เสียวหมี่ ส่งสมาร์ทโฟนกล้อง 64 ล้านพิกเซล Redmi Note 8 Pro วางขายในราคาเริ่มต้น 7,999 บาท จับกลุ่มผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนคุ้มค่า พร้อมเผยในช่วงเดือนพฤศจิกายน เตรียมนำสมาร์ทโฟนรุ่นที่ใช้กล้องความละเอียด 108 ล้านพิกเซลรุ่นแรกของโลกเข้ามาทำตลาดด้วย
นายโรซัน หลัว ผู้จัดการประจำประเทศไทย เสียวหมี่ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในช่วงปลายปีนี้ เสียวหมี่ จะเน้นการนำเสนอสมาร์ทโฟนที่มากับนวัตกรรมกล้องรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ของ Redmi Note 8 Pro ส่วนในช่วงเดือนพฤศจิกายน จะมีการนำสมาร์ทโฟนรุ่นที่มีกล้องความละเอียด 108 ล้านพิกเซลเข้ามาทำตลาด เพียงแต่จะเป็นในกลุ่มของแฟลกชิประดับราคาเกิน 2 หมื่นบาท ซึ่งถือเป็นอีกกลุ่มแทน
'ภาพรวมของตลาดสมาร์ทโฟนในปีนี้ถือว่าค่อนข้างทรงตัว จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้เครื่องนานขึ้นจากเดิมประมาณ 12 - 18 เดือน ขยับขึ้นมาเป็น 2 ปี โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดยังคงเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง'
ในส่วนของเสียวหมี่ ช่วงที่ผ่านมาสามารถทำตลาดสมาร์ทโฟนได้เติบโตกว่าตลาด โดยเฉพาะในช่วงระดับราคา 4,000 - 10,000 บาท ของตระกูล Redmi ที่เสียวหมี่มีความแข็งแรงมากในตลาดนี้ ทำให้มีการอัปเดตไลน์สินค้าใหม่ครอบคลุมตั้งแต่ 4,999 - 8,999 บาท เพิ่มเติม
สำหรับซีรีส์ Redmi Note ถือเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเสียวหมี่ทั่วโลก ในการทำตลาดสมาร์ทโฟนตามปรัญชาของเสียวหมี่ในการนำเสนอนวัตกรรมในราคาที่เข้าถึงได้ โดยเชื่อว่าทั้ง Redmi Note 8 และ Redmi Note 8 Pro จะตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคชาวไทยอย่างแน่นอน
จุดเด่นหลักของ Redmi Note 8 Pro คือมากับกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รุ่นแรกของเสียวหมี่ รวมกับกล้องเลนส์มุมกว้าง เลนส์มาโคร และเลนส์วัดระยะรวมเป็น 4 เลนส์ วางจำหน่ายรุ่น RAM 6 GB ROM 64 GB ในราคา 7,999 บาท ส่วนรุ่น RAM 6 GB ROM 128 GB 8,999 บาท
ส่วน Redmi Note 8 มากับ 4 เลนส์เหมือนกัน แต่ปรับความละเอียดกล้องหลักเป็น 48 ล้านพิกเซล วางจำหน่ายในราคา 4,999-6,999 บาท โดย Redmi Note 8 Pro มากับหน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว ส่วน Redmi Note 8 มากับจอ 6.3 นิ้ว
ขณะเดียวกัน มีการทำราคาพิเศษร่วมกับทางเอไอเอส เมื่อสมัครใช้งานแพ็กเกจ 649 บาท โดย Redmi Note 8 เริ่มต้นที่ 2,299 บาท ส่วน Redmi Note 8 Pro เริ่มต้นที่ 4,699 บาท
'กลุ่มเป้าหมายของ Redmi Note จะเป็นกลุ่มผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน ที่มีความต้องการเครื่องที่คุ้มค่า ประสิทธิภาพสูง คุ้มราคา ซึ่งเริ่มเห็นเทรนด์การเลือกใช้งานสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับการใช้งานมากขึ้น ไม่ได้เน้นเครื่องไฮเอนด์เหมือนที่ผ่านมา'
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าของ Mi Ecosystem ทั้งเครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 3H ที่ต่อยอดจากรุ่นยอดนิยม Mi Air Purifier 2S โดยสามารถฟอกอากาศได้ครอบคลุมพื้นที่ได้ 45 ตารางเมตร วางจำหน่ายช่วงปลายเดือนตุลาคมในราคา 5,990 บาท และยังมีเครื่องดูดฝุ่น Mi Handheld Vacuum Cleaner ที่มาในรูปแบบของเครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคา 8,490 บาท และกระเป๋าเดินทาง Xiaomi Metal Carry-on Luggage 20” ราคา 7,490 บาท
