โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เลือกใหม่ 6 แห่ง คะแนนเกินอีก ต้องนับกันใหม่โกลาหล!

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

เผยแพร่ 21 เม.ย. 2562 เวลา 22.07 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

เลือกตั้งซ่อม 6 หน่วย 5 จังหวัด เงียบเหงา ยอดคนกาบัตรลดวูบ กกต.ดาวกระจายแยกตรวจเยี่ยม “อิทธิพร” อึ้งหน่วย 6 เขต 2 ยโสธร คนหย่อนบัตร 57.56 เปอร์เซ็นต์ มีแต่คนแก่เข้าคูหา บอกคนหนุ่มสาวกลับเข้ากรุงหมดแล้ว “เลิศวิโรจน์” ชี้ 9 หมื่นกว่าหน่วยผิดพลาดแค่ 6 หน่วยรับได้ ติดวันหยุดยาวคนบางกะปิใช้สิทธิแค่ 40 เปอร์เซ็นต์ เพชรบูรณ์จบไม่ลงคนมาใช้สิทธิ 639 คน ไม่ตรงยอดบนบอร์ด 640 ต้องนับใหม่ พิษณุโลก เขต 2 คนใช้สิทธิ 67 เปอร์เซ็นต์ นอภ.พรหมพิรามโล่งอกบัตรอยู่ครบ 366 ใบ

จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ลอตแรกเมื่อ 21 เม.ย.จำนวน 6 หน่วย ใน 5 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง ยโสธร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และกรุงเทพมหานคร เนื่องจากผลการนับคะแนนที่มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกับจำนวนผู้มาแสดงตน และไม่ตรงกับลายเซ็นต้นขั้วบัตร รวมทั้งจำนวนบัตรดี บัตรเสีย บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนไม่ตรงกับผลการนับคะแนน ภาพรวมมีผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนบางตาลงไปมาก

เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ตั้งแต่ช่วงเช้า กกต.ได้แยกย้ายกันลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเปิดหน่วยเลือกตั้งทั้ง 6 หน่วย ใน 5 จังหวัดที่มีการสั่งให้เลือกตั้งใหม่ โดยนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ กกต.พร้อม พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. และ น.ส.วิชชุดา เมฆานุวงศ์ ผอ.กกต.กทม. ร่วมตรวจเยี่ยมการเปิดหน่วยลงคะแนนเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 13 กรุงเทพมหานคร หน่วยเลือกตั้งที่ 32 โรงเรียนลำสาลี ราษฎร์บำรุง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 802 คน

นายเลิศวิโรจน์กล่าวว่า คาดว่าจะมีประชาชนมาใช้สิทธิพอสมควร ได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พบผู้นำชุมชนอธิบายสาเหตุการจัดเลือกตั้งใหม่ ก่อนหน้านี้กังวลว่าประชาชนอาจคิดว่าทำไมต้องเลือกตั้งใหม่อีก เพราะเพิ่งลงคะแนนไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ต้องชี้แจงว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ในหน่วยเลือกตั้งนี้มีจำนวนบัตรเลือกตั้งกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกันโดยหาเหตุผลไม่ได้ จึงต้องเลือกตั้งใหม่เพื่อให้บริสุทธิ์และเที่ยงธรรม การจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. มีหน่วยเลือกตั้งกว่า 92,320 หน่วย แต่มีปัญหาต้องจัดเลือกตั้งใหม่ 6 หน่วย ถือเป็นตัวเลขความผิดพลาดที่เรารับได้

ที่ศาลาประชาคม ต.หัวเมือง อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร สถานที่เลือกตั้งใหม่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.ยโสธร เจ้าหน้าที่ได้เตรียมพร้อมให้ประชาชนมาลงคะแนน มีนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.พร้อมนายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กกต. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม โดยมีนายนิกร สุกใส ผวจ.ยโสธร นายสมเพชร สร้อยสระคู รอง ผวจ.ยโสธร น.ส.มาริสา สีลาพัฒน์ นอภ.มหาชนะชัย ในฐานะประธาน กกต.ประจำเขตเลือกตั้งที่ 2 และนางยุรดา ทองธนฐากุล ผอ.กกต.ยโสธร ต้อนรับระหว่างนั้นนายอิทธิพรได้สอบถามชาวบ้านที่มารอลงคะแนนประมาณ 30 คน ทราบว่าคนหนุ่มสาวในหมู่บ้านที่ไปทำงานกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้กลับมาลงคะแนน หน่วยเลือกตั้งที่ 6 เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.ยโสธร เมื่อวันที่ 24 มี.ค. มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 463 คน ผู้มาแสดงตน 288 คน บัตรเสีย 12 ใบ ผลการนับคะแนนนายรณฤทธิชัย คานเขต หมายเลข 1 พรรคพลังประชารัฐ ได้ 60 คะแนน

นายบุญแก้ว สมวงศ์ หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย ได้ 168 คะแนน และนายชื่น วงษ์เพ็ญ หมายเลข 9 พรรคภูมิใจไทย ได้ 15 คะแนน แต่ตรวจสอบตอนหลังพบว่าผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งกับบัตรลงคะแนนเลือกตั้งไม่ตรงกัน บัตรขาดไป 1 ใบ
ขณะที่นายปกรณ์ มหรรณพ กกต.ไปตรวจเยี่ยม หน่วยเลือกตั้ง 12 ศาลาเอสเอ็มแอล เขตเลือกตั้งที่ 1 หมู่ 12 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดยมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 1,371 คน แต่ยอดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งกับบัตรลงคะแนนเลือกตั้งไม่ตรงกัน มีผู้มาใช้สิทธิ 955 คน เป็นบัตรดี 844 ใบ บัตรเสีย 92 ใบ ไม่ประสงค์จะเลือกใคร 18 ใบ เมื่อรวมแล้วมีบัตร 954 ใบ ไม่ตรงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิ หน่วยนี้ประชาชนทยอยเดินทางมาใช้สิทธิอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนเปิดหีบคือเวลา 07.00 น. เพราะส่วนใหญ่จะรีบกลับไปประกอบอาชีพ แต่ไม่คึกคักเหมือนครั้งแรก ระหว่างนั้นมีพายุฝนถล่มกระหน่ำ เจ้าหน้าที่ต้องระดมขนย้ายอุปกรณ์ป้ายต่างๆเข้าหลบพายุกันจ้าละหวั่น

ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 เขตเลือกตั้งที่ 2 หมู่ 6 บ้านแหลมลาด ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย กกต.เดินทางไปตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งใหม่ โดยมีนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผวจ.พิษณุโลก พ.ต.ท.วัชรินทร์ พิมพ์กะภีร์ ผอ.สำนักงาน กกต.พิษณุโลกและคณะคอยต้อนรับ หน่วย เลือกตั้งนี้มีผู้มีสิทธิลงคะแนน 366 คน พบว่ามีผู้มารอแสดงตนเพื่อขอใช้สิทธิเลือกตั้งกันตั้งแต่เช้า โดยหน่วยนี้ที่ต้องเลือกตั้งใหม่เนื่องจากมีผู้มาแสดงตนมาใช้สิทธิ 269 คน แต่บัตรในหีบลงคะแนนมีน้อยกว่าผู้มาแสดงตนใช้สิทธิ 1 ใบ คือ 268 ใบ

สำหรับ จ.ลำปาง ต้องเลือกตั้งใหม่ 2 หน่วยของเขตเลือกตั้งที่ 4 คือหน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ 5 ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา ที่วัดบ้านจู้ดหลวงกับหน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ 2 ต.ศาลา อ.เกาะคา ที่ศาลาอเนกประสงค์บ้านศาลาไชย ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ที่เปิดหีบปรากฏว่าที่หน่วยเลือกตั้งที่ 3 มีประชาชนมารอเข้าคิวเป็นแถวยาว ท่ามกลางสภาพอากาศที่เริ่มร้อนอบอ้าว เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งต้องปรับแถวให้ชาวบ้านเข้าไปอยู่ในร่ม เช่นเดียวกับหน่วยเลือกตั้งที่ 6 มีประชาชนมารอคิวยาวเช่นกัน ทั้งนี้ นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต.ได้เดินทางลงพื้นที่สังเกตการณ์พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่จัดให้ลงคะแนนใหม่ในทั้ง 2 หน่วยเลือกตั้งเป็นไปด้วยความถูกต้องโปร่งใส หลังพบว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งกับจำนวนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งไม่ตรงกัน

ต่อมาช่วงเย็น นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ กกต. ได้ไปสังเกตการณ์การปิดลงคะแนนและนับคะแนนเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 13 เขตบางกะปิ กทม. ณ หน่วยเลือกตั้งที่ 32 ภายหลังปิดหีบนายเลิศวิโรจน์กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าจนกระทั่งปิดหีบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีผู้มาใช้สิทธิน้อยกว่าเมื่อวันที่ 24 มี.ค. อาจเป็นเพราะช่วงหยุดยาว เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ส่วนมากจะมีผู้มาใช้สิทธิน้อยประมาณร้อยละ 40 ถือว่าปกติ ผู้มีสิทธิหน่วยนี้ 802 คน มาใช้สิทธิ 370 คน ถือว่าน่าพอใจและไม่มีปัญหาอะไร ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่ไม่ได้มาใช้สิทธิให้ไปแจ้งเหตุขัดข้องที่แต่ละเขตที่สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อรักษาสิทธิไว้

สำหรับบรรยากาศภายหลังปิดหีบบัตรลงคะแนน ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 (อาคารอเนกประสงค์) หมู่ที่ 6 บ้านแหลมลาด ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก หลัง กกต.ประจำหน่วยปิดหีบและเริ่มเปิดหีบนับคะแนนท่ามกลางสื่อมวลชน ตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.และประชาชนที่มาเฝ้าสังเกตการณ์ ผลการนับคะแนนเบื้องต้นมีผู้มาใช้สิทธิ 230 คน คิดเป็น 67 เปอร์เซ็นต์ เป็นบัตรดี 218 ใบ บัตรเสีย 8 ใบ ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 4 ใบ น้อยกว่าเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 269 คน โดยนายนัทธี จันทร์ประเสริฐ หมายเลข 21 จากพรรคภราดรภาพ ได้ 48 คะแนน ชนะนายนพพล เหลืองทองนารา จากพรรคเพื่อไทยที่ได้ 47 คะแนน แต่ไม่ส่งผลต่อการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต โดยนายวีระ จรูญพิทักษ์พงษ์ นอภ.พรหมพิราม ในฐานะประธานการเลือกตั้งเขตที่ 2 เปิดเผยว่าภาพรวมเรียบร้อย ผู้มาใช้สิทธิถึงแม้น้อยกว่าครั้งที่แล้ว เนื่องจากมีผู้ไปทำงานต่างจังหวัด ไม่สามารถมาลงคะแนนได้ แต่หลังปิดหีบลงคะแนนตรงกับผู้มาใช้สิทธิ รวมทั้งบัตรเลือกตั้งอยู่ครบทั้ง 366 ใบ จากนี้จะนำหีบบัตรคะแนนเลือกตั้งไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.พรหมพิราม จนกว่าจะประกาศผลเป็นทางการ

ขณะที่หน่วยเลือกตั้ง 12 ศาลาเอสเอ็มแอล เขตเลือกตั้งที่ 1 หมู่ 12 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ การนับคะแนนดำเนินไปจนจบ แต่ก็พบปัญหาเนื่องจากยอดรวมผู้มาใช้สิทธิ 639 คน ไม่ตรงกับจำนวนคะแนนบนบอร์ด 640 คะแนน จนเจ้าหน้าที่ต้องนับใหม่อีกครั้ง พบว่า จนท.ขีดคะแนนเกินไป 1 คะแนน

ที่ศาลาประชาคม หน่วยเลือกตั้งที่ 6 ต.หัวเมือง อ.มหาชนะชัย เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.ยโสธร ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ ปรากฏว่ามีประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก และมีตัวแทนพรรคเพื่อไทย เป็นผู้สังเกตการณ์นับคะแนนเลือกตั้งครั้งนี้ ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดผลการนับคะแนน มีผู้แสดงตนใช้สิทธิเลือกตั้ง 251 คนหรือร้อยละ 57.56% บัตรเสีย 7 ใบ คิดเป็น 2.79% ซึ่งหมายเลข 9 นายบุญแก้ว สมวงศ์ พรรคเพื่อไทย ได้ 64 คะแนน หมายเลข 24 นายธนาเสฎฐ์ ธนเวชไพบูลย์ พรรคประชาธิปไตยใหม่ ได้ 42 คะแนน

ด้านเขตเลือกตั้งที่ 13 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ผู้มีสิทธิ 802 มาใช้สิทธิ 370 บัตรดี 355 บัตรไม่เลือกผู้ใด 6 บัตรเสีย 9 โดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาไชยนันต์ พรรคพลังประชารัฐยังคงได้อันดับ 1 จากเดิมได้คะแนน 27,489 คะแนน ลดลงเหลือ 27,417 คะแนน ลดไป 72 คะแนน นายตรีรัตน์ ศิริทโรภาส เพื่อไทย เดิมได้ 23,912 คะแนน ครั้งนี้ 23,874 คะแนน ลดไป 38 คะแนน น.ส.ณชิชา บุญลือ อนาคตใหม่ ได้ 23,707 คะแนน ครั้งนี้ 23,652 คะแนน ลดไป 55 คะแนน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประชาธิปัตย์ 17,958 คะแนน ได้เพิ่มขึ้น 17,974 เพิ่มขึ้น 16 คะแนน

ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งใหม่บางเขตเป็นการเลือกตั้งใหม่แค่บางหน่วย ถ้ากระบวนการหลายๆส่วนชัดเจน ทุกฝ่ายจะสบายใจมากกว่านี้ สังคมไทยต้องกล้าเผชิญความจริง สิ่งใดที่เป็นปัญหาต้องแก้ไข ต้องแบปัญหาออกให้ประชาชนรับรู้ร่วมกัน เมื่อถึงเวลาเชื่อว่าประชาชนมีทางออกว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร การเลือกตั้งใหม่บางหน่วยครั้งนี้ไม่ตอบโจทย์อะไรมาก นอกจากแสดงให้เห็นว่ามีข้อบกพร่องเกิดขึ้น และยังไม่ไปถึงรากเลยว่าบกพร่องตรงไหน อย่างไร ทั้งนี้ หากมีการยืนยันว่า ข้อบกพร่องไปถึงรากแล้วจะมีปัญหาต้องยึดความถูกต้อง เพราะจะทำให้ทุกฝ่ายสบายใจและสร้างความเชื่อมั่นทั้งระบบ หากปล่อยให้อึมครึม ประเทศจะเดินต่อไปไม่ได้

อ่านข่าวล่าสุด เจาะลึกข้อมูลเลือกตั้ง 2562

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0