โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เซ่นภาษีความหวาน น้ำอัดลมแห่ขึ้นราคาถ้วนหน้า ‘เป๊ปซี่’ ร่อนสารวอนลูกค้าเข้าใจ

The Bangkok Insight

อัพเดต 23 ก.ค. 2562 เวลา 10.37 น. • เผยแพร่ 23 ก.ค. 2562 เวลา 10.37 น. • The Bangkok Insight
เซ่นภาษีความหวาน น้ำอัดลมแห่ขึ้นราคาถ้วนหน้า ‘เป๊ปซี่’ ร่อนสารวอนลูกค้าเข้าใจ

หลังจากกรมสรรพสามิตประกาศมาตรการภาษีน้ำหวาน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ส่งผลให้เกิดกระแสการปรับตัวของเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลอย่างรุนแรงในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งการปรับสูตรลดปริมาณน้ำตาลลง, การพัฒนาสูตรใหม่หวานน้อย ไปจนถึงสูตรไม่มีน้ำตาล

 

ต้องยอมรับว่า สินค้าเครื่องดื่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ เครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม ด้วยมูลค่าตลาดที่สูงถึง 50,000 ล้านบาทและเป็นตลาดที่เติบโตลดลงต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งจากการกระแสรักสุขภาพของผู้บริโภคในปัจจุบัน และการที่มีคู่แข่งเครื่องดื่มใหม่ๆ โดยเฉพาะฟังก์ชันนอล ดริ้งค์ เข้ามาเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

จนกระทั่ง ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดน้ำอัดลม โค้ก และ เป๊ปซี่ ได้ปรับขึ้นราคาเครื่องดื่มน้ำอัดลม สูตรดั้งเดิม เฉลี่ยขวดละ 2-3 บาท โดยให้เหตุผลว่า ส่วนหนึ่งเป็นมาจากการปรับขึ้นภาษีความหวานของกรมสรรพสามิตรอบสองที่จะมีผลในวันที่ 1 ต.ค. 62 หลังจากประกาศขึ้นรอบแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 60 ซึ่งทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นจากภาระภาษี

ล่าสุด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SPBT เจ้าของ “เป๊ปซี่ และ มิรินด้า” ได้ออกแถลงการณ์ว่า บริษัทได้มีการปรับราคาสินค้าซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การกำหนดราคาสินค้าของบริษัท โดยกลยุทธ์นี้จะรวมถึงการเปิดตัวสินค้าขนาดใหม่ และการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าให้เหมาะสมตามกลไกของตลาด โดยจะมีการติดตามภาวะตลาดและพิจารณาปัจจัยต่างๆ ในการกำหนดราคาและขนาดของสินค้า

ในการปรับราคาสินค้าครั้งนี้ บริษัทได้ปรับราคาสินค้าบางรายการเพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยบริษัทยังคงยึดมั่นและมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรักษามาตรฐานคุณภาพ พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่เป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องตลอดไป

สำหรับสินค้าที่มีการปรับขึ้นราคาขายปลีกแนะนำในครั้งนี้ ประกอบด้วยเครื่องดื่มเป๊ปซี่ 3 ขนาด ได้แก่ เครื่องดื่มเป๊ปซี่ ขนาด 345 มิลลิลิตร เป็นราคา 12 บาท ขนาด 430 มิลลิลิตร เป็นราคา 15 บาท และขนาด 640 มิลลิลิตร เป็นราคา 17 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป

ขณะที่ “โค้ก” โดยบริษัท โคคา-โคลา ประเทศไทย ก็ได้ปรับราคาขายปลีกเครื่องดื่มโค้ก เช่นกัน ได้แก่ โค้กขวดแก้ว ขนาด 185 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 5 บาท เป็น 7 บาท, ขนาด 1 ลิตร ปรับขึ้นจากเดิม 17 บาท เป็น 20 บาท ส่วนขนาด 280 มล.ขนาด 422 มล. ยังไม่ปรับขึ้นราคา ขณะที่ขวดเพ็ท ขนาด 330 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 10 บาท เป็น 12 บาท, ขนาด 450 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 12 บาท เป็น 15 บาท, ขนาด 590 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 15 บาท เป็น 17 บาท ยกเว้นขนาด 1.2 ลิตร ที่จำหน่ายอยู่ที่ราคา 30 บาทเท่าเดิม

 

ในส่วนของกลุ่มน้ำสี แฟนต้า และ สไปร์ท ชนิดขวดเพ็ท ก็ปรับราคาขนาด 330 มล. จากเดิม 10 บาท เป็น 12 บาท, ขนาด 450 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 12 บาท เป็น 15 บาท และน้ำมะนาวโซดา ขนาด 400 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 15 บาท เป็น 17 บาท

ทั้งนี้ สินค้าน้ำอัดลม เป็นสินค้าที่ไม่ต้องขออนุมัติจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ หากมีการปรับขึ้นราคา เนื่องจากไม่ใช่สินค้าควบคุม แต่เป็นสินค้าที่อยู่ในบัญชีต้องติดตาม อย่างไรก็ตาม ต้องแจ้งเหตุผลในการปรับขึ้นราคามาให้รับทราบ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0