ภาพนี้… คือหนึ่งในผู้เข้าประกวด มิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีน ปี 2019 ที่จัดขึ้นในประเทศไทย -- ดูออกไหมคะว่า…
-1-
เป็นข่าวที่ชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นอย่างมากกับเรื่องราวดราม่าหนุ่มบิ๊กไบก์รายหนึ่ง ถูก “วา” หรือ “ธัญญ์ฐิชา” สาวสวยอายุ 29 ปี เจ้าของฉายา “นางฟ้าบิ๊กไบก์” ยักยอกเอาเงินและทรัพย์สินเสียหายรวมราว 2 แสนบาท!
ฟังดูเหมือนจะเป็นคดีทั่ว ๆ ไป ทว่าจุดพีกของเรื่องอยู่ตรงที่ตลอดเวลาที่คบหาอยู่กินกันหลายเดือน พ่อหนุ่มแกไม่เคยนึกเฉลียวใจเลยว่าหญิงสาวหน้าตาสะสวย ขวัญใจกลุ่มหนุ่มบิ๊กไบก์ จ.สมุทรปราการ ข้างกายเขาคนนี้ แท้จริงแล้วชีเป็น “สาวข้ามเพศ” หรือ ทรานส์เจนเดอร์ (Transgender)
มีคำนำหน้าชื่อตามบัตรประชาชนเป็น “นาย” ธัญญ์ฐิชา
แต่ที่ความโป๊ะเป็นศูนย์ จับพิรุธไม่ได้แม้ปลายก้อยนั้น ก็เพราะไม่ว่าจะเสียงพูด รูปร่าง ท่าทาง อากัปกิริยา แม้กระทั่ง “จุดซ่อนเร้น” ของเธอมันช่างเหมือนอิสตรีโดยกำเนิดชนิดแยกไม่ออก -- ผู้เขียนไม่ได้เห็นเองกับตานะคะ ตามข่าวเขาบอกมาว่างั้น
นอกเหนือเรื่องคดีความตามกฎหมาย ประเด็นหนึ่งที่ถูกหยิบขึ้นมาถกเถียงกันบนโลกโซเชียลฯ คือเรื่องของความเนียน “เหมียน” หญิงแท้จนน่ากลัวของวา ถูกนำไปเกี่ยวกระหวัดกับประเด็นเรื่องกลุ่มบุคคลข้ามเพศ ที่ไม่นานมานี้เคยออกมารวมพลังเสนอยกร่าง พ.ร.บ.รับรองสิทธิหลังการแปลงเพศ หนึ่งในสาระสำคัญมีเรื่องการเปลี่ยนแปลงคำนำหน้านามบุคคลให้ตรงกับเพศสภาพหลังการแปลงเพศ รวมอยู่ด้วย
“เปลี่ยนเพศ! ต้องเปลี่ยนคำนำหน้า!” อันหมายรวมถึงว่าสาวข้ามเพศทุกคน สามารถเปลี่ยนชื่อคำนำหน้าจาก “นาย” เป็น “นางสาว” ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
ในกระแสโซเชียลฯ ฝั่งคุณผู้ชายจำนวนไม่น้อย เคาะแป้นคีย์บอร์ดคอมเมนต์ไม่เห็นด้วย เพราะรู้สึกสุ่มเสี่ยง ไม่ปลอดภัยที่ตนอาจถูก “ย้อมแมว” จากสาวข้ามเพศ กลัวโดนหลอกว่าเป็นหญิงแท้ รวมไปถึงเรื่องของการก่อคดีความต่าง ๆ ที่อาจทำให้ระบุตัวตน(เพศ)ได้ยาก
ยิ่งสมัยนี้เทคโนโลยีวงการศัลยแพทย์ก้าวกระโดดรุดหน้าไกล จนทำให้สาวข้ามเพศนั้นดูละมุนนีแทบไม่ต่างอะไรจากหญิงแท้… หากเปลี่ยนคำนำหน้าได้ ผู้ชายจะอยู่กันยากขนาดไหน
คุณล่ะคะ? คิดเล่นเห็นต่างอย่างไรกับประเด็นนี้…
-2-
ความทุกข์ของคนชายขอบทางเพศ “ผู้หญิงข้ามเพศ” ต้องพบกับปัญหาหรือข้อจำกัดใดบ้างจากการที่คำนำหน้าชื่อของเขา ไม่ตรงกับความเป็นเธอที่อยู่ตรงหน้า สาวข้ามเพศบางคนต้องถูกด่านตรวจคนเข้าเมืองตรวจเข้ม เพราะสภาพร่างกายต่างจากเพศที่แท้จริง
เจิน เจิน บุญสูงเนิน-นักร้องดีว่าข้ามเพศ เผยว่าเวลาเดินทางไปต่างประเทศ ทุกประเทศขุ่นแม่เจินเจินจะถูกเรียกตัวไปสัมภาษณ์ ยิ่งไปกว่านั้นบางประเทศต้องแก้ผ้าตรวจด้วยซึ่งถือเป็นการคุกคามสิทธิมนุษยชนทั่วไป
"ถ้าเรา(สาวข้ามเพศ) ได้เปลี่ยนเป็น 'นางสาว' การเดินทางก็จะง่ายขึ้น ชีวิตในสังคมก็จะง่ายขึ้น เราต้องการเพียงสิทธิที่เท่าเทียมคนอื่น ทั้งการสมัครงาน การเข้าเรียน และอีกหลายอย่างหลายกรณี เช่น เรามีแฟน การแต่งงานก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเราเป็น นาย กับ นาย แล้วสมมติสามีป่วยกะทันหัน เราต้องพาเข้าไปโรงพยาบาล เราไม่สามารถเซ็นอะไรได้เลยนะ นี่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น"
แม้กระทั่งเวลาเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลรัฐในห้องรวม ผู้หญิงข้ามเพศจะต้องเข้าพักในห้องตามเพศที่แท้จริง ดังนั้นพวกเธอจะถูกส่งตัวไปยังห้องรวมชายโดยไม่ได้คำนึงถึงเพศสภาพที่เปลี่ยนไปของบุคคลเท่าไรนัก
แม้ร่างกายและหัวใจจะเป็นหญิงแล้วก็ตาม…
-3-
“นิด้าโพล” เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเมื่อช่วงเดือน ก.ค. 62 ที่ผ่านมา เรื่อง “สังคมไทยคิดอย่างไรกับเพศที่ 3” พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.49 เห็นด้วยต่อการอนุญาตให้เพศที่ 3 สามารถเปลี่ยนคำนำหน้านามได้ ขณะที่ร้อยละ 36.53 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะบางคนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นเพศไหน อาจเกิดความสับสนวุ่นวายตามมา เช่น การตามหาตัวบุคคล การติดต่อเอกสารหน่วยงานต่าง ๆ ควรใช้คำนำหน้าตามเพศสภาพเดิม
สุดท้ายแล้วการเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อของคนข้ามเพศในเมืองไทย อาจยังเป็นเรื่องที่ต้องทบทวนถึงสิทธิต่าง ๆ ของบุคคลรวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นให้ถี่ถ้วน ส่วนตัวผู้เขียนเอง "เห็นด้วย" นะคะว่าสามารถเปลี่ยนได้ แต่ "การเปลี่ยนได้" นั้นต้องมาพร้อมกับความสามารถในการตรวจสอบย้อนหลังได้ด้วยว่าเพศกำเนิดเป็นเพศอะไรเช่นกัน
ทั้งในแง่เพื่อเหตุผลทางการแพทย์บางประการ เพื่อความโปร่งใสในการสมรส หรือในเชิงกีฬาการแข่งขัน สรีระโดยกำเนิดของหญิงข้ามเพศจะได้เปรียบกว่าหญิงแท้หรือไม่…
“สวยจนอยากยกมดลูกให้” อาจกลายเป็นคำเปรียบเปรยที่ได้ยินจนเอียนแล้ว ต่อไปอาจจะต้องพูดใหม่ให้อินเทรนด์กว่าว่า "สวยจนอยากยกนางสาวให้" แล้วกระมัง
อ้างอิง: