โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เสียงโอดจากเจ้าสัว!

สยามรัฐ

อัพเดต 20 ส.ค. 2562 เวลา 23.00 น. • เผยแพร่ 20 ส.ค. 2562 เวลา 23.00 น. • สยามรัฐออนไลน์
เสียงโอดจากเจ้าสัว!

ยังดำเนินต่อไปไม่หยุดยั้ง หลังชุมนุมใหญ่เติมเชื้อ “ไฟประท้วง” ที่ “จุดติด” แล้ว ให้ยิ่งเป็นเปลวคุโชน โจนทะยานเข้าสู่สัปดาห์ที่ 11 ติดต่อกัน

สำหรับ “ม็อบฮ่องกง” ที่ยังคงปรากฏการณ์ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

หะแรกเริ่มแต่เดิมมา ก็เป็นการประท้วงต่อร่างแก้ไขกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากฮ่องกงไปให้แก่จีนแผ่นดินใหญ่ กลายเป็นชุมนุมขับไล่ “แคร์รี หล่ำ” ให้ก้าวลงจากเก้าอี้ผู้ว่าการหญิงของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง รวมถึงต่อต้านทางตำรวจฮ่องกง ที่ใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ชุมนุม กระทั่ง ล่าสุดได้เพิ่มประเด็นม็อบเป็นเรื่องต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบจากบรรดานายทุนพ่วงไปด้วย โดยเฉพาะนายทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของฮ่องกง

ยืดเยื้อยาวนานแถมบานปลายในลักษณะเยี่ยงนี้ ก็ทำเอาบรรดาเจ้าสัว มหาเศรษฐี ผู้มีอันจะกิน บนเกาะฮ่องกง บ่นโอดครวญกันเป็นแถว เพราะม็อบชุมนุมประท้วงที่ว่า ส่งผลกระทบต่อเขตบริหารพิเศษแห่งนี้ โดยเ
ฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องเศรษฐกิจ ที่กระทบกระทั่งไปอย่างเต็มๆ

ไม่ว่าจะเป็น “เช็ก แลป ก็อก” สนามบินนานาชาติที่ต้องระงับการให้บริการไปจำนวนนับพันเที่ยวบินหลายครั้งหลายครา ตั้งแต่ม็อบได้ก่อเกิดปรากฏการณ์ขึ้น นอกจากนี้ ก็ยังมีเรื่องอุปสรรคาจากการเดินทางภายในเกาะ โดยรถไฟฟ้าใต้ดินพาหนะขนส่งมวลชนสำคัญ

โดยมีรายงานว่า นับแต่ไฟม็อบปะทุขึ้นเมื่อเดือน มิ.ย. เป็นต้นมา ก็ส่งผลให้ มหาเศรษฐีระดับท็อปเทน คือ อันดับ 1 – 10 สุดยอดเจ้าสัวมหาเศรษฐีผู้มีทรัพย์ของฮ่องกงทั้ง 10 คน ล้วนถูกพิษม็อบฮ่องกง ถล่มรายได้ของพวกเขาให้หดหายไปกันถ้วนหน้า

การปะทะกันระหว่ากลุ่มผู้ชุมนุมกับตำรวจฮ่องกง หลังการประท้วงกลายเป็นความรุนแรง
การปะทะกันระหว่ากลุ่มผู้ชุมนุมกับตำรวจฮ่องกง หลังการประท้วงกลายเป็นความรุนแรง

แถมมิหนำซ้ำ ชะตากรรม “รายได้หาย – กำไรหด” ของบรรดาเจ้าสัวเหล่านั้น ก็มีรายงานว่า รวมกันแล้ว ก็มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่ม็อบเริ่มเขย่าเกาะฮ่องกงเมื่อเดือน มิ.ย.เป็นต้นมา

เช่นเดียวกับ ชะตามกรรมด้านเศรษฐกิจมหภาคของฮ่องกง ก็ปรากฏว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน หรือจีดีพี ในไตรมาสที่ผ่านมาขยายตัวเพียงร้อยละ 0.6 ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี หรือตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา

ด้วยสถานการณ์ของเศรษฐกิจฮ่องกง ซบเซากันเยี่ยงนี้ ก็ถึงขนาดทำให้ “ลี กาชิง” มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของฮ่องกง ต้องออกมาโอดโอยด้วยอาการครวญครางจากตัวเขาเองเลยทีเดียว

นายลี กาชิง มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของฮ่องกง
นายลี กาชิง มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของฮ่องกง

โดยนายลี ซึ่งมีฉายาตามชาวฮ่องกงเรียกเขาว่า “ซุเปอร์แมน” ที่ปัจจุบันอายุ 91 ปีแล้ว ได้เรียกร้องเอ่ยอ้างว่า “ในนามแห่งรัก” ขอกระตุ้นเตือนให้การชุมนุมประท้วงที่นำมาซึ่งความวุ่นวายต่างๆ ยุติกันเสียทีเถิด

ขณะเดียวกัน ทางด้าน “สไวร์ แปซิฟิก” ซึ่งกลุ่มครอบครัวมหาเศรษฐีนักลงทุนที่ใหญ่ที่สุดครอบครัวหนึ่งในฮ่องกง ก็ออกมาเรียกร้องให้ยุติการชุมนุมประท้วง รวมถึงการใช้ความรุนแรงต่างๆ โดยเร็ว

อาณาจักรบริษัท “สไวร์ แปซิฟิก” ในฮ่องกง
อาณาจักรบริษัท “สไวร์ แปซิฟิก” ในฮ่องกง

ทั้งนี้ ทาง “สไวร์ แปซิฟิก” ต้องถือว่าเป็นกลุ่มทุนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดกลุ่มหนึ่ง จากการที่ธุรกิจต่างๆ ของพวกเขาได้รับผลกระทบจากม็อบประท้วงอย่างเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ที่ยอดจองพักโรงแรมของพวกเขาวูบลง และธุรกิจสายการบินคาเธย์แปซิฟิก ที่ทางกลุ่มฯ ถือหุ้นไว้เป็นจำนวนมาก จนเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ที่สุด ไม่นับห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ของพวก ก็เจอพิษม็อบ จนห้างฯ ต้องอ้างร้างว่างเปล่าเพราะแทบไม่มีคนเดิน

นอกจากนี้ “ซุน ฮุง ไค พร็อพเพอร์ตีส์” กลุ่มทุนมหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ของฮ่องกง และถูกจัดว่าเป็นครอบครัวมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 3 ของทวีปเอเชีย ก็เผชิญชะตากรรมรายได้ที่หดหายไปอย่างมหาศาลด้วยเช่นกัน ซึ่งกลุ่มทุน ก็ถูกม็อบโจมตีอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมาว่า ปั่นราคาอสังหาริมทรัพย์อย่างสูงลิ่ว จนทำให้คนทำงานรุ่นใหม่ ไม่สามารถเป็นเจ้าของที่พักอาศัยในฮ่องกงได้ โดยอย่าว่าแต่จะเป็นเจ้าของ แม้ห้องชุดให้เช่า ก็แพงเหลือหลาย คือ “นาโนอพาร์ทเมนท์” ที่มีขนาดความกว้าง-ยาว แทบจะเท่าๆ กับที่จอดรถ ก็ต้องใช้เงินมากถึง 1,475 ดอลลาร์สหรัฐฯ จึงจะสามารถเข้าพักได้ในแต่ละเดือน

ทั้งนี้ ทาง “ซุน ฮุง ไค พร็อพเพอร์ตีส์” เรียกร้องให้ม็อบยุติการชุมนุม หรือถ้ายังยุติไม่ได้ ก็ขอให้ไม่ใช้ความรุนแรงระหว่างการประท้วง

นายปีเตอร์ หวู ประธานกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ในฮ่องกง “วีล็อค แอนด์ โค”
นายปีเตอร์ หวู ประธานกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ในฮ่องกง “วีล็อค แอนด์ โค”

เช่นเดียวกับ ทาง “วีล็อค แอนด์ โค” ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ภายใต้การดูแลของ “ปีเตอร์ หวู” ก็ออกมากระตุ้นเตือนให้เลิกการชุมนุมประท้วงกันได้แล้ว เพราะชนวนเหตุให้ก่อม็อบ คือ ร่างแก้ไขกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนฯ ก็ปิดฉากไปแล้ว พร้อมกันนั้น ก็เรียกร้องให้ฟื้นฟูระเบียบสังคมฮ่องกงกลับมาใหม่ เพื่อเกาะแห่งนี้ กลับมาสถานขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจก่อนเกิดปรากฏการณ์ม็อบ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0