ศึกชิงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครรอบใหม่ปะทุขึ้นอีกครั้ง ภายหลัง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 50/2559 ให้“คุณชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. คนที่ 15 “พ้นจากตำแหน่ง” และตั้ง “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” ขัดตาทัพ
กว่า 4 ปีที่ผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของ “คนกรุง” กว่า 7 ปีที่การเลือกตั้ง “ผู้ว่าเสาชิงช้า” หายไปจากสนาม “ลานคนเมือง” ตั้งแต่ 2556
ชื่อ “ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ถูก “เกมสามก๊ก” ในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ชูขึ้นมา “โชว์-เชือด” เพื่อหวัง “ตีกัน” เปิดทางให้กับ “สกลธี ภัททิยกุล” แกนนำ กปปส.-สามทหารเสือ
“สกลธี” ปัจจุบันนั่ง “รองผู้ว่าฯ กทม.” ลงมาสมัครในนาม พปชร. ภายหลังสร้างฐาน-เครือข่ายลานคนเมืองตุนแต้มต่อก่อนลงสนามจริง คาดว่าราวเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมศกนี้
“ผู้ว่าฯณรงค์” ได้รับการยกย่อง เชิดชูจากวีรกรรมช่วยเหลือ 13 ชีวิต นักฟุตบอล ทีม “หมูป่าอะคาเดมี่” เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ เชียงราย จนได้รับการขนานนามว่า “ฮีโร่ถ้ำหลวง”
ยังเหลืออายุราชการอีกเพียง 1 ปี ถึงแม้จะไม่ใช่ พปชร. ทว่าถูกทาบทาม จากทีมสายตรงของ “พล.อ.ประยุทธ์”
ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ “โปรไฟล์” ของ “ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์” ปมคุณสมบัติ-ลักษณะต้องห้ามของการลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ถูกหยิบขึ้นมา “เห็นต่าง” ทันควัน เสมือน “ถูกเซต” ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วว่าชื่อของ “วีรบุรุษถ้ำหลวง” ถูกปล่อยออกมา “ก่อนเวลาอันควร”
“ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้” นายวิษณุ เครืองาม “เนติบริกร” ประจำทำเนียบ ออกลูกลังเลภายหลังถูกตั้งคำถามเรื่องภูมิลำเนาในทะเบียนบ้านไม่ถึง 1 ปีของผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ ส่วน “พล.อ.ประยุทธ์” เด้งเชือก ไม่ตอบคำถาม
ขณะที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ชื่อที่โดดเด่น-ออกตัวมาแต่ไก่โห่ คือ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” เจ้าของฉายา “รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี”
ในช่วงลงสู้ศึกเลือกตั้งสนามใหญ่ 2562 “ชัชชาติ” ยอมรับว่า การมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทย เพียงต้องการ “ทดสอบเรตติ้ง” เพื่อวัดกระแสคนเมือง เมื่อถึงคิวชิงผู้ว่าฯ กทม.
ถึงแม้ว่า “ชัชชาติ” จะเป็น “ดาวฤกษ์” ที่มีแสงอยู่ในตัวเอง โดยเฉพาะใน “โลกโซเชียลมีเดีย” ทว่า ยังมีอีกหลายปัจจัยที่เพื่อไทยจะส่ง “ชัชชาติ” สู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรค ยิ่งมีการเปลี่ยนกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคชุดใหม่ ที่มี “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” เป็นหัวหน้าพรรค “อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” เป็นเลขาธิการพรรค จึงไม่อาจจับสัญญาณได้ว่า กก.บห.ชุดใหม่ จะมีอิทธิฤทธิ์มากน้อยแค่ไหน
ยิ่งการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้า-เลขาฯ-กก.บห. ไม่เห็น “ชัชชาติ” เป็น “วอลเปเปอร์” ให้ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” เจ้าแม่แห่งพรรคเพื่อไทย จึงถูกตั้งคำถามว่า ถ้าคุณหญิงหน่อย “ไม่เป็นแบ็ก” ให้ “ชัชชาติ” จะไหวหรือไม่
จึงเป็นไปได้ว่า “ชัชชาติ” จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนาม “ผู้สมัครอิสระ” ก็เป็นได้ โดยมี “พานทองแท้ ชินวัตร” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของทักษิณเป็นสปอนเซอร์หลัก
ขณะเดียวกันพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แม้ถูกมองว่ามีฐานเสียงเดียวกับเพื่อไทย แต่ปัจจัยชี้ขาดของอนาคตใหม่ในการสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งแรกของพรรคเที่ยวนี้ คือ “กระแสคนรุ่นใหม่” เป็นมวลชนหลักของพรรค
ความเคลื่อนไหวล่าสุด ทีมยุทธศาสตร์ของพรรคกำลังฟอร์มทีม เน้นทั้งทีมงานและ “ตัวผู้ว่าฯ กทม.”
ส่วนเมื่อเปิดตัวผู้ว่าฯ กทม.-ทีมงาน ออกมาแล้ว ชื่อ-ชั้นจะเรียกเสียงฮือฮา พอฟัดพอเหวี่ยงกับ “ชัชชาติ-ผู้ว่าฯหมูป่า” ได้หรือไม่นั้น กระแสการเลือกตั้งที่ผ่านมาพอจะเป็นคำตอบได้ในระดับหนึ่ง
“ส่วนประวัติศาสตร์การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในอดีตที่ผู้ที่ชนะคือพรรคที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลในขณะนั้นไม่สามารถตัดสินได้เสมอ เพราะการเลือกตั้งในช่วงหลังการตัดสินใจอยู่ในช่วงอาทิตย์สุดท้ายของการแข่งขัน ซึ่งกระแสการเมืองระดับชาติจะมีผลต่อการตัดสินใจ” แหล่งข่าวระดับสูง อนค.ระบุ
แม้ว่าจะมีข่าวลือออกมาว่า สนามเลือกตั้งท้องถิ่น-เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อนาคตใหม่กับเพื่อไทย จะ “สับหลีก” ไม่ให้ “ทับเส้น-ตัดแต้ม” กันเองก็ตาม
ฝากฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลัง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคคนที่ 8 ประกาศพร้อมสู้เต็มสูบ ไม่ว่าจะเป็นสนับสนุนผู้สมัครในนามประชาธิปัตย์ หรือ “ผู้สมัครอิสระ” ที่พรรคสนับสนุน
แหล่งข่าวระดับรับรู้ความเป็นไปในพรรค ยืนยันว่า ประชาธิปัตย์จะส่งผู้สมัคร กทม.ในนามพรรคและด้วยศักดิ์ศรี “แชมป์เก่า” จะไม่หลีกทางให้พลังประชารัฐแน่นอน
โดยมีชื่อ“กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ” ออกมาเป็น “ตัวเลือก” ถึงแม้ในนาทีนี้จะมีความเป็นไปได้มากที่สุด เมื่อเทียบกับชื่อ “แคนดิเดต” ที่ถูกปล่อยออกมา แต่ก็มี “ความเป็นไปได้น้อยที่สุด” เช่นกัน
เพราะ “กอร์ปศักดิ์” ไม่ได้เป็นแม้กระทั่งสมาชิกพรรค ซ้ำยังห่างหายจากการเมืองระดับชาติตั้งแต่รัฐบาลอภิสิทธิ์ รวมถึงการเมืองระดับท้องถิ่น-กทม.
ส่วน“กรณ์ จาติกวณิช” อดีตรองหัวหน้าพรรค-อดีตประธานนโยบายยังเป็นไปได้ แต่เส้นทางของ “กรณ์” กับ กก.บห.ชุดใหม่ เหมือนจะไป “คนละทาง”
ส่วนชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตหัวหน้าพรรค เป็นไปได้น้อยที่สุด เพราะ “อภิสิทธิ์” ยังอยู่ในลิสต์บัญชี “แคนดิเดตนายกฯ” และพร้อมกลับมาเป็น “นายกฯคนที่ 30” อีกครั้ง เมื่อ “ฟ้าเปิด”
ถึงแม้ว่าจะมีข่าวลือ-ข่าวปล่อยว่า แกนนำพลังประชารัฐ “ต่อสาย” ถึงแกนนำประชาธิปัตย์ ขอให้ “ยอมแพ้บาย” เพื่อไม่ให้ “ตัดแต้มกันเอง” ทว่า การสู้ศึกสนามเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นโอกาสที่ประชาธิปัตย์จะฟื้นคะแนนนิยมกลับมา ภายหลังแพ้การเลือกตั้ง 62 ในพื้นที่กทม.ย่อยยับ-สูญพันธุ์
ถึงแม้ยังไม่รู้ วัน ว. เวลา น. ศึกวันชิงธงเสาชิงช้า ทว่าชื่อที่ออกมาที่ว่าใช่ กลับไม่ใช่ ที่ว่าไม่ใช่กลับมองไม่เห็น
