โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เพราะ อยู่เป็น จึงมี ไทยซัมมิทกรุ๊ป

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 19 พ.ย. 2562 เวลา 03.21 น. • เผยแพร่ 19 พ.ย. 2562 เวลา 01.15 น.

กว่าอาณาจักรแสนล้านของตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ สายไทยซัมมิทกรุ๊ป จะเติบโตยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์แห่งภูมิภาคเอเชีย ต้องให้เครดิตผู้ชายคนนี้ "พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ"

เดิมทีตระกูลของ "พัฒนา" ใช้นามสกุล"แซ่จึง" เมื่อทำการค้า ในฐานะพี่ชายใหญ่ก็นึกว่าจะตั้งนามสกุลอะไรดีให้กิจการรุ่งเรืองเลยเลือกนามสกุล "จึงรุ่งเรืองกิจ" (ตอนหลังพี่ชายคนโต-สรรเสริญเปลี่ยนนามสกุลเป็นจุฬางกูร ส่วนคนอื่นๆ ใช้จึงรุ่งเรืองกิจ)

พัฒนาแต่งงานกับสมพร ได้แยกตัวออกไปสร้างอาณาจักรของตัวเอง ทำให้คนแซ่จึงแยกเป็น 2 สายคือ บริษัทซัมมิทโอโตพาร์ท อินดัสตรี ภายใต้การนำของสรรเสริญ และบริษัทไทยซัมมิทโอโตพาร์ทกรุ๊ป โดยการบริหารของพัฒนา-สมพร

ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ ทำธุรกิจชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ในยุคการเมือง 1.0 และเติบโตในยุค 2.0 หรือรัฐบาลเปรม ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ

เสนาะ เทียนทอง

ด้วยเหตุที่ต้อง "อยู่เป็น" พัฒนาจึงต้องไปเล่นกอล์ฟก๊วนเดียวกับเสนาะ เทียนทอง และมนตรี พงษ์พานิช รวมถึงนักการเมืองจากพรรคชาติไทยอีกมากหน้า

ปี 2534 บริษัท ซัมมิทโอโตซีท อินดัสตรี จำกัด เข้ามาขอซื้อกิจการสนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เนื่องจากสรรเสริญ จุฬางกูร ชอบเล่นกอล์ฟมาก อยากจะมีสนามกอล์ฟส่วนตัวสักแห่งโดยมอบให้น้องชายคนที่สามของตระกูลชื่อ โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นคนดูแล

พัฒนาก็ชอบเล่นกอล์ฟและมักออกรอบตีกอล์ฟกับก๊วนพรรคชาติไทย และพรรคกิจสังคม จึงมีข่าวกอสซิปในหน้า นสพ.หัวสี พ.ศ.โน้น ว่า "เสี่ยหมึก" มนตรี ชักชวนให้พัฒนาเล่นการเมือง แต่ข่าวนั้นก็เงียบหายไป

กระทั่ง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชายของสรรเสริญและพัฒนาได้เป็นรัฐมนตรีช่วยอุตสาหกรรมรัฐบาลชวน 2 ในโควตาพรรคกิจสังคม

มนตรี พงษ์พานิช

อาการ "อยู่เป็น" บนถนนการเมืองของกลุ่มทุนไทยไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดจึงมีตัวแทนกลุ่มทุนเข้าสู่วงการเมืองไทยต่อเนื่องนับแต่หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516

ปี 2545 พัฒนาเสียชีวิต สมพรจึงเป็นแม่ทัพใหญ่ดูแลกิจการและมอบให้ "ธนาธร" ลูกชายคนโตเข้ามาบริหารด้านการผลิตทั้งหมด

สำหรับ"เอก" ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บุตรชายของพัฒนา-สมพร ได้เข้ามาแบกรับธุรกิจของครอบครัวในยุค "การเมือง 3.0" ซึ่งมี "ทักษิณ ชินวัตร" เป็นโมเดลการเมืองใหม่

การเติบโตของทักษิณ หมายถึงการเติบใหญ่"ทุนนิยมเสรี" ที่เบียดขับ "ทุนนิยมอุปถัมภ์" ให้ถอยออกไป พร้อมเปิดพื้นที่ให้แก่คนรุ่นใหม่สร้างฐาน "ทุนใหม่"

สมัยเรียนที่ธรรมศาสตร์"เอก" ธนาธร เป็นแอ็กติวิสต์หัวก้าวหน้า หลังเรียนจบได้เข้าทำงานในองค์กรพัฒนาเอกชนในกลุ่มเพื่อนประชาชน (FOP) เอกยังให้ความสำคัญกับการเมืองภาคประชาชน

พัฒนา-สมพร พร้อมลูกและหลาน

หลังรัฐประหาร 2549 ธนาธรแสดงความเห็นทางการเมืองผ่านสื่ออยู่เป็นระยะๆ ด้วยจุดยืนการไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร ทายาท"จึงรุ่งเรืองกิจ" ยังได้แสดงออกถึงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับอำมาตยาธิปไตย ผ่านการเข้าร่วมการชุมนุมกับ นปช. รวมถึงการสนับสนุนการขับเคลื่อนเรียกร้องการแก้กฎหมายล้าหลังของกลุ่มนิติราษฎร์

ธนาธรคิดต่างจากบิดา-พัฒนา เขาเห็นจังหวะและโอกาสทางการเมือง เมื่อเห็น "ทักษิณ ชินวัตร" ตกอยู่ในสภาวะถูกจำกัดพื้นที่เขาจึงมีอาการ "อยู่ไม่เป็น" ชักชวนพรรคพวกตั้งพรรคการเมืองใหม่ทันที

ในยุคโลภาภิวัตน์ทุนไทยเป็นหนึ่งเดียวเป็นทุนข้ามชาติ ไม่จำเป็นต้องพึ่งการเมืองแบบอยู่เป็นก็เติบโตได้ ธนาธรจึงคิดการใหญ่ตั้งพรรคการเมืองที่มีแนวทางแบบอยู่ไม่เป็น หรือพรรคทางเลือกใหม่

แม้มารดา สมพร รุ่งเรืองกิจ จะเคยให้สัมภาษณ์สื่อเนชั่นสุดสัปดาห์เมื่อปี 2556 ว่า "ตราบใดที่ฉันยังอยู่ ธนาธร ไปไม่ได้ ฉันคงไม่เห็นด้วย เราเป็นคนค้าคนขาย ทำธุรกิจ แล้วอาณาจักรก็ใหญ่มาก ความรับผิดชอบก็สูงมาก…สมัยท่านสุริยะ พอออกนโยบายอะไรมาก็หาว่าท่านรัฐมนตรีออกนโยบายมาสนับสนุนธุรกิจในเครือญาติ จริงๆ ไม่เกี่ยวเลย เราไม่เคยไปยุ่ง สมัยคุณสุริยะเป็นใหญ่เป็นโต พวกเรายังพูดเสมอว่าอย่าทำอะไรเดือดร้อนไปถึงคุณอา เราต้องเข้าใจว่าเราควรจะวางตัวตนอย่างไร ทุกอย่างเราไปตามครรลองที่ควรจะเป็น"

มาถึงวันนี้เจ๊สมพรก็เริ่มสนุกกับเกมอยู่ไม่เป็นเพราะเห็นว่ามีคนสนับสนุนลูกชายเยอะ เลยวาดฝันไปไกลถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ฝันนั้นจะเป็นจริงแค่ไหน อีกไม่กี่วันก็รู้กัน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0