เฟรช อริศรา หรือ เจ๊ติ๋ม กรงกรรม จากเด็กล้างจาน สู่การเป็นนักแสดงแถวหน้าของไทย

นาทีนี้เรียกได้ว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก เจ๊ติ๋ม จากละครแนวชีวิตย้อนยุคสะท้อนสังคมสุดเข้มข้นอย่าง กรงกรรม กันอย่างแน่นอน โดยนักแสดงที่มารับบทเป็นเจ๊ติ๋มนั่นก็คือเฟรช อริศรา วงษ์ชาลี นักแสดงมากความสามารถที่ไม่ว่าจะได้รับบทบาทแบบไหนก็สามารถตีบทแตกจนทำให้แฟน ๆ ละครต่างชื่นชมในฝีมือการแสดงของเธอกันอย่างมากมาย และนอกจากนี้ เฟรช อริศรา ยังเคยกำกับละครสุดปังอย่าง สงครามนางงาม 2 มาแล้วอีกด้วย

เปิดประวัติ เฟรช อริศรา หรือ เจ๊ติ๋ม กรงกรรม

และในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับนักแสดงสาวมากความสามารถคนนี้กันให้มากยิ่งขึ้น ว่าเธอจะต้องต่อสู้กับอะไรมาอย่างมากมาย ทั้งเคยเป็นคนไร้บ้าน ต้องทำงานตั้งแต่เด็ก แต่เธอไม่เคยย่อท้อกับอุปสรรคเหล่านั้น แต่กลับลุกขึ้นสู้และฝ่าฝันอุปสรรคเหล่านั้นมาได้ในที่สุด…

ประวัติส่วนตัว

เฟรช อริศรา วงษ์ชาลี เกิดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2520 จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสาขาคอมพิวเตอร์ คณวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

สำหรับชีวิตในวัยเด็กของเธอนั้น เธอได้เล่าว่าสมัยก่อนลำบากมาก ที่บ้านเช่าห้องอยู่ด้วยกันประมาณ 7-8 คน พอเช้าก็ต้องผลัดกันเข้าห้องน้ำแล้วก็ไปโรงเรียน และเมื่อพ่อของเธอเสียไปนั้นแม่ก็ต้องเริ่มทำงานหนักขึ้นจากขายของชำที่บ้านอย่างเดียวก็ต้องเริ่มรับจ้างซักรีดด้วย ซึ่งเธอก็ต้องคอยเป็นลูกมือช่วยแม่ โดยในตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนก็ต้องตื่นมาช่วยแม่รีดผ้าก่อน พอเย็นกลับมาก็ต้องซักผ้าเพราะในตอนนั้นไม่มีเครื่องซักผ้าเลยต้องซักมือทั้งหมด แต่รายได้ก็ไม่พอ

ทำให้แม่ต้องขายข้าวต้มเพิ่มด้วย พอเริ่มขายได้สักพักก็ไม่ไหว ดังนั้นแม่จึงกลับมารับจ้างรีดผ้าและขายของชำเท่านั้น ส่วนตัวเธอนั้นก็ช่วยทำอย่างอื่นแทน เช่น เย็บกระดุมผ้าโหล ถ้าเสื้อแขนสั้นเราจะได้ 50 สตางค์ต่อหนึ่งตัว แต่ถ้าเป็นเสื้อแขนยาวเราจะได้ 75 สตางค์ พอตกตอนกลางคืนก็รับจ้างล้างจานได้เดือนละ 800 บาท และก็เสิร์ฟในตลาดบ้าง

ถึงแม้ว่าชีวิตของเธอจะลำบากแต่เธอไม่รู้สึกท้อเลย พยายามทำทุกอย่างเพื่อแบ่งเบาภาระแม่ และในที่สุดเธอก็ได้สมัครเป็นนักศึกษาให้กับโครงการหนึ่งของค่ายมือถือค่ายนึง จากการชักชวนของเพื่อนก็ทำให้เธอได้รับการคัดเลือกเขาโครงการดังกล่าว และได้มีโอกาสเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง

เส้นทางในวงการบันเทิง

เฟรช อริศรา เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยงานถ่ายแบบและเล่นโฆษณา จากนั้นก็เริ่มที่จะมีผลงานการแสดงโดยเล่นเป็นตัวประกอบในละครโทรทัศน์เรื่องต่าง ๆ จนกระทั่งมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากภาพยนตร์เรื่อง 1+1 เป็นสูญ ซึ่งเธอก็ทำได้ดีในบทเซ็กซี่ ทำให้ได้รับรางวัลสุพรรณหงส์และรางวัชมรมวิจารณ์บันเทิง สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ในปี พ.ศ. 2545 หลังจากนั้นเธอก็มีเริ่มมีผลงานการแสดงออกมาให้เราได้ติดตามกันอย่างมากมาย ทั้งละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ มิวสิควิดีโอ และพิธีกรรายการต่าง ๆ ฯลฯ

– ผลงานด้านละครโทรทัศน์ เช่น ประทีปอธิษฐาน, โลกทั้งใบให้นายคนเดียว, เก็บแผ่นดิน, น้ำพุ, เมืองดาหลา, รักแปดพันเก้า, ขอพลิกฟ้าตามล่าเธอ, ลอดลายมังกร, รอยอดีตแห่งรัก, มงกุฎแสงจันทร์, มาลัยสามชาย, ดอกโศก, สาวน้อย, คุณชายรณพีร์, อีสา-รวีช่วงโชติ, ชิงรักหักสวาท, สงครามนางงาม, เล่ห์รตี, เรือนร้อยรัก, นาคี, แต่ปางก่อน, ชีวิตเพื่อฆ่า หัวใจเพื่อเธอ, ล่า, เรือนเบญจพิษ, เมืองมายา Live ตอน มายาเร้นรัก, คมแฝก, ข้ามสีทันดร, ริมฝั่งน้ำ, กรงกรรม, วัยแสบสาแหรกขาด โครงการ 2, แก้วขนเหล็ก และฤกษ์สังหาร เป็นต้น

นักแสดงจากละครกรงกรรม

– ผลงานด้านภาพยนตร์ ได้แก่ คนตัดหัว (Head Hunter), 1+1 เป็นสูญ, เมล์นรก หมวยยกล้อ, คนฆ่าผี, ศพใต้เตียง, สองคอน และตุ๊ดตู่กู้ชาติ

– ผลงานการกำกับละครโทรทัศน์ ได้แก่ สงครามนางงาม 2 (เอ็กแซ็กท์)

– ผลงานด้านมิวสิควีดีโอ เช่น นาฬิกาทราย ของโฟร์ท นฤมล จิวังกูร, คนหน้า ม. ของไชน่า ดอลส์, 100 เหตุผล ของสเตอร์, ผู้หญิงทุกคนเอาแต่ใจ ของปาน ธนพร, เหมือนรักกับลม ของปาน ธนพร และเสียงที่ไม่ได้ยิน ของ Sound walker

– ผลงานด้านพิธีกรที่ผ่านมา เช่น รายการวัยใสไวปัญญา ทาง ททบ. 5, รายการเกมนักชิม ทาง ITV, รายการสุขภาพ คลินิกชีวรักษ์ ทาง H-Plus channel, รายการไทยมุง, รายการนักปกครองไทย ใจเกินร้อย ทาง NBT และรายการสู้ทั้งน้ำตา ทางช่อง 9 เป็นต้น

– รางวัลที่เคยได้รับ ได้แก่ รางวัลนาฏราช นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากละครนาคี และรางวัลพิฆเนศวร นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากละครนาคี ในปี พ.ศ. 2559