โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เร่งสำรวจแหล่งหญ้าทะเล เตรียมพื้นที่อนุรักษ์พะยูน

new18

เผยแพร่ 19 ส.ค. 2562 เวลา 10.00 น. • new18
เร่งสำรวจแหล่งหญ้าทะเล   เตรียมพื้นที่อนุรักษ์พะยูน

ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 เร่งสำรวจแหล่งหญ้าทะเล บริเวณ เกาะไม้งาม อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาจ.กระบี่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลบริหารจัดการพื้นที่ การอนุรักษ์พะยูน ขณะที่ผลผ่าพิสูจน์พะยูนเพศผู้ยาวกว่า 2.6 เมตร ลอยเกยตื้นอ่าวต้นไทรเมื่อวานนี้ สัตวแพทย์พบเงี่ยงปลากระเบนเสียบในช่องท้อง คาดแผลติดเชื้อเป็นสาเหตุทำให้พะยูนเสียชีวิต

วันที่ 19 ส.ค. เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จ.ตรัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ และเจ้าหน้าที่จากสถานีวิจัยป่าชายเลนที่ 29 เกาะลันตา ทำการสำรวจหญ้าทะเล ที่บริเวณเกาะไม้งาม ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ทำการสำรวจ แปลงที่ 1 จำนวน 6 แนวเบื้องต้น พบหญ้าทะเล 1 ชนิด ได้แก่ หญ้าใบพาย และพบร่องรอยการกินหญ้าทะเลของพะยูนบริเวณนี้ด้วย จึงเชื่อว่า พื้นที่ดังกล่าว เป็นแหล่งหากินของฝูงพะยูนอีกแหล่งหนึ่งของ จ.กระบี่ โดยการสำรวจครั้งนี้ เพื่อเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการเรื่องพะยูนและแหล่งหญ้าทะเล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยว วางแผนบริหารจัดการ กันพื้นที่ห้ามทำประมง ปลูกหญ้าทะเลเพิ่ม เพื่ออนุรักษ์พะยูน

ส่วนกรณีที่มีการพบซากพะยูนเพศผู้ ขนาดโตเต็มวัยอายุประมาณ 25 ปี ยาว 2.6 เมตร น้ำหนัก 240 กก. ลอยตายเกยต้นอยู่หน้าหาดอ่าวต้นไทร อ่าวไร่เลย์ตะวันตก หมู่ 2 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดทีมสัตวแพทย์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ภูเก็ต) ระบุว่า ติดเชื้อจากบาดแผลบริเวณช่องท้อง เนื่องจาก จนท.พบเศษเงี่ยงปลากระเบน ยาวประมาณ 15 ซม. เสียบติดอยู่ในช่องท้องจนเกิดการอักเสบ และอาจจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ขณะที่ผลการตรวจระบบทางเดินอาหาร จนท.พบเศษขยะพลาสติกเพียงเล็กน้อย ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต

โดย ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผอ.ศูนย์วิจัยฯ เผยผลการสำรวจการเกยตื้นของพะยูนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการตายของพะยูนในทะเลไทย ระบุผลการสำรวจตั้งแต่ปี พ.ศ.2505 จนถึงปัจจุบัน พบพะยูนเกยตื้นในทะเลไทยแล้ว 441 ตัว โดยจังหวัดที่พบการตายมากสุดคือพื้นที่ จ.ตรัง รองลงมาคือ จ.กระบี่ พังงา ระยอง และภูเก็ต ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงตัวเลขที่ จนท.รับแจ้ง แต่ยังมีอีกบางส่วนที่ไม่ได้แจ้งให้ จนท.ทราบ ขณะที่สถิติการเกยตื้นเฉพาะปี พ.ศ.2562 พบมีการเกยตื้นตายแล้วรวม 16 ตัว โดยพบในทะเลฝั่งอันดามันทั้งหมด พบมากสุดที่ จ.ตรัง 8 ตัว กระบี่ 5 ตัว พังงา 2 ตัว และสตูล 1 ตัว ถือเป็นตัวเลขการสูญเสียที่อยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0