โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เพื่อไทยหมดสภาพ-เจ๊หน่อย ใจสลาย ถูกฉีกหน้าไม่มีชิ้นดี !?

Manager Online

อัพเดต 19 พ.ค. 2562 เวลา 20.26 น. • เผยแพร่ 19 พ.ค. 2562 เวลา 20.26 น. • MGR Online

เมืองไทย 360 องศา

เชื่อว่านาทีนี้หากมองลึกเข้าไปในหัวใจของ "เจ๊หน่อย"คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในฐานะแคดิเดตนายกรัฐมนตรีของอันดับหนึ่งพรรคเพื่อไทย หลังจากถูกพรรคอนาคตใหม่ที่เป็นหนึ่งในพรรคพันธมิตรที่เคยร่วมลงนามสัตยาบัน 7 พรรคประกาศสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีและร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล แต่มาวันนี้สิ่งที่เห็นก็คือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้"ฉีกสัตยาบัน"ดังกล่าวแบบไม่มีชิ้นดี โดยอ้างว่าพรรคที่ได้คะแนนอันดับหนึ่ง(พรรคเพื่อไทย)ไม่สามารถ"ไปต่อ"ได้

โดยเขาใช้คำว่าการจัดตั้งรัฐบาลไม่มีความคืบหน้า ดังนั้นเพื่อหาทางสกัดกั้นการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เขา (ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ) จึงขอเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีเอง และอ้างว่าได้รับไฟเขียวจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่เป็นแคดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันก็ประกาศรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลโดยมีความพยายามเคลื่อนไหวทาบทามหรืออ้อนวอนพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมกับฝั่งนี้ พร้อมๆกับเสนอแนวทาง"ปิดสวิตซ์ส.ว."ด้วยการเรียกร้องให้ ส.ส.ร่วมกันโหวตสนับสนุน นายกรัฐมนตรีจากพรรคอื่นนอกเหนือจากพรรคพลังประชารัฐที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์

โดยถึงขั้นเสนอแนวทาง"ขั้วที่สาม"ผลักดันให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากพรรคประชาธิปัตย์ หรืออนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทยให้เป็นนายกรัฐมนตรีสืบแทน แต่ในที่สุด ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจก็เสนอตัวเองเป็นนายกฯ ด้วยข้ออ้างว่าเพื่อต้องการสกัดกั้นการสืบทอดอำนาจดังกล่าวข้างต้น

การเคลื่อนไหวของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในครั้งนี้ถือว่ามีข้องน่าสงสัย และมีเจตนาบางอย่างที่น่าจับตาก็คือเป็นเรื่องที่"เป็นไปไม่ได้" ทำให้เกิดคำถามตามมาก็คือเขา"มีเจตนาอะไรกันแน่" เพราะอย่างที่รับรู้กันก็คือต่อให้รวบรวมเสียงทั้ง 7 พรรคเดิมรวมกับ ประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยก็ไม่มีทางได้เสียงถึง 376 เสียงเพียงพอสำหรับโหวตนายกฯในรัฐสภา

แต่น่าสังเกตก็คือความเคลื่อนไหวแบบนั้นของเขาเกิดขึ้นวันเดียวกับที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)มีมติเป็นเอกฉันท์เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีการถือหุ้นสื่อมวลชน ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญ และกกต.มีหลักฐานชัดเจนว่า"มีคุณสมบัติต้องห้าม" โดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อ้างว่า"นี่คือแผนสกัดกั้น"ทางการเมือง และมีเป้าหมายไปที่ตัวเขาและพรรคอนาคตใหม่

วกกลับมาที่พรรคเพื่อไทย และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่นาทีนี้เหมือนกับ"หมดสภาพ"พ่ายแพ้ไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว เพราะหลังจากที่มีแนวโน้มให้เห้นชัดเจนแล้วว่า ไม่อาจรวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้เกิน 251 เสียง ขณะเดียวกันที่ผ่านมาได้เห็นความเคลื่อนไหวจากบรรดาแกนนำของพรรคนี้น้อยมาก น้อยจนแทบจะไม่ได้เห็นบทบาทเลยในช่วงที่ผ่านมา จนผิดธรรมชาติของพรรคทีมี ส.ส.จำนวนมากที่สุด (137 คน) ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะบรรดาแกนนำพรรคทั้งหมดที่อยู่ในระบบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ สอบตกกันเรียบวุธหรือเปล่าก็เป็นได้ เพราะตั้งแต่ แคดิเดตนายกฯอันดับหนึ่งอย่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไปจนถึงหัวหน้าพรรค พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ไปจนถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็ไม่ได้เป็น ส.ส.ไม่ได้เข้าสภาเป็นครั้งแรกในรอบนับสิบปี

ขณะเดียวกันหากเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยจะมี ทักษิณ ชินวัตร มีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน ก็ต้องบอกว่านี่อาจเป็นครั้งแรกที่ถูก"ลอยแพ" ส่วนสำคัญอาจเป็นเพราะอิทธิพลและความนิยมของเขาลดต่ำลงจนอยู่ในระดับธรรมดาทั่วไปแล้ว โดยคนที่เคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทยและพรรคในเครือข่ายในปัจจุบันหันไปเทคะแนนให้กับพรรคอนาคตใหม่ไปแล้วหรือเปล่า

แม้ว่าการพิจารณาจากความเคลื่อนไหวของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่ที่นาทีนี้เหมือนกับการ"หักหน้า"พรรคเพื่อไทย และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เพราเป็นการ"ฉีกสัตยาบัน" 7 พรรคที่เคยทำเอาไว้ เพราะแสดงความ"ต้องการ"ของตัวเองที่เผยออกมาให้เห็น อีกทั้งยังมีพิรุธจากการสร้างกระแสหลังจาก กกต.ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่อง"คุณสมบัติต้องห้าม" ก็ตาม

แต่อีกด้านหนึ่งสำหรับพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคที่มี ส.ส.อันดับหนึ่งถือว่า"หมดสภาพการนำ"อย่างสิ้นเชิงแล้ว !!

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0