สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน-ประเทศกลุ่มยุโรปเป็นปัจจัยเสี่ยง ฉุดรั้งการเติบโตเศรษฐกิจโลก
วันนี้ (6มิ.ย.61) ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยในรายงาน ''Global Economic Prospects'' เตือนว่า เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเผชิญความเสี่ยงขาลง โดยมีความเป็นไปได้ที่ตลาดการเงินจะผันผวนมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเผชิญกับภาวะอ่อนแอมากขึ้น นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งความไม่แน่นอนด้านนโยบาย และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ก็ได้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ในแง่ของนโยบายการค้าผลการเจรจาที่ยังไม่แน่นอนมีความเสี่ยงมากที่จะนำไปสู่การบังคับใช้มาตรการการค้าที่เข้มงวด เพราะสหรัฐได้ประกาศใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าครั้งใหม่ส่งผลให้ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ต่างก็พากันออกมาตรการเพื่อตอบโต้
อย่างไรก็ตาม เวิลด์แบงก์ยังคงคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ที่ 3.1%ก่อนที่จะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 3% ในปีหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขไม่เปลี่ยนแปลงจากคาดการณ์เดิมในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว คาดจะขยายตัวเล็กน้อยที่ 2.2% ในปีนี้ ก่อนชะลอตัวลงสู่ระดับ 2% ในปีหน้า เนื่องจากธนาคารกลางหลายแห่งเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นทางการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาคาดจะขยายตัวแข็งแกร่งที่ 4.5% ในปี 2561 ก่อนที่จะขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 4.7% ในปี 2562 เพราะประเทศที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์มีการฟื้นตัวอย่างเต็มที่ และราคาสินค้าที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากปีนี้
