โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เจ๊หน่อยสวดยับ "ไม่บ้าก็เมา" ซัด รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ สุดสะเปะสะปะ

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

อัพเดต 20 ส.ค. 2562 เวลา 04.54 น. • เผยแพร่ 20 ส.ค. 2562 เวลา 04.54 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

“คุณหญิงหน่อย” ซัด รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ อัดเงินกว่า 3.16 แสนล้าน ลงไปสะเปะสะปะ ชี้ 5 ข้อทำไม่สำเร็จ สวดยับ ไม่บ้าก็เมาใช้วิธีเดิม ย้ำ ต้องเร่งแก้สถานการณ์ก่อนไทยเข้าสู่หายนะ

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 20 ส.ค. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ครม.เศรษฐกิจ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นหัวหน้าทีม เสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้เม็ดเงินกว่า 316,000 ล้านบาท แต่มาตรการที่ออกมายังไม่แรงพอที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นได้ และเป็นแนวทางที่สะเปะสะปะมาก เพราะ 1.เม็ดเงินไม่มากพอ เม็ดเงินที่ลงจริงเพียงไม่กี่หมื่นล้านบาท จึงไม่เพียงพอที่จะสตาร์ตเครื่องยนต์เศรษฐกิจให้เดินเครื่องได้

2.มาตรการสะเปะสะปะ เมื่อเม็ดเงินจำกัดต้องเลือกใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพและแรงพอ แต่มาตรการที่ออกมามีลักษณะเบี้ยหัวแตก สะเปะสะปะ ไม่ได้อัดลงไปให้ตรงจุด เช่น การแจกเงินเที่ยวคนละ 1,000 บาท เป็นมาตรการทางอ้อมที่ยากจะหวังผล ในสภาพที่ทุกคนหมดหวังกับอนาคต ใครจะมีกะจิตกะใจไปเที่ยว ดังนั้น เงินที่ใช้ไปเพื่อการนี้จะสูญเปล่า ถ้าเทียบกับอัดฉีดเงินลงไปที่เกษตรกรฐานราก จะเกิดการผลิตและเกิดการจับจ่ายใช้สอยที่ได้มาจากการผลิตที่ยั่งยืน กำลังซื้อจะกลับคืนมา

คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า 3.ใช้วิธีเก่า ที่ล้มเหลวมาตลอดระยะเวลา 5 ปี คือ การแจกเงินอย่างไม่มีประสิทธิภาพของนายกฯ คนหน้าเดิม ใช้งบประมาณไปมากมายมหาศาล แต่กลับไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้ จนทำให้เป็นภาระทางการคลัง ล้มเหลวมา 5 ปีแล้วยังทำแบบเดิมอีก ปีที่ 6 แบบนี้ไม่บ้าก็เมา นอกจากจะทำให้เสียวินัยการเงินแล้ว คนไทยยังต้องแบกหนี้เพิ่มขึ้น จากคนละสองแสนกว่าบาท เป็นคนละห้าแสนกว่าบาท

4.กลไกทางเศรษฐกิจไม่ถูกปรับเปลี่ยน ยังคงกระจุกตัวอยู่กับกลุ่มทุนผูกขาดขนาดใหญ่เพียงไม่กี่รายที่การทำมาหากินเกี่ยวข้องกับรัฐบาล ที่มีรายได้และทรัพย์สินเพิ่มขึ้นตลอด 5 ปีที่ผ่านมา สวนทางกับคนส่วนใหญ่ที่เป็นคนตัวเล็กตัวน้อย สถิติความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน ที่สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก คือ ผลงานอัปยศที่ประจานการไร้ความสามารถในการบริหารของรัฐบาล ดังนั้นสถานการณ์ของเศรษฐกิจในวันนี้ไม่ใช่วิกฤติ แต่เป็นหายนะ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจรอช้าไม่ได้ จึงต้องแก้โดยมาตรการที่มีประสิทธิภาพ.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0