โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เปิดใจหนุ่มสู้ชีวิต ส่งตัวเองเรียนจบปริญญา

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 22 ส.ค. 2562 เวลา 08.14 น. • เผยแพร่ 22 ส.ค. 2562 เวลา 08.12 น.

วันที่ 22 ส.ค. 2562 จากกรณีสื่อโซเชียลได้แชร์ข่าวนักศึกษาจากสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตเพชรบูรณ์ ซึ่งมีฐานะยากจน และระบุว่ากยศ.ไม่อนุมัติเงินกู้ให้ จนต้องทำงานรับจ้างล้างจานส่งตัวเองเรียนจนจบ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบก็พบกับนายธีรพงศ์ สังข์แสง หรือน้องเปา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 4 ต.วังชมภู อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

โดยนายธีรพงศ์ หรือน้องเปา ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากกระแสข่าวที่เสนอออกไปนั้นมีความคลาดเคลื่อนบ้างโดยที่บ้านมีฐานะยากจนจริง แต่ตนไม่ได้ไปรับจ้างล้างจานอยู่ที่กรุงเทพฯแต่อย่างใด ส่วนเงินกู้ กยศ.นั้นก็สามารถกู้ได้ตามปกติ ทั้งนี้ก่อนที่จะเข้าศึกษาที่สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตเพชรบูรณ์ ตนเองได้ไปสอบไว้หลายที่ และตั้งใจอยากจะเป็นนักดนตรี บังเอิญสอบได้ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด แต่เรียนได้ไม่กี่วันก็เกิดปัญหาในเรื่องความเป็นอยู่ เพราะไกลจากบ้านและค่าใช้จ่ายต่างๆ จึงมาสมัครสอบที่สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตเพชรบูรณ์ ในคณะศึกษาศาสตร์ เอกพลศึกษา และได้ขออาศัยอยู่ที่บ้านลุงซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสถานที่เรียนเท่าไหร่นัก และระหว่างที่เรียนหนังสือตนก็ได้ทำงานหลังเลิกเรียน ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างร้านหมูกระทะ และร้านอาหารต่างๆ รวมทั้งเสาร์-อาทิตย์ก็ไปรับจ้างปลูกข้าวโพด หักข้าวโพด ดายหญ้า หรือตามแต่จะมีผู้ว่าจ้าง เพื่อเก็บเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายในระหว่างเรียน โดยที่ไม่ต้องไปขอพ่อแม่ กระทั่งเรียนจบและเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา

"จากการที่ตนมีฐานะยากจนนั้นไม่ทำให้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจแต่อย่างใด แต่กลับรู้สึกสงการพ่อแม่ที่ทำงานหาเงินส่งเราเรียนตั้งแต่เด็ก ขนาดเราทำงานไม่กี่ชั่วโมงก็เหนื่อยแล้ว แต่พ่อแม่ทำงานมาโดยตลอดต้องมีความเหนื่อยเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ปัจจุบันตนทำงานเป็นลูกจ้างเหมารายเดือนของเทศบาลตำบลวังชมภู มีหน้าที่ในการดูแลสนามกีฬาประจำอำเภอ แต่ในอนาคตตนอยากจะรับราชการมากกว่า อยากจะให้พ่อแม่มีสวัสดิการและมีความสบายมากกว่านี้ ซึ่งหลังจากโซเชียลเผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีหลายฝ่ายเข้ามาสอบถามและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นบ้างแล้ว"

ด้านนายนิด สังข์แสง อายุ 64 ปี และนางชลอ ภู่ระย้า อายุ 63 ปี พ่อและแม่ของนายธีรพงศ์ เปิดเผยว่า ตนทั้งคู่ปลูกบ้านอาศัยอยู่ในที่ดินของน้องสาว ซึ่งมีอาชีพเผาถ่านขายถุงละ 30-35 บาท และได้ปลูกกล้วยน้ำว้าไว้จำนวนหนึ่งเพื่อขายเป็นรายได้เสริม รวมทั้งรับจ้างทั่วไป จึงมีรายได้ไม่แน่นอน และมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก บ้านก็ผุพัง หลังคารั่ว เวลาฝนตกต้องนอนเบียดกันอยู่ตรงจุดที่ฝนไม่รั่ว แต่ตนทั้งสองก็ไม่ย่อท้อ และรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ลูกชายสามารถเรียนจนจบปริญญา แต่ในวันรับปริญญาตนทั้งสองไม่สามารถไปร่วมแสดงความยินดีกับลูกได้ เนื่องจากไม่มีเงินเป็นค่าเดินทางรวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ ส่วนลูกจะทำงานอะไรก็อยู่ที่ตัวเขาเอง แต่อยากจะให้รับราชการเพราะมีสวัสดิการที่ดี

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0