โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

เซลีน่า โกเมซ กลับมาพร้อม Rare อัลบั้มใหม่ในรอบ 5 ปี และธีมหลักที่เน้นรักตัวเอง

OK Magazine Thailand

เผยแพร่ 20 ม.ค. 2563 เวลา 04.25 น.
เซลีน่า โกเมซ กลับมาพร้อม Rare อัลบั้มใหม่ในรอบ 5 ปี และธีมหลักที่เน้นรักตัวเอง
เซลีน่า โกเมซ กลับมาพร้อม Rare อัลบั้มใหม่ในรอบ 5 ปี และธีมหลักที่เน้นรักตัวเอง

จะว่าไปชีวิตของคนดังนั้นไม่ได้ง่ายเสมอไป ดังเช่นชีวิตของเซลีน่า โกเมซ นักร้อง-นักแสดงสาวขวัญใจแฟนๆ ทั่วโลก การโด่งดังจากการเป็นนักร้อง-นักแสดงมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เธอเจอะเจอกับชีวิตที่เร่งรีบและผู้คนต่างเข้าหาเธอมากมาย ไม่นับรวมกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ที่พุ่งเข้าหาเธอทางโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะเมื่อครั้งรักๆ เลิกๆ กับป๊อปสตาร์หนุ่มจัสติน บีเบอร์ ซึ่งทั้งคู่เริ่มต้นความสัมพันธ์มาตั้งแต่ปี 2010 จนกระทั่งเลิกราเป็นการถาวรในปี 2018 (ปัจจุบันจัสตินแต่งงานกับเฮลีย์ บอลด์วิน ไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา) แน่นอนว่าความรักครั้งนี้คงส่งผลกระทบทางจิตใจต่อเซลีน่าอย่างลึกซึ้ง แม้หลังจากนั้นเธอจะมีช่วงออกเดทกับศิลปินหนุ่มเดอะวีคเอนด์ในปี 2017 และสุดท้ายก็เซย์กู๊ดบายกันไปก็ตาม เซลีน่ายังประสบปัญหาสุขภาพ โดยเธอเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (Lupus) ในปี 2012-2014 ไม่เพียงเท่านั้น ในปี 2016 และปี 2018 เธอยังเข้ารับการบำบัดจิตใจในสถานบำบัด และปิดโหมดตัวเองจากโซเชียลมีเดียไปพักใหญ่ นอกจากนี้เธอยังผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายไตโดยได้รับบริจาคไตมาจากเพื่อนรักในปี 2017 ด้วย เรียกได้ว่าแต่ละเรื่องที่เซลีน่าเจอนั้นหนักหนาสาหัสไม่น้อย

SELENA GOMEZ’S NEW CHAPTER

เซลีน่าโกเมซ กลับมายิ้มได้อีกครั้ง

กับชีวิตบทใหม่ที่เป็นตัวเองมั่นใจ และมีความสุข

พร้อมงานเพลงอัลบั้มล่าสุดในรอบ5 ปี

แต่เวลาก็เป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจและร่างกายได้ในทางหนึ่ง หลังแบ่งเวลาเพื่อดูแลและโฟกัสกับความรู้สึกของตัวเองอย่างเต็มที่ ล่าสุดสาวคนดังวัย 27 ปีพร้อมกลับมาทำงานและมอบความบันเทิงให้แฟนๆ ทั่วโลกที่รักเธออีกครั้ง เดือนมกราคมปีนี้ เซลีน่าคัมแบ็กวงการมาพร้อม Rare งานเพลงอัลบั้มที่ 3 ซึ่งเป็นอัลบั้มในรอบ 5 ปีของเธอ นำร่องด้วยเพลง "Lose You to Love Me" และ "Look at Her Now" ที่ปล่อยออกมาเมื่อเดือนตุลาคมปี 2019 เนื้อหาเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มนี้ล้วนมาจากไดอารี่ของเธอในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเจ้าของยอดฟอลโลเวอร์ในอินสตาแกรมมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกที่จำนวน 166 ล้านฟอลโลเวอร์ กลับมาพร้อมสีหน้าที่ดูมีความสุขกว่าที่ผ่านมา พร้อมก้าวสู่ชีวิตบทใหม่ที่มีความสุข สุขภาพดี มั่นใจ และพอใจมากขึ้น อาจเป็นความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ความเป็นธรรมชาติ ความเข้าถึงได้ จิตใจที่ดี ความจริงใจ และมุมมองที่ดีของเซลีน่านี่ล่ะ ที่ทำให้เธอเข้าไปอยู่ในใจของแฟนๆ ทั่วโลกมาตลอดตั้งแต่ตอนเข้าวงการในช่วงแรกๆ จนถึงปัจจุบัน

ON BEING SINGLE

“ตอนนี้ฉันสนุกกับชีวิตโสดมากนะ ปีแรกที่โสดมันแย่มากก็จริง แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกดีเลยล่ะ ถ้าจะมีความรักครั้งใหม่ ฉันอยากมีความรักที่จริงใจ ไม่อยากมีความรักที่ต้องตัวติดกันตลอดเวลา ยุ่งเหยิง หรือขาดการพูดคุยสื่อสารกัน ฉันคิดว่ายิ่งอายุมากขึ้นเท่าไร เราก็จะพบคนที่ใช่สำหรับตัวเองมากขึ้น”

ON HOW HER PAST RELATIONSHIPS LEFT HER FEELING EMPTY

“กว่าจะรู้สึกตัวว่าคุณสูญเสียความเป็นตัวเองไปมันใช้เวลานานเหมือนกัน ก่อนหน้าที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ต่างๆ ฉันเคยมีภาพของผู้หญิงที่มีความรักในรูปแบบหนึ่ง แต่เมื่ออยู่ในความสัมพันธ์ ฉันกลับหลงลืมผู้หญิงคนนั้นไป เมื่อผ่านพ้นความรักครั้งนั้นมาได้ ฉันถึงค้นพบว่าฉันเป็นผู้หญิงในรูปแบบนั้นแล้วจริงๆ เพียงแต่เป็นผู้หญิงที่ได้ก้าวผ่านอุปสรรคเพิ่มขึ้นมานิด มีประสบการณ์มากขึ้นหน่อย ที่ผ่านมาฉันเคยมีคนที่รักฉันในแบบที่เป็น แต่แล้วทุกอย่างก็ค่อยๆ ถูกทำลายลงจนฉันรู้สึกไม่เหลืออะไร ไร้ค่า เหมือนถูกโยนทิ้งไปอีกฟาก มันเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายและเป็นความรู้สึกที่น่าขยะแขยงที่สุด”

*ON GETTING SUPPORT FROM TAYLOR SWIFT *

“เวลาที่ฉันรู้สึกไม่ดี เทย์เลอร์ (สวิฟต์) ก็จะรู้สึกไม่ดีตามไปด้วย เวลาที่ฉันเศร้า เธอก็จะเศร้าตามไปด้วย แต่เหนือสิ่งอื่นใด เพื่อนๆ ทุกคนยืนหยัดอยู่เคียงข้างฉันเสมอ เวลาที่เพื่อนๆ เห็นว่าฉันเจ็บปวดแค่ไหน ฉันรู้สึกได้เลยว่าพวกเขาไม่อยากให้ฉันมาเจอะเจอเรื่องราวแบบนี้ แต่ทุกคนก็ไม่เคยหยุดรักฉันเลย ฉันเคยร้องเพลงให้เทย์เลอร์ฟัง ตอนนั้นพ่อแม่ของเธอก็อยู่ด้วย แล้วฉันก็เปิดคลิปวิดีโอให้พวกเขาดู จากนั้นเทย์เลอร์กับแม่ก็เริ่มร้องไห้ ไม่ใช่ว่าเพลงซึ้งหรืออะไรหรอก แต่เพราะประโยคแรกที่ทั้งคู่พูดคือ ‘เราดีใจมากที่เธอมาหา’ นั่นเป็นช่วงเวลาที่เจ๋งมากจริงๆ และเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ในใจฉันเลยล่ะค่ะ”

เทย์เลอร์ สวิฟต์

ON HOW SHE NEEDS TO LOOK AFTER HERSELF

“ฉันรู้ว่าผู้คนทั้งผู้หญิงและผู้ชายนับพันๆ คนเคยรู้สึกสูญเสียและว่างเปล่ามาแล้วทั้งนั้น ทุกอย่างมันดูจริงมาก ไม่สำคัญเลยว่าคุณจะยืนอยู่ในจุดที่ฉันยืนหรือจุดที่คนอื่นยืนอยู่ เพราะไม่ว่าอย่างไรคุณก็จะต้องเจอะเจอกับเรื่องราวในแง่ลบอยู่ดี นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันต้องระมัดระวังกับการทำอะไรต่างๆ ในชีวิต ลองถอยหลังมาสักหน่อย และโฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่อย่างแท้จริง”

ON HOW THERAPY HAS GIVEN HER GREATER INSIGHT INTO HERSELF

“ปี 2018 ฉันใช้เวลาพักเบรกนานทีเดียว คิดว่าจำเป็นต้องหาเวลาให้ตัวเอง เพราะรู้สึกว่าฉันเริ่มโตและเปลี่ยนไป พระเจ้า ถ้าตอนนั้นฉันรู้สิ่งที่รู้ตอนนี้มันก็คงดี ตอนนี้ฉันเชื่อมั่นเรื่องการบำบัดไปแล้ว การเข้ารับการบำบัดทำให้ฉันมีโอกาสทบทวนชีวิตเมื่อตอนที่ยังเด็กกว่านี้ หลายครั้งที่รู้สึกว่าถ้าได้กอดตัวเองในตอนนั้นบ้างก็คงดี การบำบัดเป็นเรื่องยากแต่น่าทึ่ง ที่จริงการทำให้คนเปิดใจเป็นเรื่องยากนะ แต่ฉันคิดว่าการได้ทำความรู้จักตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง ฉันไม่ได้หมายความว่าทุกคนในโลกต้องเข้ารับการบำบัดนะคะ แค่อยากบอกว่าการบำบัดช่วยให้ฉันเข้าใจตัวเองและชีวิตในวัยเด็กมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ ทุกอย่างคือเรื่องของความรู้สึกทั้งนั้น ตั้งแต่การรู้สึกมีความสุข ซาบซึ้ง หรือขุ่นเคือง ฉันแค่อยากประเมินทุกความรู้สึกเหล่านั้น เพราะมันเป็นอะไรที่จริงมากสำหรับฉัน”

*ON THE MESSAGE OF HER SINGLE “LOSE YOU TO LOVE ME” *

“ฉันหวังว่าเมื่อแฟนเพลงไม่ว่าจะชายหรือหญิงทั่วโลกได้ยินเพลงนี้ พวกเขาจะรู้สึกว่ามีคนให้กำลังใจพวกเขาอยู่ เพลงนี้พูดถึงความรู้สึกที่ทุกคนรู้สึกได้ และก็เป็นสิ่งที่ฉันต้องทำเพื่อตัวเองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมาก็ตาม”

*ON THE PROCESS THAT LED TO HER UPCOMING NEW ALBUM *

“ฉันใช้เวลาทำอัลบั้มใหม่อัลบั้มนี้นาน 4 ปีได้กว่าจะรู้สึก OK! กับงานเพลงในอัลบั้ม ที่ผ่านมามีเรื่องราวใหญ่ๆ เกิดขึ้นในชีวิตส่วนตัวของฉัน จนคิดว่าฉันจะจับเอาความรู้สึกในการร้องเพลงหรือรู้สึกดีกับกับเนื้อหาในเพลงที่ร้องจริงๆ ได้อย่างไร แต่ฉันก็ยังทำงานเพลงต่อไป และตอนนี้ก็รู้สึกโล่งอกที่ได้ปล่อยงานเพลงอัลบั้มใหม่มาให้แฟนๆ ได้ฟังอีกครั้ง”

Rare อัลบั้มใหม่ในรอบ 5 ปีของเซลีน่า

ON HOW THE BEST IS YET TO COME WITH THE NEW ALBUM

“เท่าที่ฉันรู้คือ 2 เพลงนี้ (“Lose You to Love Me” และ “Look at Me Now”) สรุปช่วงชีวิตที่ผ่านมาของฉันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฉันอยากเผยให้เห็นมุมเปราะบางของการประสบกับความเจ็บปวดเพราะความรัก และจากนั้นก็เปลี่ยนโหมดมาสู่การเดินทางบนเส้นทางชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นเส้นทางชีวิตของฉันเอง ทั้งหมดที่ฉันทำก็เพื่อตัวเองและแฟนเพลง สำหรับ “Lose You to Love Me” เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพลงที่เศร้ามากทีเดียว แต่การเห็นตัวเองเดินทางมาไกลจากจุดนั้นมาถึงตอนนี้ก็นับว่าน่าสนใจนะ การได้แบ่งปันเรื่องราวชีวิตกับแฟนๆ เป็นสิ่งที่ฉันทำมาตลอด ฉันพูดเรื่องไม่จริงไม่ได้ หรือแสร้งว่าตัวเองไม่ได้ก้าวผ่านปัญหาหรือเรื่องราวใดๆ ทั้งๆ ที่เห็นได้ชัดเลยว่าฉันกำลังเผชิญกับมันอยู่ไม่ได้หรอก ทั้ง 2 เพลงนี้คือเพลงที่ดี แต่ฉันขอเก็บเพลงที่ดีที่สุดไว้สำหรับปล่อยทีหลังแล้วกันนะ ส่วนเพลงที่เหลือของอัลบั้มก็จะพูดถึงจุดที่ฉันยืนอยู่ในชีวิตตอนนี้ และเส้นทางที่ฉันกำลังจะก้าวเดินต่อไป”

ON HOW TRYING TO DISGUISE HERSELF IN PUBLIC DOESN’T WORK

“ฉันเคยลองปลอมตัวมาแล้วและลองมาหมดแล้วทุกรูปแบบ แต่มันก็ไม่เวิร์กเลยจริงๆ ยิ่งทำก็รู้สึกตัวเองเหมือนคนโง่ที่พยายามแต่งตัวให้คนจำไม่ได้ ฉันเคยแต่งตัวเป็นสาวกอธิกแล้วคิดว่าคนคงจำฉันไม่ได้ แต่ปรากฏว่าคนกลับจำได้และสติแตกไปเลย มีครั้งหนึ่งฉันรอต่อแถวอยู่ข้างหลังผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับเพื่อน เธอก็เหมือนหันมามองแล้วก็พูดว่า ‘เดี๋ยวนะ นั่นมันเสียงของคุณนี่’ เธอจำฉันได้เพราะเสียงล้วนๆ ฉันเลยรู้สึกว่า ‘แย่แล้ว นี่ฉันจะถือว่าเป็นคำชมหรืออะไรดีเนี่ย’ (หัวเราะ)”

ON HER NEW OUTLOOK ON LIFE

“ฉันสนุกกับชีวิตในตอนนี้ และพยายามไม่นึกถึงเรื่องอะไรก็ตามที่จะทำให้ฉันเครียดอีกต่อไป ซึ่งมันดีมากเลยนะ ฉันไม่สนใจพยายามทำให้ผู้คนชอบฉันมากๆ อีกต่อไป พยายามใช้ชีวิตนอกกรอบมากขึ้น นอกจากนี้ยังรู้สึกว่าตัวเองเข้าถึงตัวละครที่แตกต่างจากขนบทั่วไปมากขึ้นด้วย ฉันไม่รู้สึกกลัวอะไรเท่าแต่ก่อน เมื่อใดก็ตามที่คุณมั่นใจในตัวเอง ความรู้สึกนั้นมันจะสอดแทรกไปกับทุกเรื่องที่คุณทำ คุณจะไม่รู้สึกสงสัยในตัวเองหรือวิตกกังวลมากเท่าไร ซึ่งนั่นส่งให้คุณมีอิสระในการเป็นตัวของตัวเอง ฉันรู้สึกว่าทุกวันนี้ฉันมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเยอะ และนี่ก็เป็นความรู้สึกที่ทำให้รู้สึกโล่งและปลดปล่อยมากทีเดียว”

ON HOW HER WORLD HAS CHANGED

“ตอนนี้ชีวิตฉันอยู่ในจุดที่อยากสนุกกับทุกโอกาสที่เข้ามาจริงๆ และไม่วิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ที่ทำให้ฉันดำดิ่ง เรื่องหนึ่งที่ฉันรู้คือเพื่อนแท้จะให้กำลังใจเรา และอยู่เคียงข้างเราเสมอไม่ว่ายามสุขหรือทุกข์”

*ON HOW SHE FEELS ABOUT HER LIFE GOING FORWARD *

“ฉันใช้เวลานานมากในการก้าวผ่านปัญหาต่างๆ ในชีวิตของตัวเอง แต่ตอนนี้ทุกอย่าง OK! แล้ว ฉันรู้สึกดีและยิ้มได้อีกครั้ง”

ติดตาม OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
Website : www.okmagazine-thai.com
Instagram : @okmagazinethailand
Facebook : OK! Magazine Thailand
Twitter : @okthailand

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0