'เอซุส' เร่งตลาดโน้ตบุ๊กนำสินค้าขายไทยที่แรกในอาเซียน

เอซุส (Asus) เดินหน้าตอกย้ำการให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทยอย่างต่อเนื่องล่าสุดนำโน้ตบุ๊กที่เพิ่งเปิดตัวในงานคอมพิวเทค ไต้หวัน ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเข้ามาทำตลาดในไทยเป็นแห่งแรกในอาเซียนพร้อมเผยส่วนแบ่งการตลาดขยับเข้าไปใกล้เบอร์ 1 ในแง่ยอดขายมากขึ้น

นายอัลวิน เฉิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซุส (มาร์เกตติ้ง) ประเทศไทย กล่าวว่า การนำสินค้าเข้ามาสู่ตลาดไทยที่รวดเร็วขึ้นถือเป็นการแสดงให้เห็นว่าเอซุสให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเห็นข้อมูลสินค้าเปิดใหม่ในต่างประเทศก็แสดงให้เห็นถึงความต้องการในทันที

'จากเดิมระยะเวลาในการนำสินค้าเข้าสู่ตลาดไทยหลังจากเปิดตัวในระดับโลกจะอยู่ที่ราว 1 ไตรมาส แต่จากการทำตลาดของเอซุสในไทยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเมื่อมีการเปิดตัวแล้วสินค้าจะพร้อมเข้ามาทำตลาดไม่เกิน 1 เดือนซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี'

ขณะเดียวกัน ผู้บริหารเอซุส ยังเปิดเผยว่าจากข้อมูลภายในของเอซุสในตลาดโน้ตบุ๊กเดือนที่ผ่านมามีส่วนแบ่งตลาดในเชิงมูลค่าขึ้นมาเป็นเบอร์1 ในตลาดแล้วด้วยส่วนแบ่งราว 30% ส่วนคู่แข่งจะอยู่ที่ราว 28% แต่ในเชิงของจำนวนเครื่องเอซุสยังเป็นเบอร์ 2 ด้วยส่วนแบ่งราว 29% ในขณะที่เบอร์ 1 จะอยู่ราว 32%

'ตอนนี้เอซุสถือว่าเป็นผู้นำตลาดโน้ตบุ๊กในช่วงระดับราคาต่ำกว่า 15,000บาทแล้วเช่นเดียวกับในตลาดช่วงระดับราคา 20,000 - 30,000 บาท จะมีในช่วงราคา 15,000 - 20,000 บาท ที่ยังเป็นเบอร์ 2 อยู่ จึงได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาเสริมในตลาดนี้'

อย่างไรก็ตาม เอซุส ไม่ได้มองถึงเป้าหมายในการเป็นเบอร์ 1 ในตลาดเป็นหลักแต่เน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเพื่อที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อย่างที่ผ่านมาเอซุสทำงานร่วมกับทางไมโครซอฟท์ในการเลือกใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ในโน้ตบุ๊กทุกรุ่นที่ทำตลาด

นอกจากนี้ ยังมีการใส่ใจรายละเอียดอย่างเรื่องบริการหลังการขายที่พัฒนาขึ้นต่อเนื่องรวมถึงการให้ความสำคัญแม้แต่จุดเล็กๆในผลิตภัณฑ์ อย่างใน Vivobook S14รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในวันนี้ ก็มีการเพิ่มระบบป้องกันการสั่นสะเทือนฮาร์ดดิสก์มาช่วยป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม

สำหรับ Vivobook S14 (431) และ Vivobook S15 (531) ที่นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย หลังจากเปิดตัวที่งานคอมพิวเทค ประเทศไต้หวัน จะชูความโดดเด่นใน 3 เรื่องหลักคือเรื่องของดีไซน์ มีสีสันให้เลือก 5 สี ประสิทธิภาพในการทำงานและเรื่องของการใช้งานที่เหมาะกับทุกคน

โดยราคาเริ่มต้นของรุ่นที่ใช้หน่วยประมวลผล Intel Core i5 จะอยู่ที่ 24,990 บาท ส่วนรุ่นที่ใช้หน่วยประมวลผล Intel Core i7 จะอยู่ที่ 29,990บาท โดยทางเอซุสได้มีการเปรียบเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันจะได้ประสิทธิภาพที่สูงกว่า ให้พื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่าด้วยการผสมผสานการใช้งาน SSD ร่วมกับ HDD ให้ผู้บริโภคใช้งาน

ทั้งนี้ ยังมีการเปิดตัวโน้ตบุ๊ก Asus Laptop X409 และ X509เป็นครั้งแรกในโลกเพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้งานที่ต้องการโน้ตบุ๊กราคาประหยัด เริ่มต้นที่13,990 บาท มีให้เลือกตั้งแต่ Intel Core i3 Core i5 และ Core i7