้วว่า 'ตอนนี้คุณยังจะทำแบบนั้นอีกไหม' ผมก็บอกไปตลอดว่าผมทำแน่นอน 120% เลย" เอตาม่า กล่าวใน Handbrake Off podcast
"ผมไม่สนเรื่องแบนเลย ค่าปรับ 40,000 ปอนด์ ผมก็ไม่สน ตราบเท่าที่ผมได้ปกป้องคนที่ผมแคร์ คนที่ใช้ห้องแต่งตัวห้องเดียวกับผม คนที่ผมรัก"
"ผมบอกมาตลอดว่าเมื่อผมย้ายมา อาร์เซนอล ผมรู้สึกว่าพวกเขาเหมือนเป็นครอบครัว พวกเราเต็มไปด้วยกลุ่มคนที่ยอดเยี่ยม"
"พวกเราแคร์กันและกันทั้งในและนอกสนาม ผมเลยมองว่า อาร์เซน่อล เป็นครอบครัวของผมได้ เพราะฉะนั้นผมจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องครอบครัวของผม"
"ในเรื่องที่เกิดขึ้นจากเกมที่ออกไปเยือน ยูไนเต็ด นี้ ผมคิดว่าผมคงยังจะทำมันทุกปี ถ้ามันจำเป็นต้องทำ"
