โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เบาหวานในวัยรุ่น รุนแรง-รักษายากกว่า ผู้สูงอายุ

Thai PBS

อัพเดต 08 พ.ย. 2562 เวลา 08.56 น. • เผยแพร่ 08 พ.ย. 2562 เวลา 08.56 น. • Thai PBS
เบาหวานในวัยรุ่น รุนแรง-รักษายากกว่า ผู้สูงอายุ

วันนี้ ( 8 พ.ย.2562) สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ร่วมกับ เครือข่ายคนไทยไร้พุง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร จัดงานแถลงข่าววันเบาหวานโลก 2562 World Diabetes Day Thailand 2019Together Fight Diabetes โดยถือเอาวันเบาหวานโลกวันที่ 14 พ.ย.2562 เป็นจุดเริ่มต้นของการรวมพลังทุกภาคส่วนจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพตลอดทั้งปี

ศ.เกียรติคุณ พญ.วรรณี นิธิยานันท์ นายกสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการเครือข่ายคนไทยไร้พุง กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีผู้ป่วยโรคเบาหวาน 4.8 ล้านคนและมักเกิดภาวะแทรกซ้อนเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมาจากวิถีชีวิตแบบเนือยนิ่ง โรคอ้วน และอายุที่มากขึ้น ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยและดูแลรักษาเพียง 2.6 ล้านคน ทำให้อัตราการเสียชีวิตมีมากถึง 200 คนต่อวัน

 

 

คาดการณ์ว่าความชุกของโรคเบาหวานจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 5.3 ล้านคนภายในปี 2583 ซึ่งหากดูแลรักษาได้ไม่ดีอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคไต และการถูกตัดเท้าหรือขา นอกจากนี้พบว่า เบาหวานที่เกิดในวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว และผู้ใหญ่วัยต้นนั้น มีข้อมูลชี้ชัดว่าโรคมีความรุนแรงกว่าเบาหวานที่เกิดในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ รวมถึงตอบสนองต่อการรักษาได้น้อยกว่า นำไปสู่การเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ อย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่า สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นกลุ่มประชากรในวัยทำงาน

เยาวชนที่เป็นเบาหวานตั้งแต่วัยเด็กเล็กและวัยเรียน จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองได้ แต่อุปกรณ์ดังกล่าวไม่ครอบคลุมอยู่ในรายการของ สปสช.และมีค่าใช้จ่ายประมาณ 13,000 บาทต่อปี ซึ่งมีเยาวชนที่ฐานะยากจนป่วยเป็นเบาหวานประมาณ 100,000 คนที่เข้าไม่ถึงอุปกรณ์ดังกล่าว ทำให้หลายหน่วยงานจัดกิจกรรมระดมทุนช่วยเหลือ

นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า เบาหวานมีสาเหตุจากพฤติกรรมทางสุขภาพที่ไม่เหมาะสม ได้แก่ การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การมีกิจกรรมทางกายไม่เหมาะสม การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โรค NCDs เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโลกและประเทศไทย โดยทั้งโลกมีผู้เสียชีวิตปีละมากกว่า 40 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 71 ของการเสียชีวิตทั้งหมด ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา สามารถคำนวณมูลค่าความสูญเสียถึง 47 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2573 หากไม่มีการดำเนินการแก้ไข ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตประมาณ 400,000 คนต่อปี คิดเป็นร้อยละ 76 ของการเสียชีวิตทั้งหมด และครึ่งหนึ่งเสียชีวิตก่อนวัยอันควร คิดเป็นมูลค่าความสูญเสียร้อยละ 2.2 ของ GDP ต่อปี

สสส.สนับสนุนให้เกิดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในทุกช่วงวัย โดยการพัฒนาและจัดการความรู้ สนับสนุนให้เกิดการจัดสิ่งแวดล้อมทางกฎหมายและทางสังคมอาทิ การผลักดันนโยบายที่เอื้อต่อพฤติกรรมสุขภาวะ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงด้านยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพิ่มปัจจัยเสริมด้านอาหารเพื่อสุขภาวะและการเพิ่มกิจกรรมทางกาย ใช้การสื่อสารการตลาดเพื่อรณรงค์ปรับเปลี่ยนค่านิยมวัฒนธรรม ขยายแนวคิดความรอบรู้ด้านสุขภาพให้เหมาะสมตามกลุ่มวัย เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมสุขภาวะ 

สำหรับกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ มีดังนี้

  • Fight Diabetes Run วิ่งสู้เบาหวาน กิจกรรมเดินสะสมระยะ (Virtual Run) วิ่งส่งเสริมสุขภาพ และระดมทุนช่วยกองทุนเบาหวานเด็ก สามารถสมัครเป็นทีมทีมละอย่างน้อย 3 คน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ Line @FightDiabetesRun หรือสามารถซื้อเสื้อและเหรียญที่ระลึก ได้ในราคารวม 450 บาท เริ่มส่งผลเดินวิ่ง ได้ตั้งแต่ 14 พ.ย. 2562 – 15 ม.ค. 2563 โดยทีมที่สามารถสะสมระยะทางได้มากที่สุดจะได้รับโล่เชิดชูเกียรติ เป็นองค์กรหรือครอบครัวตัวอย่างห่างไกลเบาหวาน นอกจากนี้จำนวนระยะทางรวมที่ผู้เข้าร่วมทั้งหมดเดิน-วิ่งได้ จะแปลงเป็นเงินบริจาคช่วยผู้ป่วยเด็กเบาหวาน โดย 1 กิโลเมตรมีค่าเท่ากับ 1 บาท โดยเงินจำนวน 13,000 บาท สามารถช่วยเด็กเบาหวาน 1 คนให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้เป็นเวลา 1 ปี

  • Active Meeting Challenge ภารกิจท้าคุณขยับ เป็นการประกวดคลิปออกกำลังกายระหว่างพักการประชุมหรือการปฏิบัติงาน เพื่อกระตุ้นให้คนในองค์กรให้ความสำคัญกับการเพิ่มการขยับร่างกายในชีวิตประจำวัน และตระหนักถึงภัยอันตรายของการนั่งทำงานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงในการเกิดโรค NCDs รวมถึงเบาหวาน กิจกรรมนี้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาองค์กรไปสู่การเป็น Healthy Organization หรือองค์กรสุขภาพพดี สามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ม.ค.2563

  • Healthy Family Workshop เชิญชวนสมาชิกในครอบครัวมาร่วมเวิร์กชอปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและออกกำลังกาย ในรูปแบบกิจกรรมเรียนรู้ที่สนุกสนาน สามารถนำไปใช้กับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ครอบครัวห่างไกล NCDs และเบาหวาน ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและประกาศรับสมัครได้ผ่านทางแฟนเพจเครือข่ายคนไทยไร้พุง

  • Together Fight Diabetes Fair กิจกรรมวันรวมพลังสู้เบาหวานและโรค NCDs ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือน ก.พ.2563 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0