เมื่อหมดช่วงฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ก็ได้เวลาที่เราทั้งหลายควรปัดกวาดอะไรเก่าๆออกจากชีวิตไปซะ บางคนอาจจัดตู้เสื้อผ้าใหม่ บางคนอาจเปิดหน้าต่างรับอากาศสดชื่นเข้ามา แต่บางคนอาจนึกไปถึงขั้นการจัดระเบียบสังคมของตัวเอง ขณะที่การวิจัยเผยว่ามิตรภาพคือสิ่งสำคัญต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของเรา แต่ใช่ว่าทุกความสัมพันธ์จะสร้างความสุขได้เท่าเทียมกัน มิตรภาพในแง่ลบจะส่งผลให้เกิดความเครียด ความหงุดหงิด หรือแม้แต่อาจทำให้คุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงและทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนรัก การลงทุนเวลากับพลังงานให้แก่คนที่ไม่คิดจะตอบแทนกลับคืนมาจะสร้างผลกระทบในแง่ลบต่อสุขภาพกายและใจของคุณอย่างแน่นอน
และนี่คือเพื่อน 5 ประเภทที่ควรกวาดทิ้งออกจากชีวิตของคุณไปซะ
1. เอาแต่คิดในแง่ลบ
อารมณ์ทั้งในแง่บวกและแง่ลบสามารถติดต่อกันได้ เวลาที่คุณคุยโทรศัพท์กับเพื่อน ส่งอีเมล์ ส่งไลน์ เฟซบุ๊ค หรือพบปะกัน คุณรู้สึกดีหรือแย่ หรือมีเพื่อนคนไหนที่ทำให้คุณรู้สึกแย่มากกว่าปกติไหม? หากเพื่อนคนนั้นกำลังจะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่เราจะรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าไปมีส่วนร่วมชั่วขณะ แต่ถามตัวเองดูว่าเหตุการณ์แบบนี้นานๆจะเกิดขึ้นทีหรือเกิดขึ้นบ่อยจนรู้สึกว่าโลกนี้อยู่ยากเหลือเกิน หากเป็นกรณีหลังงั้นก็ได้เวลาแล้วที่จะสลัดคนพวกนี้ออกไปจากชีวิตซะ
2. จู้จี้ จุกจิก เอาแต่ใจ
คุณทุ่มเทเอาใจเพื่อนบ้านด้วยการแบ่งปันอาหารมื้อเย็น ชวนนั่งรถไปคันเดียวกัน หรือชวนลูกๆมาเล่นด้วยกัน แต่ถ้าความเป็นมิตรของคุณกลับได้ผลตอบแทนมาเป็นคำบ่น ไม่ว่าจะเรื่องเสียงดังหนวกหูหรือเรื่องสนามหญ้าหน้าบ้านที่รกรุงรังของคุณ บอกเลยว่าคุณเสียสุขภาพจิตแน่นอน ผลวิจัยเผยว่าการทะเลาะกับเพื่อนบ้านจะช่วยเพิ่มโอกาสการเสียชีวิตในช่วงวัยกลางคน ดังนั้นครั้งต่อไปถ้าเขาชวนคุณทะเลาะ คุณลองนั่งลงจับเข่าคุยกัน อย่างน้อยก็ตกลงว่าจะทำเป็นเมินเฉยใส่กันก็ได้
3. นิยมแทงข้างหลัง
ไม่ว่าใครก็สมควรได้รับโอกาสครั้งที่สอง แต่ถ้านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณรู้สึกว่าถูกเพื่อนคนนี้ทรยศคุณควรตัดสินใจให้แน่วแน่ไปเลยดีกว่า แต่ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเลิกคบกับเพื่อนคนนี้ดีหรือไม่ คุณควรนั่งลงและพิจารณาไตร่ตรองถึงการหักหาญน้ำใจในครั้งนี้ว่าคุณรู้สึกแย่มากขนาดไหน และคิดสิว่าคุณสามารถให้อภัยเพื่อนได้หรือเปล่า พวกเขาร้องขอให้คุณยกโทษ หรือได้เอ่ยปากขอโทษคุณบ้างไหม? และในใจคุณรู้สึกกับเพื่อนคนนี้อย่างไร? ในอนาคตอีกล่ะ? คำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าความสัมพันธ์นี้จะดำเนินต่อไปหรือยุติเพียงเท่านี้
4. คบแล้วเหนื่อย
หากเวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการรอเพื่อนคนนี้ให้ปรากฏตัว หรือพยายามวางแผนซ้ำแล้วเล่ากว่าจะได้ไปเที่ยวด้วยกันสักที คุณอาจจะต้องทบทวนความสัมพันธ์นี้ดูใหม่ ก่อนอื่นดูว่าเพื่อนคนนี้มีปัญหาจริงๆหรือเปล่า เช่น ต้องเลี้ยงลูกหรือป่วยกระทันหัน ลองเสนอตัวสิว่าจะให้คุณช่วยอะไรได้บ้างไหม หากผลกระทบยังไม่มากมายเท่าไหร่นักเช่น คุณกับเพื่อนยังสามารถแบ่งปันความสุขได้ผ่านทางสายโทรศัพท์ หรือไปชมภาพยนตร์รอบดึกด้วยกันได้ งั้นก็อย่าเพิ่งวู่วามจบความสัมพันธ์กัน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกเหนื่อยอยู่ฝ่ายเดียว ก็อย่ามัวเสียพลังงานโดยใช่เหตุ
5. ตัวอย่างที่ไม่ดี
ทั้งดื่มเหล้าหนัก สูบบุหรี่จัด และพร่ำบ่นเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินเพื่อสุขภาพกับแผนการออกกกำลังกายของคุณ พร้อมกับยัดเยียดอาหารขยะให้รับประทานด้วย หากคุณรู้สึกแย่กับการกระทำเหล่านี้ของเพื่อนก็จงถอยออกมาเถอะ คุณอาจไม่ต้องเลิกคบเพื่อนเหล่านี้เป็นการถาวรโดยเฉพาะถ้าพวกยังมีคุณค่ากับคุณอยู่ หรือมีแนวโน้มที่พวกเขาจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ แต่ให้ระวังนิสัยของพวกเขาที่บั่นทอนสุขภาพจิตของคุณ พยายามอธิบายถึงสาเหตุที่คุณไม่ต้องการไปไหนมาไหนด้วย หรือหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้คุณต้องรู้สึกแย่
