โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เผย ทีโออาร์ บริษัทลูกชาย พล.อ.ปรีชา ได้งานกองทัพภาคที่ 3

PPTV HD 36

อัพเดต 23 เม.ย. 2562 เวลา 12.23 น. • เผยแพร่ 23 เม.ย. 2562 เวลา 12.11 น.
เผย ทีโออาร์ บริษัทลูกชาย พล.อ.ปรีชา ได้งานกองทัพภาคที่ 3
เมื่อวานนี้ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 และเป็นน้องชายนายกรัฐมนตรี เรียกร้องความเป็นธรรมกรณีบริษัทรับเหมาก่อสร้างของลูกชายทั้ง 2 คน ชนะการประกวดราคาได้งานก่อสร้างอาคารของกองทัพภาคที่ 3 โดยระบุว่า ทำตามกระบวนการที่เป็นผู้เสนอราคาต่ำที่สุด โดยไม่มีเส้นสาย ทีมข่าว PPTV ตรวจสอบขอบเขตงาน หรือ TOR ของโครงการนี้ พบว่า เป็นโครงการก่อสร้างมูลค่า 11.8 ล้านบาท ที่เปิดให้ “กิจการร่วมค้า” เข้ามาร่วมเสนอราคา และเปิดโอกาสให้เสนอราคาเพียงแค่ครั้งเดียว โดยผู้ชนะเป็นผู้ที

โครงการนี้ คือ งานก่อสร้างอาคาร กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 14 จ.ตาก กองทัพภาคที่ 3 ซึ่งประกวดราคไปเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2562 ตั้งราคากลางของโครงการไว้ที่ 11,876,900 บาท

ผู้ชนะการประกวดราคา คือ หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ซึ่งเคยรับงานก่อสร้าง กองทัพภาคที่ 3 และบริษัท พี-ไรท์ แอนด์บริส จำกัด ซึ่งจดทะเบียนก่อตั้งเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 มีอายุประมาณ 6 เดือน ในช่วงที่เข้าประกวดราคา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> บริษัทลูกชาย "ปรีชา จันทร์โอชา” คว้างาน ก่อสร้างของกองทัพภาค 3

ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> นักซิ่งถนนพระราม6คอตก ถูกตร.สน.พญาไทรวบยกก๊วน

หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น เป็นของ นายปฐมพล จันทร์โอชา ส่วน บริษัท พี-ไรท์ แอนด์บริส จำกัด เป็นของนายปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา บุตรชายทั้ง 2 คนของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ซึ่งในเอกสารประกาศผู้ชนะการเสนอราคา ระบุว่า เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด 11,860,600 บาท ต่ำกว่าราคากลาง 16,300 บาท

โครงการนี้ เป็นโครงการก่อสร้างอาคารธรรมดาๆ ที่ไม่ซับซ้อน คือ สร้างเรือนแถวนายทหารประทวน 10 ครอบครัว จำนวน 1 หลัง งานถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีต รับน้ำหนัก 12 ตัน กว้าง 8 เมตร ไม่มีไหล่ทาง งานท่อระบายน้ำ ค.ส.ล. กว้าง 0.80 เมตร พร้อมกำแพงปากท่อ 2 ด้าน ยาว 11 เมตร และงานไฟฟ้า ประปา นอกอาคาร ซึ่งเป็นรูปแบบการก่อสร้างที่ใครก็ทำได้

เมื่อไปดูคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเสนอราคา ข้อ 10 จะเห็นข้อความว่า “ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างก่อสร้างไม่เกิน 5 ปี ในวงเงินไม่น้อยกว่า 5.9 ล้านบาท และเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานเอกชนที่กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 3 เชื่อถือ” หมายความว่า บริษัทที่จะเข้ามา ต้องมีประสบการณ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> “พล.อ.ปรีชา” ท้าตรวจสอบหลังบริษัทลูกรับงานกองทัพภาคที่ 3

ที่น่าสนใจ คือ โครงการนี้ แม้ใช้งบประมาณเพียง 11.8 ล้าน แต่ในทีโออาร์กลับระบุถึง “กิจการร่วมค้า” ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีกฎหมายห้ามกิจการร่วมค้ามารับงานในโครงการก่อสร้างทั่วไปเช่นนี้ แต่เป็นที่เข้าใจกันดีว่า งานก่อสร้างที่ต้องใช้ผู้รับเหมาในลักษณะเป็น “กิจการร่วมค้า” มักเป็นโครงการขนาดใหญ่หลายพันหลายหมื่นล้าน มีความซับซ้อน มีงานทางเทคนิคมากมาย ที่ผู้รับเหมารายเดียวไม่สามารถทำได้

พร้อมระบุข้อความในข้อ 10 (1) ว่า “กรณีกิจการร่วมค้าเป็นนิติบุคคลใหม่ กิจการร่วมค้าจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไข ส่วนคุณสมบัติด้านผลงานก่อสร้าง กิจการร่วมค้าดังกล่าวสามารถนำผลงานก่อสร้างของผู้เข้าร่วมค้ามาใช้แสดงเป็นผลงานก่อสร้างของกิจการร่วมค้าที่เข้าประกวดราคาได้”

นั่นหมายความว่า หากเป็นบริษัทที่เปิดใหม่ ก็สามารถยื่นในฐานะกิจการร่วมค้า โดยนำคุณสมบัติของบริษัทที่เข้าร่วมค้ามาร่วมได้ เพื่อให้เข้าตามเงื่อนไข

เมื่อมาดูขั้นตอนการเสนอราคา จะพบข้อความระบุในทีโออาร์ว่า ให้ใช้ระบบ E-Bidding โดยกำหนดวิธีการไว้ว่า "ในการเสนอราคา ให้เสนอราคาเป็นเงินบาทและเสนอราคาได้เพียงครั้งเดียวและราคาเดียว โดยเสนอราคารวม หรือราคาต่อหน่วย หรือราคาต่อรายการ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ท้ายใบเสนอราคาให้ถูกต้อง" แปลง่ายก็คือ ผู้เข้าประกวดราคาแต่ละบริษัท จะมีสิทธิยื่นเสนอราคาเพียงครั้งเดียว ราคาเดียว ยื่นแล้วเปลี่ยนแปลงไม่ได้

ที่ให้ยื่นครั้งเดียว เพราะกฎหมายต้องการให้ผู้เข้าเสนอราคา ยื่นราคาต่ำกว่าราคากลางให้มากที่สุด โดยมีโอกาสเพียงครั้งเดียว ถ้ายื่นเสนอราคามาสูงเกินไป ก็มีโอกาสที่จะชนะการประกวดราคาน้อยลง

น่าสนใจว่า ผู้ชนะการประกวดราคางานก่อสร้างอาคาร กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารรบที่ 14 จ.ตาก กองทัพภาคที่ 3 ยื่นเสนอราคา ต่ำกว่าราคากลาง 16,300 บาท ก็เป็นราคาต่ำที่สุด เพียงพอให้ได้งานในโครงการนี้แล้ว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0