กรณีนายไพบูลย์ ส่างสาร อายุ 56 ปี เพื่อนบ้านสุดโหดขับรถเก๋งพุ่งชน นายสุพรรณ ญาติบรรทุง อายุ 57 ปี นายช่างโยธา กรมทางหลวงชนบท ขณะกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้านแล้วลากไปไกล 50 เมตร จนเสียชีวิต หลังมีปากเสียงกันเรื่องราวตากผ้าขวางหน้าบ้าน ก่อนขับรถไปจอดทิ้งไว้ที่สนามฟุตบอลซึ่งอยู่ห่างไป 3 กม. แล้วหลบหนีไป ต่อมาตำรวจสภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ออกหมายจับในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และอยู่ระหว่างติดตามตัวนายไพบูลย์ มาดำเนินคดีนั้น
คืบหน้าเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 26 ม.ค. ที่ศาลาธรรมสังเวช ศาลา 6 วัดเสนาสนาราม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นางปานกมล รัศมี อายุ 44 ปี พร้อมครอบครัว รับศพนายสุพรรณ์ ผู้เสียชีวิตจากนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ จ.ปทุมธานี มาตั้งบำเพ็ญกุศลศพ มีญาติเพื่อนร่วมงาน มาร่วมแสดงความเสียใจ โดยทางญาติจะสวดอภิธรรมเป็นเวลา 3 วัน และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 29 ม.ค.นี้ โดยมีภรรยาของนายไพบูลย์ พร้อมบุตรสาว เดินทางมาแสดงความเสียใจ รดน้ำศพตรงเข้าไปกราบขอโทษนางปานกมล และบุตรชาย ของผู้เสียชีวิต ด้วยความเศร้าโศก จากนั้นรีบเดินทางกลับทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว
นางปานกมล กล่าวว่า ขอยืนยันว่าการตั้งราวตากผ้าอยู่ในพื้นที่ของหน้าบ้านของตัวเอง ตนเองตากผ้าเรามองดูแล้วว่าไม่ได้กีดขวางใคร ส่วนเรื่องประเด็นความขัดแย้ง ไม่รู้ว่าในการประชุมของคณะกรรมหมู่บ้าน มีปัญหาอะไร หรือมีการโต้เถียงกันในที่ประชุมมาก่อน สามีเป็นคณะกรรมการของหมู่บ้านมาได้ประมาณ 2 ปี ลาออกได้ประมาณ 1 ปีแล้ว ถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับแล้วอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวให้ได้ สภาพจิตใจในขณะนี้ ยังไม่ให้อภัยและไม่ขอมีการประนีประนอมในเรื่องของคดี ให้กฎหมายดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
"ในเช้าวันเกิดเหตุสามีบอกว่าเมื่อคืนนอนหลับสบายดี แล้วบ่นรู้สึกปวดหลังอยากให้ลูกชายเหยียบหลังให้เป็นคำพูดสุดท้ายที่ได้คุยกัน แล้วจากนั้นแยกย้ายกันทำงานบ้าน ก่อนสามีออกไปรดน้ำต้นไม้ จะมาถูกขับรถพุ่งชนเสียชีวิต" ภรรยานายช่างโยธา กล่าว