ตามแผน “พรรคขั้วฝ่ายค้าน” เตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล“ประยุทธ์ 2” ปักหมุดไว้วันที่ 20 มกราคม 2563 เพื่อให้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุวาระ ซึ่งคาดว่าจะเปิดอภิปราย ได้ประมาณปลายเดือนมกราคม หรือต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้
ฝ่ายค้านจัดขุนพลฝีมือดีออกศึกไว้พร้อมสรรพ ทั้งยังได้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย มือเก๋าเกมในสภามาเสริมข้อมูลให้ เรียกได้ว่า อาวุธครบมือพร้อมฟาดฟันคู่ต่อสู้ในสภาให้เลือดอาบ
แต่วันนี้หากมองสถานการณ์ในพรรคขั้วฝ่ายค้าน หลายฝ่ายพูดตรงกันว่าคงต้องหันมารักษาแผลของตัวเองก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคแกนนำอย่าง“เพื่อไทย”
หลังปรากฏข่าวลือเมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมาว่า“คุณหญิงหน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ประธานคณะ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เก็บข้าวเก็บของออกจากพรรคตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่ แถมยังร่างหนังสือเตรียมลาออกจาก“ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย” โดยยื่นตรงถึง“นายทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่แห่งดูไบ และ“คุณหญิง อ้อ-พจมาน ณ ป้อมเพชร” ด้วย แต่เรื่องก็ยังเงียบกริบ
สัญญาณ“แพแตก” ภายในพรรคเพื่อไทยรอบนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่พรรคเพื่อไทยไฟเขียวตั้ง“ร.ต.อ.เฉลิม” ประธานยุทธศาสตร์เฉพาะกิจ ขึ้นมาเป็นหัวเรือใหญ่นำทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ย่อมต้องสร้างความขุ่นเคืองให้กับ“คุณหญิงหน่อย” เพราะนั่นหมายความว่า พรรคกำลังลดบทบาทของเธอลงอย่างชัดเจนแล้ว
ร.ต.อ.เฉลิม ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย เคยกล่าวถึงบทบาทหน้าที่ของ“คุณหญิงหน่อย” แบบไม่เกรงใจว่า เมื่อเลือกตั้งเสร็จสิ้นลง“ประธานยุทธศาสตร์พรรค” ก็หมดภารกิจ
ความพ่ายแพ้อย่างยับเยินที่เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่นที่ผ่านมา คือ ภาพสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานของทีมพรรคเพื่อไทยที่“ไม่ประสาน” และ“ไม่สอดคล้อง” เป็นเนื้อเดียวกันเหมือนสมัยก่อน ซึ่งที่ผ่านมาภายในพรรคเพื่อไทยเองมีปัญหาเชิงโครงสร้างภายในพรรคที่มีความซํ้าซ้อนในเรื่อง ของอำนาจหน้าที่มาตลอด
ดังเช่น หัวหน้าพรรค ต้องมาจากโควตา ส.ส.ภาคเหนือ ขณะที่เก้าอี้เลขาธิการพรรคก็ล็อกไว้ให้ ส.ส.กทม.เป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเกิดปัญหาขึ้น เมื่อขาดเจ้าของพรรคตัวจริง เสียงจริง มาบริหาร เพราะไม่มีคนมีอำนาจที่จะสั่งการหรือตัดสินใจได้นั่นเอง
สภาพของพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน ส.ส.จึงแบ่งออกเป็นก๊กเป็นก๊วนชัดเจนโดย ส.ส.พื้นที่ภาคเหนือขึ้นตรงกับ“เจ๊แดง-นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์” ที่แม้ว่าวันนี้จะดูอยู่ห่างๆ แต่ก็ยังความแข็งแกร่งในการดูแลพื้นที่นี้อยู่
ขณะที่ ส.ส.พื้นที่ภาคอีสานนั้น ไม่มีเจ้าภาพดูแลชัดเจน ที่ผ่านมาจึงต้องเดินทางไปพบกับ“ทักษิณ” นายใหญ่ที่ดูไบอยู่เนืองๆ ซึ่ง ส.ส.กลุ่มนี้มีพื้นที่ที่ซ้อนทับอยู่กับ ส.ส.ในการดูแลของ“คุณหญิงหน่อย” ด้วย
ยิ่งเจาะลึกไส้ในลงไปจะยิ่งเห็นภาพชัดเจนขึ้น ก่อนหน้านี้หากจำกันได้ เคยปรากฏภาพของ“สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ส.ส.เชียงใหม่ ออกไปตั้งพรรคของตัวเองในนาม“พรรคเพื่อชาติ” แต่สุดท้ายกลับมานั่งเป็น“หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” จากการสนับสนุนของ“เจ๊แดง”
ขณะที่มี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. สายตรงของ“คุณหญิงหน่อย” นั่งเป็น“แม่บ้านพรรค” แต่วันนี้บทบาทการบริหารงานภายในพรรคกลับเป็นของ ภูมิธรรม เวชยชัย รองประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย
ในวันเปิดบ้านเลี้ยงขอบคุณทีมงานที่ช่วยงานเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น ณ ลาดปลาเค้า 60 สะท้อนนัยที่สำคัญยิ่ง นอกจากกำลังเดินเกมวัดพลัง ส.ส.ในสังกัดแล้ว“คุณหญิงหน่อย” ยังใช้งานนี้ตอบโต้กระแสข่าวลือที่เกิดขึ้นว่า
“…มีการทำเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่เข้ามาทำงานมีตำแหน่ง ที่ผ่านมาไม่เคยตอบโต้เพราะคิดว่าพรรคต้องรบรากับคู่แข่งรอบทิศ จึงควรทำให้พรรคแข็งแรง จึงเก็บความขมขื่นในใจไม่เคยตอบโต้ และอยากให้คนที่ทำเช่นนี้นึกถึงพรรคด้วย
พรรคการเมืองมีความคิดแตกต่างกันได้ แต่ถ้าใครคิดว่าทำอะไรไม่ถูกควรพูดกันตรงๆ กล้าๆ บอกมาได้ จะได้ปรับตัว หรือออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อเปิดชื่อออกมา ไม่ใช่ใช้วิธีลอบกัดเป็นแหล่งข่าวแบบนี้ถือว่า ไม่ได้ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษไม่มีศักดิ์ศรี
วันนี้คนไม่กี่คนที่อาจไม่ชอบก็ควรพูดตรงๆ ที่ผ่านมาเต็มที่กับพรรคเพราะรักพรรค การปล่อยข่าวเช่นนี้ทำให้พรรคเสียหาย จึงอยากให้คิดถึงพรรคด้วย วันนี้คิดว่าพรรคแข็งแรงแล้วหรือถึงมาตีกันในพรรคเช่นนี้..”
เมื่อพรรคขั้วฝ่ายค้านที่เคยวางกลยุทธ์เดินเกม 2 ขา ข้างหนึ่งให้พรรคเพื่อไทยเล่นเกมในสภา ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ เล่นนอกสภา แต่วันนี้พรรคขั้วฝ่ายค้านมีความไม่แน่นอนสูง
ขณะที่“คุณหญิงหน่อย” กำลังเล่นเกมวัดดวงเดิมพันด้วยเก้าอี้“ประธานยุทธศาสตร์พรรค” เชื่อได้ว่าหากตัดสินใจดังเช่นกระแสข่าวลือที่ออกมา งานนี้ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยคงกระอักเลือด เพราะมั่นใจได้เลยว่า จะมี ส.ส.ใต้ปีก“คุณหญิงหน่อย” เดินตามออกมาอีกหลายสิบชีวิต
ยังต้องดูกันต่อไปว่า เกมหยั่งเชิงที่เกิดขึ้นนั้นจะไปจบที่ใด“คุณหญิงหน่อย” เลือกที่จะอยู่ต่อ หรือตัดใจเลือกเดินออกจากพรรคเพื่อไทย เพื่อไปเข้าร่วมสังกัดกับพรรคใดพรรคหนึ่งหรือไม่
น่าสนใจยิ่ง…
หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,541 วันที่ 19-22 มกราคม 2563
