เมื่อวันก่อนคณะกรรมการบริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาซีอีโอ ปตท. คนใหม่ แทนนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ คนปัจจุบันที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 ถือ ระฆังยก 1 ดังแล้ว เปิดเข้าสู่เกมชิงเก้าอี้ CEO ปตท. คนที่ 10 นับจากนี้
สำหรับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการสรรหางานนี้ถือ “เป็นความลับสุดยอด” ไม่ให้เกิดแรงกดดันกัน ทั้งคณะกรรมการสรรหาซีอีโอ ปตท. จำนวน 5 คน และคณะอนุกรรมการพิจารณาผลตอบแทนจำนวน 4 คน ซึ่งจะประกอบด้วยคณะกรรมการ ปตท. 4 คน และผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จำนวน 1 คน โดยจะมีการเปิดรับสมัครผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง CEO ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
ณ ตอนนี้ ตัวเต็งคราวนี้ เกือบทั้งหมดก็คือตัวเต็งรอบที่แล้ว ที่สมัครพร้อมนายชาญศิลป์ ทั้ง นพดล ปิ่นสุภา ,วิรัตน์ เอื้อนฤมิต ,อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ,อธิคม เติบศิริ
2 ท่านแรกกำลังเพลิดเพลินกับงานใหม่ เพราะเพิ่งไปรับตำแหน่งสูงสุดในบริษัทลูก “นายนพดล” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ เพิ่งไปเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ส่วน “นายวิรัตน์” เพิ่งเป็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เมื่อ 1 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา โยกมาจากประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัทปตท.
ขณะที่ “นายอรรถพล” ยังไต่เต้าในบริษัทแม่ ปัจจุบันรั้งตำแห่งประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ดูแลบริษัท ปตท.น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ ที่กำลังเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แ่หงประเทศไทย
ส่วน “นายอธิคม” เพิ่งโยกจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ มาเป็นประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้น และก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.
แต่ละท่านมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบแตกต่างกันไป มีการประเมินว่า บางท่านก็ “โดดเด่นในหมู่นักลงทุน” แต่ด้อยในการสื่อสารกับบุคคลทั่วไป ส่วนบางท่าน ก็เคยเด่นเรื่องการสื่อสาร แต่ปัจจุบันขอ “โลว์โปรไฟล์” ในภาพใหญ่ แต่ซุ่มเงียบทำ point ในเวทีพบปะคอลัมนิสต์ และความ “เอ็นดู” จากผู้ใหญ่หลายคน
ขณะที่บางท่านสื่อสารดี แต่ถูกมองว่าขาดประสบการณ์ เพราะไม่เคยโยกไปนั่งนอกบริษัทปตท.มาก่อน เหลือแต่ผลงานใหญ่ที่กำลังรอลุ้นดูความสำเร็จ เพื่อขอ “เคลม” สักที บางท่านเด่น เป็น “พี่ใหญ่” ใจดีในหมู่พนักงาน บุคลิก สุขุมนุ่มลึก
เรื่องความสามารถไม่ต้องพูดถึงดีเด่นแตกต่างกันไป อยู่ที่สุดท้ายแล้ว จะใช้คนแบบไหนมาบริหารองค์กรใน 4 ปีข้างหน้า ยุคที่ดิจิทัลมาแรง งานตอบสนองนโยบายรัฐก็หนัก งานบูรณาการทุกฝ่ายก็ต้องทำได้ด้วย
“บารมี” คือตัวตัดสิน ทั้งในและนอกองค์กร อายุมากน้อยไม่เกี่ยว เพราะระยะเวลาอยู่ในตำแหน่งแค่ 1 ปี 8 เดือนในองค์กรใหญ่มหึมาก็เกิดมาแล้ว ในยุค “นายชาญศิลป์” ทำเอาผู้บริหารที่กอดคอสมัครเป็น CEO รอบที่แล้ว ปิ๋วตามๆกันไป คราวนี้ทั้ง 4 จะลงสมัคร CEO ปตท.แบบเต็มแพ็คอีกหรือไม่ ? หลายท่านกำลังชั่งใจ หากเป็นได้แค่ “คู่เทียบ” อาจถอน เพราะระดับนี้ให้เทียบบ่อยๆ ก็ขอคิดหนัก
แต่เชื่อเถอะว่า CEO เก่า มีบทบาทพอสมควรในรอบนี้ ดูการโยกย้ายทั้งใน และนอกฤดูที่ผ่านมา ตั้งไว้ล่วงหน้าก็มี จนถึงตอนนี้ยังโยกไม่จบ ล่าสุดโยกอีก ดึงนายกฤษณ์ อิ่มแสง จากรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กำกับดูแลองค์กรและกิจการสัมพันธ์ มาเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย สลับน.ส.ดวงพร เที่ยงวัฒนธรรม งานนี้โยกแบบเนียนๆ ไม่รู้ใครถูกลงโทษ หรือใครถูกตบรางวัลกันแน่!!!
คงไม่มีใครเชียร์ไปลุ้นไปเท่ากับพนักงาน เพราะแต่ละท่านที่มีคุณสมบัติเหมาะสมล้วนมีสังกัด ก็ทีมใครทีมมันก็เชียร์กันไป แรงเชียร์ก็ส่วนหนึ่ง แรงหนุนจากไหนสำคัญกว่า !!
