วันนี้(17 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวของเรายังได้เดินทางไปที่บ้านของครูวา ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเขาการ้อง ตำบลวังใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ซึ่งต้องขับรถเข้าไปบนถนนลูกรัง โดยพบว่า บ้านของครูวา เป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ชายเขาล้อมรอบด้วยสวนยางพารา พ่อของครูวา บอกว่า เขาไม่ได้รับรู้ข่าวสารอะไรเพราะบ้านอยู่ในป่าเขา เพิ่งจะรู้เรื่องว่าลูกไปก่อเรื่องจากผู้สื่อข่าว ซึ่งเห็นแล้วรู้สึกตกใจ
เขาเล่าต่อว่า “ครูวา” เป็นลูกชายคนโต เขาตั้งชื่อให้ว่า นายภานุพงศ์ หรือ “โจ๊ก”พอเริ่มโตขึ้นลูกชายก็เริ่มมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ชอบแต่งตัวเป็นผู้หญิง ทำให้เขาไม่ชอบ และต่อว่าอยู่เสมอ แต่ลูกก็ไม่ฟัง จนโกรธมาก ไล่ให้ออกจากบ้านไป จากนั้นลูกก็ออกจากบ้านไปอยู่กับยาย ซึ่งอยู่ห่างกันไปหลายกิโลเมตรจนเมื่อประมาณ 13 ปีที่แล้ว ลูกชายได้กลับมาหาครั้งนั้นแต่งตัวเป็นผู้หญิงเต็มตัว บอกกับเขาและญาติ ๆว่า ได้แปลงเพศมาแล้ว และจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งแต่งงานกันได้ไม่นานก็เลิกรากันไป
จากนั้น “โจ๊ก” ก็กลับมาอยู่ที่บ้าน โดยไม่ทำอะไร และมีนิสัยชอบเที่ยวเตร่ ผู้เป็นพ่อเล่าว่า ได้ยื่นคำขาดว่า ถ้าจะเที่ยวก็ออกไปแล้วไม่ต้องกลับมา ซึ่งจากวันนั้นลูกก็ออกจากบ้าน และหายไปนานกว่า 10 ปีแล้ว ไม่ค่อยได้ติดต่อกันเลย จนล่าสุดลูกโทรมาหาบอกว่า เป็นครูอยู่แถวดอนเมือง ส่วนเรื่องอื่น ๆ เขาก็ไม่รู้
ผู้เป็นพ่อ บอกว่า หากลูกทำผิดจริง ก็อยากให้ออกมารับผิดชอบ และปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบพบว่า เดิมครูวา ชื่อ “นายภานุพงศ์”ต่อมา เมื่อปี 2554 ขอเปลี่ยนชื่อเป็น “นายปพิชญา” หลังจากนั้นเปลี่ยนชื่อใหม่อีกเป็น นายธัญญ์ฐิชา พร้อมทั้งขอเปลี่ยนชื่อสกุล มาเป็น “ศศิโชติกุลวงศ์” ซึ่งปัจจุบันเขาอายุ 29 ปี