โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เทกโอเวอร์เพื่อไทย

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 20 ต.ค. 2565 เวลา 02.43 น. • เผยแพร่ 25 ม.ค. 2563 เวลา 02.30 น.
ประกอยการเมือง

คอลัมน์สามัญสำนึก โดย อิศรินทร์ หนูเมือง

ปฏิบัติการ “แบ็กดอร์” เพื่อเทกโอเวอร์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เริ่มลงมือมาตั้งแต่ก่อนวาระพิจารณางบประมาณ 2563

ด้วยการเดินสายลงพื้นที่ภาคอีสาน-เหนือ ของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ “อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย”

มุ่งเจาะพื้นที่ ส.ส.เพื่อไทย นับสิบครั้ง หวังผลซื้อใจในอนาคต

สุริยะบอกว่า“ไปเป็นกำลังใจให้เขา เพื่อนเก่ากันทั้งนั้น บางพื้นที่เขา (ส.ส.เพื่อไทย) เชื้อเชิญมาก็ไป”

ฉายาแกนนำ“ใจถึงพึ่งได้” ยังขลังเสมอมา วงกาแฟที่พรรคพลังประชารัฐ-ห้องประชุมบางมุมในรัฐสภา หรือว่าในโรงแรมหรูของ ส.ส.ก๊วน “สามมิตร” และเครือข่าย “4 กุมาร” ว่ากันว่าราคาต่อถ้วยสูงลิบแตะ “หกหลัก”

ผลที่ได้คือ ตามเก็บเสียง ส.ส.งูเห่าเข้าพวก เพื่อโหวตกันสภาล่ม ได้สำเร็จยกต่อยก

มีทั้งงูเห่าพรรคเศรษฐกิจใหม่, ประชาชาติ, อนาคตใหม่

การเข้าเก็บหุ้น ส.ส.ร้อนเงิน ทำให้พลังประชารัฐได้แต้มมาเป็นกอบเป็นกำ

แกนนำเจ้าบุญทุ่ม จึงเดินเกมต่อด้วยการเจรจาแบบยกทีม พุ่งเป้าที่ ส.ส.เพื่อไทย สายอีสานและเหนือ

ในช่วงปิดสมัยประชุม จึงเห็นหมุดของ “สุริยะ” ปักลงบนพื้นที่ต่างจังหวัด 4 ภาค โดยเฉพาะภาคเหนือ-ภาคอีสานเจาะเขตฐานเสียง เพื่อไทยถี่ยิบ

ทั้งลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ภายใต้ 7 มาตรการ “ทำทันที” ซ่อม สร้าง ฟื้นฟู ช่วยผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร ร้อยเอ็ด

ด้วยความแนบแน่นเกือบเป็นเนื้อเดียวของทีม“สี่กุมาร” และ “สามมิตร” ภายใต้ร่มเงา “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ทำให้เกิดบิ๊กอีเวนต์การเมือง ที่ควบรวม รัฐมนตรี 2 ทีม กระจายทั่วทุกภาค ในนาม “ประชารัฐสร้างไทย”

ผนึกแน่นกับปฏิบัติการเงียบ ผ่านเครือข่ายแกนนำเก่าเพื่อไทย ทั้ง วราเทพ รัตนากร หัวหน้ากลุ่มกำแพงเพชร ผู้มีบารมีในกรรมาธิการงบประมาณ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง บ้านใหญ่เพชรบูรณ์ และ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ขาใหญ่ในกระทรวงเกษตรฯ

ตั้งเป้าว่าถ้าได้ตามที่ปักหมุดไว้ จะคลายปัญหาการต่อรองของพรรคร่วม 2 พรรค และพรรคเล็ก ๆ แบบ 2 เด้ง

เด้งแรกผลักทีมประชาธิปัตย์ ที่เป็นเสี้ยวในทีมเศรษฐกิจ เด้งที่สอง กวาดเสี้ยนหนามที่สร้างเกมป่วน-แก้แค้นในสภา จนเสียการใหญ่ ทำให้งบประมาณ 2563 ต้องลากยาวไปอีก 2 เดือน

“เสียง 2 ใน 3 ของสภาผู้แทนฯ” คือ เป้าหมายสุดท้ายของทีมแบ็กดอร์-พลังประชารัฐ

สะสมชัยชนะ เกมการเมืองในฝ่ายนิติบัญญัติ ผ่านเสียงปริ่มน้ำ เป็นเสียงเหนือน้ำ

ได้เสียงฝ่ายค้านร่วมโหวตผ่าน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในวาระที่ 3 ถึง 7 เสียง

เกมในชอตต่อไป คือ เซาะศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยกแรกเพื่อไทย เปิดหน้าไพ่ ไม่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พี่ใหญ่พลังประชารัฐ

ทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจในเพื่อไทย แตกเป็น 2-3 ทีม เดินคนละขา ข้างหนึ่งจ้องถล่มเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ อีกข้างหนึ่งดึงเกมตัดตอน-ลดดีกรีข้อมูลในการซักฟอก

ไม่ปรากฏหน้าและเสียงของแกนนำเพื่อไทยว่าจริงหรือลวง เมื่อข่าวหลุดออกจากวงกาแฟ ไปถึงหู ส.ส.ทั้งสภา ว่ามีการดีล-แบ็กดอร์ เก็บหุ้น ส.ส.ร้อนเงิน

ไม่เพียงเก็บหุ้น ส.ส.ร้อนเงิน แกนนำใจถึง ยังปักหมุดไว้ที่เกมยุบพรรคอนาคตใหม่ ในคดี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคปล่อยกู้ พรรคตัวเอง 191 ล้านบาท

หากอนาคตใหม่แพแตก 39 ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ คืออีกเป้าหมายในการช้อนซื้อ

เพราะนายใหญ่ มีพันธะคดี “ลูกชาย” มัดมือเท้า ขยับสู้ก็ไม่ได้-จึงถอยไปอย่างเงียบยิ่งกว่าเงียบ

ปฏิบัติการแบ็กดอร์เพื่อเทกโอเวอร์เพื่อไทย จึงซึมลึกอย่างง่ายดาย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0