วันนี้ (15 ต.ค. 62) ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง นัดที่ 3 กลุ่ม จี ที่สนามมหาวิทยาลัย ศูนย์ รังสิต เป็นการลงสนามพบกันของทีมชาติไทย เปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมแกร่ง สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ โดยจะลงทำการแข่งขันกันในเวลา 19.00 น.
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม แมตช์ที่ฟีฟ่ารับรอง
1. ไทย แพ้ ยูเออี 1-2 (เอเชียนเกมส์ , 1986)
2. ยูเออี ชนะ ไทย 3-0 (เอเชียน คัพ , 1988)
3. ไทย แพ้ ยูเออี 0-1 (คัดบอลโลก , 1993)
4. ยูเออี ชนะ ไทย 2-1 (คัดบอลโลก , 1993)
5. ยูเออี ชนะ ไทย 1-0 (คัดบอลโลก , 2004)
6. ไทย ชนะ ยูเออี 3-0 (คัดบอลโลก , 2004)
7. ไทย เสมอ ยูเออี 1-1 (อุ่นเครื่อง , 2007)
8. ยูเออี ชนะ ไทย 3-1 (คัดบอลโลก , 2016)
9. ไทย เสมอ ยูเออี 1-1 (คัดบอลโลก , 2017)
10. ยูเออี เสมอ ไทย 1-1 (เอเชียน คัพ , 2019)
ความพร้อมล่าสุด
ทีมชาติไทย
ทัพ "ช้างศึก" ลงสนามไปแล้ว 2 นัด ชนะ 1 เสมอ 1 เก็บได้ 4 แต้ม รั้งรองจ่าฝูงอยู่ในเวลานี้ โดยเกมวันนี้เป็นนัดสำคัญเนื่องจากต้องพบกับทีมเต็งของกลุ่มอย่างยูเออี มภาพความพร้อมล่าสุด จะได้ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายตัวเก่งสลัดอาการบาดเจ็บกลับมาลงช่วยทีมได้ หลังไม่ได้เล่นในเกมอุ่นเครื่องที่เสมอกับคองโก 1-1 เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 62 ที่ผ่านมา ส่วน สุภโชค สารชาติ ก็น่าจะพร้อมที่จะลงสนามเช่นเดียวกัน ส่วนที่เหลือน่าจะเป็นตัวหลักที่นิชิโนะใช้งาน แนวรับจะเป็น พรรษา ยืนกับ มานูเอล ทอม โดยมี นิติพงษ์ เสลานนท์ ยืนแบ็คขวา ตรงกลาง สารัช จะตัดเกมกับพิธิวัต ขณะที่แนวรุก เอกนิษฐ์ , สุภโชค และ ศุภชัย คอยสนับสนุนหน้าเป้า ธีรศิลป์ แดงดา
11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม
(4-2-3-1) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน - นิติพงษ์ เสลานนท์, มานูเอล ทอม เบียรห์, พรรษา เหมวิบูลย์, ธีราทร บุญมาทัน - พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, สารัช อยู่เย็น - สุภโชค สารชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด , เอกนิษฐ์ ปัญญา - ธีรศิลป์ แดงดา
ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์
ฟากยูเออี พวกเขามาเก็บตัวที่เมืองไทยตั้งแต่วันศุกร์ ที่ 11 ต.ค. 62 ที่ผ่านมา และเช่าสนามซ้อมเอง โดยไม่ให้สื่อเข้าเก็บภาพ กุนซืออย่าง เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ พาลูกโชว์ฟอร์มแจ่มเพราะเก็บชัยชนะไปได้ทั้งสองเกมที่ลงเตะโดยนัดล่าสุดก็เพิ่งถล่มทีมชาติอินโดนีเซีย มาแบบขาดลอย 5-0 ด้านความพร้อมไร้ปัญหาการจัดทัพเช่นเดิมพร้อมนำทัพมาโดย โอมาร์ อับดุลราห์มาน เพลย์เมกเกอร์จอมพริ้วคอยทำหน้าที่เชื่อมเกมและเติมเกมรุกขึ้นมาพังประตูคู่แข่งเช่นเดิม ในขณะที่ข่าวดีก็คือ อาเหม็ด คาลิล หายเจ็บกลับมาเป็นตัวเลือกแต่น่าจะได้นั่งเป็นสำรองไปก่อนเพราะ อาลี มับคูต เจ้าของสถิติดาวซัลโวสูงสุดในนามทีมชาติที่ 51 ตุงรอทำหน้าที่จบสกอร์อยู่ก่อนแล้ว
11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม
(4-2-3-1) : คาลิด เอสซ่า - โมฮัมเหม็ด อัลเมนฮาลี, โมฮัมเหม็ด อัล อัตตาส, คาลิฟา อัล ฮัมมาดี, วาลิด อับบาส - อาห์เหม็ด บาร์มัน, อาลี ซัลมีน - ยัสซีม ยาคูบ, โอมาร์ อับดุลราห์มาน, อาลี ซาเลห์ - อาลี มับคูต
ทรรศนะจากทีมงาน TNNSPORTS
แน่นอนว่าาวันนี้เราดูเป็นรองทั้งสถิติที่พบกันมา,ฟอร์มหลัง และตัวผู้เล่น แต่การเล่นในบ้านตัวเอง พร้อมแฟนบอลอีกกว่า 20,000 คน ที่จะคอยส่งเสียงเชียร์ในสนาม เชื่อว่าจะทำให้ทัพ "ช้างศึก" มีฮึดในเกมนี้ เชื่อว่าทุกคนรู้ดีว่ามันเป็นเกมที่สำคัญมากขนาดไหน ผลเสมอ อาจจะยังไม่ดีด้วยซ้ำสำหรับเราหากหวังจะเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ตัวสำคัญของพวกเขาคือ โอมาร์ กับ มับคูต ซึ่งเราต้องปิดตายให้ได้ แล้วใช้การเดินเกมของผู้เล่นความเร็วสูงอย่าง เอกนิษฐ์ และ นิติพงษ์ รวมถึงประสบการณ์ของธีรศิลป์ ที่ต้องเล่นให้เต็มศักยภาพที่สุด สุดท้ายแล้วเกมในช่วงแรกน่าจะดูอึดอัด เพราะบอลของนิชิโนะ คือดูเชิงคู่แข่งก่อน โอกาสแบ่งแต้มมีสูงในเกมนี้ แต่ขอเอาใจช่วยทีมชาติไทยให้เก็บชัยชนะให้ได้ครับ (ขอเข้าข้างนิดนึง) : )
