โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

เหตุใดผู้หญิงชาวญี่ปุ่นจึงอายุยืนที่สุดในโลกแถมไม่อ้วนอีกด้วย

issue247.com

อัพเดต 14 ธ.ค. 2561 เวลา 04.34 น. • เผยแพร่ 16 ธ.ค. 2561 เวลา 00.00 น.

เชื่อว่าเราทุกคนคงเคยได้ยินกิตติศัพท์เกี่ยวกับการมีอายุยืนของหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นซึ่งส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและวิถีชีวิตของพวกเขา โดยทั่วไปอาหารญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อมากในเรื่องการมีประโยชน์ต่อสุขภาพและไม่ได้จำกัดอยู่แค่ซูชิโรลเท่านั้น ปัจจุบันญี่ปุ่นก็ประสบกับปัญหาเรื่องอาหารที่ด้อยคุณภาพลงเช่นกัน อย่างไรก็ตามวิถีชีวิตในอดีตก็ยังไม่ถูกลืมเลือนหายไปและนี่คือ 7 เคล็ดลับการมีสุขภาพดีของชาวญี่ปุ่น

 

เคล็ดลับที่ 1 : ปลา ถั่วเหลือง ข้าว ผัก และผลไม้

ลืมกระบวนการทำอาหารที่แสนยุ่งยากแถมยังใช้เวลานานอย่างในภัตตาคารไปได้เลย เพราะมื้ออาหารส่วนใหญ่ของชาวญี่ปุ่นจะประกอบไปด้วยปลาย่างกับข้าวสวย ผักต้ม ซุปมิโซะ 1 ถ้วยและชาเขียว ตบท้ายด้วยผลไม้เป็นของหวาน เท่านี้เอง

 

เคล็ดลับที่ 2 : สัดส่วนขนาดเล็ก

เคยสังเกตไหมว่าอาหารในภัตตาคารญี่ปุ่นมักมาในปริมาณเพียงเล็กน้อย การจัดแต่งอาหารถือเป็นสิ่งสำคัญมากในญี่ปุ่น ขณะที่กฎคือต้องการให้คุณได้ละเลียดรสชาติของอาหารอย่างช้าๆ ซึ่งประกอบด้วยปัจจัยดังต่อไปนี้

  • อาหารแต่ละจานจะไม่เยอะจนแน่น
  • และจัดเสิร์ฟมาในจานของตัวเอง
  • ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อให้คุณดื่มด่ำกับรูปลักษณ์อันประณีตของอาหาร
  • ควรหยุดรับประทานเมื่อรู้สึกอิ่มแล้วราวๆ 80%

 

หากคุณกำลังลดความอ้วนก็สามารถนำการควบคุมสัดส่วนของอาหารมาประยุกต์ใช้ได้ และด้วยวิธีนี้เองทำให้บางคนสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 88 ปอนด์ภายในระยะเวลาแค่ 1 ปี

 

เคล็ดลับที่ 3 : ปรุงอาหารเบาๆ

ไม่ว่าจะเป็นวิธีต้ม ย่าง ผัด หรือตุ๋นก็เหมาะที่จะนำมาใช้ประกอบอาหาร นอกจากนี้เชฟชาวญี่ปุ่นจะเลือกใช้น้ำมันที่ไม่ส่งผลกระทบต่อหัวใจและหลีกเลี่ยงส่วนผสมหรือการปรุงอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูงเป็นเวลานานๆ ที่สำคัญพวกเขานิยมอาหารสดใหม่และตกแต่งง่ายซึ่งดีต่อสุขภาพแถมยังช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องด้วย

 

เคล็ดลับที่ 4 : ไม่ใช้ขนมปัง เลือกใช้แต่ข้าว

ชาวญี่ปุ่นไม่นิยมรับประทานขนมปังแต่จะมีข้าวเป็นองค์ประกอบสำคัญในอาหารทุกมื้อ ปัจจุบันข้าวกล้องซึ่งดีต่อสุขภาพมากกว่ากำลังเข้ามาแทนที่ข้าวขาวแล้ว

 

เคล็ดลับที่ 5 : เสริมพลังในอาหารมื้อเช้าด้วยซุปมิโซะ

ในญี่ปุ่นถือว่าอาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญและใหญ่มากซึ่งจะประกอบไปด้วยอาหารสัดส่วนเล็กๆหลากหลายชนิด ขณะที่ซุปมิโซะซึ่งอุดมไปด้วยโพรไบโอติกคือแหล่งพลังงานที่สำคัญในมื้อแรกของวัน

 

เคล็ดลับที่ 6 : รับประทานของหวานให้น้อยลง

ของหวานที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบไม่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่น เนื่องจากชาวญี่ปุ่นไม่นิยมรสหวานซึ่งต่างจากชาวตะวันตก และของหวานส่วนใหญ่มักนำมาเสิร์ฟในปริมาณเล็กน้อย

 

เคล็ดลับที่ 7 : ทัศนคติที่แตกต่างกันในเรื่องของอาหาร

ผู้หญิงชาวญี่ปุ่นจะมีความสุขกับการรับประทานอาหารและไม่กังวลเกี่ยวกับน้ำหนักของตัวเองซึ่งต่างจากผู้หญิงในแถบตะวันตก นอกจากนี้การออกกำลังกาย เช่น การเดิน ได้ทำให้ชาวญี่ปุ่นมีรูปร่างผอมบางและมีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ

 

และนี่คืออาหาร 7 อย่างที่เป็นเบื้องหลัง
ของการมีสุขภาพดีและอายุยืนยาวของชาวญี่ปุ่น

1. ปลา

ชาวญี่ปุ่นบริโภคปลาเป็นจำนวนเกือบร้อยละ 10 ของโลก ด้วยเหตุนี้ชาวญี่ปุ่นถึงแข็งแรงปราศจากโรคและดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ โอเมก้า 3 มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมหาศาลและยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งเต้านมได้ด้วย

 

2. ผัก (ทั้งในน้ำและบนบก)

ผักต่างๆจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุ นอกจากนี้ผักยังช่วยให้คุณอิ่มท้องมากขึ้น ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บร็อคโคลี่ กะหล่ำปลี ต้นอ่อน คะน้า และผักกวางตุ้งมากกว่าชาวอเมริกันถึง 5 เท่า ขณะที่สาหร่ายทะเลก็เป็นแหล่งสารอาหารที่สำคัญของชาวญี่ปุ่นเช่นกัน

 

3. ข้าว

ข้าวคืออาหารหลักของชาวญี่ปุ่น ปราศจากโซเดียม (เกลือ) ไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ และคลอเรสเตอรอล หากต้องการมื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพมากกว่านั้นให้เลือกรับประทานเป็นข้าวกล้องแทน และใส่น้ำมันบางชนิดลงไปด้วยขณะที่น้ำเดือด

 

4. ถั่วเหลือง

ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานถั่วเหลืองมากประมาณวันละ 50 กรัม และอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็ทำมาจากถั่วเหลืองด้วย

 

5. บะหมี่

นี่คืออาหารหลักอีกอย่างของชาวเอเชียที่มีไขมันต่ำ ในญี่ปุ่นมีบะหมี่หลากหลายรูปแบบซึ่งทำจากถั่วเขียวและเมล็ดบักวีต (เส้นโซบะ) พยายามหลีกเลี่ยงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเนื่องจากมีโทษมากมาย

 

6. ชาเขียว

ชาวญี่ปุ่นนิยมจิบชาเขียวถ้วยเล็กๆเป็นการปิดท้ายมื้ออาหาร ชาเขียวนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยปกป้องหัวใจและสามารถป้องกันโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆได้ด้วย ส่วนชาเขียวมัทฉะนับว่าเป็นชาที่ดีต่อสุขภาพเป็นพิเศษ

 

7. ผลไม้

เราควรเลือกรับประทานผลไม้สดเป็นของว่างแทนที่จะเป็นขนมปังกรอบ เค้ก และมัฟฟิน หากคุณกังวลเรื่องยาฆ่าแมลงก็เลือกผลไม้ออร์แกนิกหรือผลไม้ที่ใช้วิธีธรรมชาติในการกำจัดแมลงศัตรูพืช

 

ข้อสำคัญควรพิจารณา

แม้ว่าอาหารญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อในเรื่องคุณประโยชน์มหาศาล แต่ก็มีข้อสำคัญที่ควรพิจารณาเพิ่มเติมดังต่อไปนี้

  • การใช้ซอสถั่วเหลืองมากเกินไป– ปัจจุบันซอสถั่วเหลืองไม่ได้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายอีกต่อไปแล้ว เว้นแต่ว่าจะรับประทานแบบหมัก
  • ข้าวขัดสี– ข้าวขัดสีเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวและมักเกี่ยวข้องกับเชื้อโรคอันตรายร้ายแรง ดังนั้นควรเปลี่ยนมารับประทานข้าวกล้องแทน (คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน) เนื่องจากจะช่วยป้องกันโรคหัวใจและเบาหวานประเภท 2
  • ผักดองเกลืออาจทำให้ระดับโซเดียมในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นจนเป็นอันตรายหากรับประทานในปริมาณมาก ขณะที่ซอสถั่วเหลืองก็มีโซเดียมด้วยเช่นกัน

 

คุณไม่จำเป็นต้องเลือกรับประทานเฉพาะอาหารญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะอาหารสัญชาติเอเชียอื่นๆก็มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพไม่แพ้กัน ที่สำคัญคุณควรเพิ่มผักผลไม้เข้าไปและหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแปรรูปก็พอ

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0