โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เปิดใจเมียครู ‘ชลธี ธารทอง’ ปมถูกฟ้องหย่า ยันไม่เคยทำร้ายครู-ปัดจ้องฮุบสมบัติ

Khaosod

อัพเดต 19 พ.ค. 2562 เวลา 07.56 น. • เผยแพร่ 19 พ.ค. 2562 เวลา 07.56 น.
Untitle77d-1

เมียครู ชลธี ธารทอง เปิดใจปมถูกฟ้องหย่า ยันประเด็นที่ครูใช้อ้างฟ้องหย่าทั้งเรื่อง การทำร้ายร่างกาย หึงหวง ด่าทอบุพการีครูไม่เป็นความจริง วอนครูชลธีกลับใจพูดความจริงต่อสังคม ตนยังพร้อมให้อภัยเสมอ

กรณีที่ครูชลธี ธารทอง ครูเพลงลูกทุ่งชื่อดังและศิลปินแห่งชาติ ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ตนกำลังฟ้องหย่ากับนางศศิวิมล ทองมา หรือ ครูปุ้ม อายุ 51 ปี ภรรยา ซึ่งอยู่กินกันมาเป็นเวลา 27 ปี เพื่อที่จะได้แต่งงานและใช้ชีวิตกับหญิงรู้ใจคนใหม่นั้น

ชลธี ธารทอง / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่บ้านเลขที่ 1071/9 หมู่ 4 ตำบลท่าม่วง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของครูชลธีและครูปุ้มนั้น ทางครูปุ้มออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงกรณีที่เกิดขึ้น ว่า เรื่องของครูชลธีกับหญิงคนใหม่นั้น ตนทราบเรื่องมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ซึ่งหลังจากทราบเรื่อง ก็มีปากเสียงกันบ้างเป็นบางครั้ง แต่ตนก็ไม่เคยเปิดปากกับสื่อมวลชนแต่อย่างใด เพราะเกรงว่าจะทำให้ครูชลธีเสื่อมเสียชื่อเสียง

แต่กรณีล่าสุด ที่ครูชลธีเปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ถึงเรื่องการฟ้องหย่าตน โดยกล่าวหาว่าตนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องการหึงหวง ทำร้ายร่างกายของครูชลธีการต่อว่า บังคับรวมถึงการด่าทอบุพการีของครูชลธี ซึ่งประเด็นต่างๆเหล่านี้ ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงทุกประเด็น

โดยเฉพาะเรื่องของการทำร้ายร่างกายและด่าทอบุพการีของครูชลธีนั้น ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะตลอดเวลา 27 ปี ที่ตนใช้ชีวิตร่วมกับครูชลธีมา ตนดูแลใส่ใจ และรักครูชลธีมากที่สุดในชีวิต ตนดูแลครูทุกอย่าง แม้จะมีบ้างที่ทะเลาะกัน แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นใช้ความรุนแรง ยิ่งเรื่องของการด่าทอบุพการีของครูชลธีนั้น ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะตนเองก็เป็นครู ทำหน้าที่สอนเด็กทุกคนให้มีมารยาทดี ไม่ด่าทอบุพการีใคร ดังนั้น ตนจึงไม่มีทางที่จะประพฤติตนแบบนั้นได้แน่นอน

ส่วนในเรื่องของการฟ้องหย่านั้น เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา มีหมายศาลมาถึงตนเรียบร้อยแล้ว โดยในวันที่ 2 ก.ค.62 ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี นัดตนและฝ่ายของครูชลธี เข้าไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกันที่ศาล ซึ่งตนก็ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร

แต่หากถามตนว่า ยังพร้อมที่จะพูดคุยและปรับความเข้าใจกับครูชลธีหรือไม่ ตนยืนยันว่าตนพร้อม แม้ตอนนี้จะเสียใจและเสียความรู้สึกกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังพร้อมที่จะให้อภัยครูชลธีเสมอ หากครูชลธีคิดได้และกลับใจ

ยอมรับว่าสิ่งที่นำไปเป็นประเด็นฟ้องหย่าตนนั้น ไม่ใช่เรื่องจริง ทั้งนี้ ต้องขอยืนยันว่าที่ตนยังไม่ยอมหย่านั้น ไม่ใช่เพราะตนต้องการทรัพย์สมบัติแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะตนเป็นห่วงครูชลธี ที่จะต้องถูกสังคมโจมตีอย่างหนัก เพราะตั้งแต่ที่มีข่าวเรื่องนี้มา ครูชลธีก็ถูกผู้คนในสังคมวิจารณ์และต่อว่าอย่างหนัก ตนจึงอยากให้ครูชลธีคิดได้และกลับมาอยู่กับตน

อย่างไรก็ตาม หากการเจรจาไกล่เกลี่ยที่ศาลไม่เรียบร้อย ตนก็พร้อมที่จะต่อสู้ตามกระบวนการ โดยขณะนี้ก็รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ว่าตนไม่ได้กระทำอย่างที่ถูกครูชลธีกล่าวอ้างแต่อย่างใด

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0