เติมเต็มชีวิตในสาทร

ด้วยความที่เป็นศูนย์รวมทางด้านเศรษฐกิจที่หลากหลาย กิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในย่านจึงค่อนข้างหลากหลายตามไปด้วย ทั้งแหล่งช้อปปิ้งสินค้าสัญชาติต่างๆ ร้านอาหารที่มีดีทั้งรสชาติและแนวคิดสร้างสรรค์ หรืออื่นๆ แต่ด้วยพื้นที่ซึ่งก็ถือว่ากว้างพอสมควร หากเริ่มต้นที่สะพานช่องนนทรี ก็ควรจะต้องเลือกสไตล์กิจกรรมที่ชื่นชอบให้ชัดเจนเสียก่อน ไม่อย่างนั้นคงต้องเดินทางกันเหนื่อยแน่ๆ

พูดง่ายๆ คือ ‘มาสาทรต้องปักหมุดที่จะไป’ ไม่งั้นเหนื่อยแย่เลย

สวนพลู มากกว่าตลาดสด คอนโดฯ และโรงแรม

แม้ซอยสวนพลูหรือสาทร 3 จะตั้งอยู่บริเวณย่านเศรษฐกิจ แต่บรรยากาศในซอยนั้นย้อนแยงใช่ย่อย เพราะยังคงเสนาห์บ้านเรือนและผู้คนชุมชนเก่าแก่ แฝงอยู่ในย่านที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนใครหาร้านรวงเก๋ๆ ในย่านนี้ ขอบอกเลยว่าดีงาม เพราะร้านต่างๆ จะผสมผสานของเสน่ห์ความเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน 

• เดินไปทางซอยสวนพลู 2 มีร้าน Holey Bakery Kitchen ร้านขนมปังสไตล์ยุโรปแท้ๆ รวมถึงเค้กนานาชนิด เรียบง่าย ไม่หวือหวา ใช้โทนสีขาว-น้ำตาลเป็นหลัก 
• ใกล้กันในละแวกซอยสวนพลู 2 มีร้านที่พร้อมให้บริการคุณหนุ่มๆ ที่ต้องการ ตัดผม ออกแบบหนวดเครา ตัด-โกนขนบนใบหน้า นวดตัว ดูแลเล็บมือ-เท้า และแว็กซ์ขน ในชื่อ Hare Barber & Grooming ภายในร้านจะเห็นรถมอเตอไซค์คันโตสีแดง-ดำสุดเท่ และภาพวาดบนฝาผนังรูปกระต่ายกล้ามโตเป็นเอกลักษณ์ดี
• หนอนหนังสือ ต้องลองแวะสวนพลู 3 เพราะมีร้านหนึ่งที่เต็มไปด้วยหนังสือ งานศิลปะ และกิจกรรมเพื่อเรียนรู้ต่างๆ ในชื่อ Fathom Bookspace ที่สามารถใช้เวลาได้ทั้งวันเลย
• Smalls บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่ตรงหัวมุมซอยสวนพลู 1 โดดเด่นที่เพลงหลากแนวตามวัน เช่น พุธ-เพลงแจ๊ส พฤหัสบดี-อิเล็กทรอนิกส์ฟังก์ ศุกร์ แจ๊สและฟังก์ เสาร์ แนวอิเล็กทรอนิกส์ฟังก์ โอลด์สคูลร็อก ฮิปฮอป อาทิตย์ ดีเจพิเศษ และจันทร์-ฟังกี้ ล้อไปกับเครื่องดื่มมึนๆ ตามสไตล์ผับบาร์หลากรูปแบบ
• ร้าน Arno’s สาขานี้ ร้านเบอร์เกอร์ดังที่ตั้งอยู่ใกล้กับซอยสวนพลู 1 แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายเป็น Arno’s Wine Bar ส่วนด้านขวาเป็น Arno’s Steaks and Burgers บริเวณร้านทั้งสองชั้นตกแต่งในสไตล์ร้านอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมที่เน้นโทนสีเหลือง-ส้ม-แดง จากเฟอร์นิเจอร์ไม้และผนังอิฐ ทำให้ร้านมีบรรยากาศอบอุ่นสบายๆ เหมือนบ้าน

ตามหาความ ‘เก๋า’ ในถิ่นเซนต์หลุยส์

นอกจากโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ที่ทำให้เรียกติดปากถึงซอยนี้แล้ว ความโดดเด่นในเรื่องของร้านอาหารแนวสตรีตฟู้ด ก็เป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลายๆ คนยอมฝ่ารถติดและพกแบงก์ม่วงมาใบเดียว อร่อยเผื่อถึงคนที่บ้านได้สบายๆ อีกด้วย 

• ร้านหมกไก่อดทน เปิดขายมากว่า 30 ปี ขอชื่นชมทั้งตัวข้าวหมก ข้าวมัน หมกไก่ทอด มันไก่ทอด หมกไก่สองอย่าง มันไก่สองอย่าง เต็มไปด้วยข้าวเหลืองสวยกลิ่นหอมพร้อมไก่เนื้อนุ่ม ที่สายรักเมนูข้าวหมกไก่พลาดไม่ได้จริงๆ
• ร้านบุญเอก ห่านพะโล้ เปิดขายมา 30 กว่าปี ห่านและเป็ดพะโล้เน้นเนื้อแน่แต่ไม่เหนียว ราคาเป็ดขนาดตั้งแต่ เล็ก กลาง ใหญ่ คือ 100 บาท 150 บาท และ 240 บาท ส่วนห่านขนาดตั้งแต่ เล็ก กลาง ใหญ่  120 บาท 200 บาท และ 340 บาท 
• ร้านยำเซนต์หลุยส์ เจ๊อ้วน By อ้อ อายุอานามร่วมๆ 30 ปี มีเมนูชวนหิวมีหลายสิบอย่าง อาทิ ยำมะม่วงกุ้ง ยำผักบุ้งเส้น ยำปลาแซลมอน สายยำผ่านมาแถวนี้ไม่ลองจะเสียใจ
• ข้าวขาหมูเลิศรส จส.100 เปิดบริการมา 40 ปี หลายคนมาแล้วติดใจเนื้อขาหมูนุ่มๆ และน้ำขาหมูรสชาติกลมกล่อม ยิ่งเจอหนังนิ่มๆ เข้าไปอีกนี่ ตายๆๆๆ 
• ร้านกิตติก๋วยเตี๋ยวเป็ด เซนต์หลุยส์ เปิดขายมากว่า 40 ปี เมนูทางร้านมีให้เลือกทั้ง ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ข้าวหน้าเป็ด เป็ดตุ๋น และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย แต่ใครมาก็มักสั่งเป็ดสักครึ่งตัว และไส้ทิพย์ ที่ทำเอาติดใจมากๆ

ซอย 10-12 เส้นเลือดใหม่ของเส้นสาทร  

ถ้ามาสาทรในตอนนี้ จุดที่ควรเข้าไปสำรวจอย่างยิ่ง คือ สาทรซอย 10 และ 12 เพราะมีความเจริญในเชิงของคอนโดฯ เปิดใหม่ และร้านรวงที่ทำให้สาทรมีชีวิตชีวามากขึ้น

สายนที โพธิสา ข้าราชการในพื้นที่สาทร “จริงๆ ซอย 10-12 เป็นซอยที่ต่างชาติอยู่กันเยอะนะ มันก็เลยมีร้านเก๋ๆ น่านั่ง น่ากิน เปิดมาตอบรับคนกลุ่มนี้เยอะขึ้น แต่ก็สังเกตว่าคนไทยก็มาเยอะด้วย ส่วนตัวที่เคยแวะไปถ้าเป็น สาทรซอย 10 จะแวะไป Sorrento Sathorn เป็นร้านอาหารอิตาลีและยุโรปแบบดั้งเดิม ที่นี่ราคาไวน์ไม่แพงมาก เห็นว่าทุกวันธรรมดายังมีเซ็ตอาหารกลางวันสุดคุ้ม ตั้งแต่เวลา 11.00-14.30 น. ด้วย

อีกที่ขอไปที่สายไทยๆ หน่อย คือ ร้าน Supanniga Eating Room ร้านนี้คนไทยกับคนต่างชาติเยอะ เห็นว่าดังมาตั้งแต่ตอนอยู่ทองหล่อ บรรยากาศภายในจะดูโมเดิร์นหน่อย แต่รสชาติยังคงความเป็นไทยแบบต้นตำรับนะ

Not Just Another Cup น่าจะตอบโจทย์สายบรันช์ (ทานควบเช้า-เที่ยง) และอยากลองอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะเมนูไข่ที่หลากหลาย เสิร์ฟกับกาแฟเก๋ๆ แถมยังมีน้ำผลไม้สดๆ บริการตลอดวันอีกด้วย เป็นหนึ่งอีกร้านที่มีลูกค้าเยอะเป็นพิเศษในเช้าวันเสาร์ อาจจะต้องจองล่วงหน้าถ้าไม่อยากรอโต๊ะเป็นเวลานาน

Revolucion เห็นว่าเป็นบาร์ค็อกเทลที่ส่งตรงมาจากเซี่ยงไฮ้เลยนะ (ค็อกเทลบาร์ที่เซี่ยงไฮ้เขาว่าดี) บรรยากาศก็ดูเฮ้วๆ ตามสไตล์ละตินอเมริกัน ตกแต่งเก๋ๆ ด้วยกำแพงหลังบาร์ที่ยาวเหยียดมาก และมีขวดเหล้ากว่าหลายร้อยขวดเรียงอยู่ ถ้าสายค็อกเทลคงต้องแวะไปลองซักครั้ง

Hanakaruta เป็นบาร์สาเกที่ขึ้นชื่อในย่านนี้ ลักษณะไม่ต่างจากสาขาแรกที่ซอยสุขุมวิท 39 มากนัก ด้วยบาร์ยาวเหยียดและผนังที่เรียงรายไปด้วยขวดแอลกอฮอลล์ เมนูเด็ด คือ การเสิร์ฟเครื่องดื่มพร้อมกับไอซ์บอลที่คราฟต์เองกับมือ ข้อดีของที่นี่คือเมนูที่หลากหลาย รวมทั้งเมนูอาหารญี่ปุ่นทั่วไปที่ราคาเป็นมิตร”

ปูรณ์-สิรวิชญ์ โฆวิไลกูล เจ้าของธุรกิจร้านอาหารในย่านสาทร เล่าว่า “ในสาทรซอย 12 จะมีร้านแนวบรันช์ (ควบเช้าเที่ยง) อย่าง Rocket Coffee bar เป็นคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อของย่านนี้ บรรยากาศภายในมีการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวีย เมนูอาหารที่นิยมทั่วไป มีทั้งประเภทสลัด แซนด์วิช ซุป และเพรสทรีอบใหม่สดๆ ร้อนๆ แต่ที่ขึ้นชื่อที่สุดของ Rocket คงต้องยกให้เมนูอาหารเช้าประเภทไข่ เช่น ออมเล็ต

Lady Brett เป็นร้านสไตล์โรงเหล้าในนิวยอร์ค อาหารจานเด่นคือเมนูประเภทเนื้อ เช่น ไก่ย่างซอสมัสตาร์ด สเต็ก และ Braised lamb shank มีเครื่องดื่มก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เต็มไปด้วยเมนูโฮมเมดที่ใช้วัตถุดิบอย่างคาโมมายล์กับขิง แนะนำให้ลอง Crisp n’ Cloudy

Kai by Snapper เป็นร้านอาหารนิวซีแลนด์ในไทย ที่หากินไม่ได้ง่ายๆ เป็นร้านอาหารในเครือเดียวกันกับ Snapper (สุขุมวิทซอย 11) ส่วนเมนูอาหารสไตล์กีวี่ที่แนะนำของที่นี่ต้องยกให้ NZ Beef Burger เบอร์เกอร์เนื้อที่ท็อบด้วยบีทรูท ไข่ดาวและเบค่อน เสิร์ฟกับขนมปัง Brioche เนื้อแน่น เข้ากันดี

Le Cafe des Stagiaires เป็นบาร์ที่เดิมทีอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2011 และนี่ก็เป็นสาขาแรกในกรุงเทพฯ ภายในบาร์มีกลิ่นอายความเป็นยุโรปอยู่ในตัว มีเสน่ห์ของความวินเทจอยู่เบาๆ ไฮไลต์เครื่องดื่มของที่นี่จะเป็นค็อกเทลคลาสสิกอย่าง Moscow Mule รสชาติเปรี้ยวปนหวานกำลังดี 

จริงๆ ในซอย 10-12 และไล่ไปถึงซอย 8 ด้วย จะเริ่มมีร้านใหม่ๆ เยอะขึ้น เติมเต็มชีวิตคนสาทรและคนทำงานในสาทรได้ดีเลยครับ”

เสน่ห์นางลิ้นจี่ จากถนนสายผ่านสู่ถนนสายแวะ

ถนนนางลิ้นจี่ อาจจะดูเป็นเส้นนอกกระแสของคนที่มาสาทร เพราะเดิมเป็นถนนเส้นผ่านไปออกถนนพระราม 4 เสียเป็นหลัก แต่ปัจจุบันเริ่มกลายเป็นถนนที่มีคนเข้ามามากขึ้น เพื่อสามารถเชื่อมต่อกับซอยเย็นอากาศ และซอยสวนพลูที่มีไลฟ์สไตล์แฝงตัวอยู่ในระดับหนึ่ง

อุไรวรรณ รัตนมนูญพร พนักงานออฟฟิศ “ความน่าสนใจของนางลิ้นจี่ คือ ความเงียบสงบ แต่ครบด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์แบบย่อมๆ ทั้งในทำเลของมันเอง และทำเลใกล้ๆ เช่น เย็นอากาศ และสวยพลู คนที่มาอยู่แถวนี้ ไม่ชอบความอึกทึก แต่ก็ไม่อยากหนีห่างจากความเป็นเมือง ส่วนตัวแล้วใช้ชีวิตติดที่นี่ เพราะจะไปไหนก็ขึ้นทางด่วนไปได้ไม่ยาก 

ส่วนของกินดีๆ ทีเด็ดผมยกให้ ‘ราดหน้านายเหลา นางลิ้นจี่’ ละกัน ฝากท้องได้ตลอด แต่ถ้าเป็นร้านแนวใหม่ๆ ยังไม่เด่นมาก เพราะแถวนี้มันไม่มีที่จอดรถข้างทาง ร้านที่เปิดใหม่จึงดูเหงาๆ หน่อย แต่ในซอยลิ้นจี่ 8 มีร้านเบอร์เกอร์คนไทย ที่ชื่อ ‘พยัคฆ์’ (PAYAK) ร้านนี้อยู่ในทำเลที่ค่อนข้างดี มีที่จอดรถเป็นของตัวเอง อยู่ในโครงการ The Garden เปิดช่วงเย็นๆ หน่อย ผมว่าน่าสนใจ เขาทำซอสกับเนื้อได้มีเอกลักษณ์ดี บรรยากาศน่านั่ง แต่บางทีก็อดนั่งเพราะฝนตกทีจบเลย แต่ถ้าอยากกินก็สั่งผ่าน Lineman/ GrabFood/ Get ได้ เห็นว่ารับส่งอยู่

อ้อ!! อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ย่านนี้มีชีวิตชีวาขึ้น คือ ‘มาร์เก็ตเพลส นางลิ้นจี่’ (Market Place Nanglinchee) เพราะที่นั่นมีซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ที่ช่วยให้คนละแวกนี้ไปต้องไปไหนไกลด้วยฮะ”