จากกรณีน้องเดียว นายหนังตะลุงชื่อดังของภาคใต้ ถูกคณะสงฆ์ จ.สงขลา สั่งแบนไม่ให้วัดต่างๆ ในจังหวัดรับหนังน้องเดียวไปเล่น โดยระบุว่ามีการพูดพาดพิงพระอย่างไม่เหมาะสม
ต่อมาคืนวันที่ 22 ต.ค. คณะหนังตะลุงน้องเดียว ลูกทุ่งวัฒนธรรม ได้เดินทางไปเล่นหนังตะลุงในวัดประดู่หอม ต.ป่าพะยอม อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง และจะร่วมเป็นเจ้าภาพในการทำบุญทอดกฐินในวันที่ 23 ต.ค.
ในช่วงการแสดง หนังน้องเดียวได้พูดถึงเรื่องที่สำนักงานพุทธศาสนาของ จ.สงขลา ออกมาคว่ำบาตรโดย ท้าทายพระสงฆ์ที่ออกมาต่อต้าน ให้ออกมานัดเจอกันในพื้นที่จังหวัดใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ จ.สงขลา จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง หรือ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อนัดแถลงข่าว
หนังน้องเดียวยังท้ากลุ่มพระสงฆ์ที่ต่อต้านตน ออกมาตั้งกล่องรับบริจาคแข่งกัน ฝ่ายไหนได้รับเงินบริจาคมากกว่าถือว่าชนะ ส่วนเงินทั้งหมดที่ได้จากการบริจาคก็จะนำไปทำบุญให้กับวัดทั้งหมด และหากทางพระแพ้ พระทั้งหมดที่ต่อต้านตนต้องสึกจากการเป็นพระ แต่หากตนแพ้ก็จะเลิกเล่นหนังตะลุงตลอดชีวิตเช่นกัน
พระครูปลัดพลกฤต กลฺยาณธมฺโม เจ้าคณะตำบลหาดใหญ่เขต1 และหัวหน้าพระวินยาธิการจ.สงขลา
วันที่ 23 ต.ค. คณะสงฆ์ได้ จ.สงขลา ได้ออกมาพูดถึงประเด็นความขัดแย้งและทางออกของเรื่องนี้ โดยพระครูปลัดพลกฤต กลฺยาณธมฺโม เจ้าคณะตำบลหาดใหญ่เขต1 และหัวหน้าพระวินยาธิการจ.สงขลา ออกมากล่าวว่า ในฐานะคณะสงฆ์ใน จ.สงขลา ขอบิณฑบาตสังคมให้ยุติความขัดแย้งเรื่องนี้ เพื่อรักษาทั้งพระและรักษาทั้งหนังน้องเดียวเอาไว้ เพราะกว่าที่จะเกิดพระเม็ดงามขึ้นสักรูปและนายหนังตะลุงที่เก่งในภาคใต้นั้นเป็นเรื่องยาก ที่สำคัญทั้งศิลปินและศาสนาก็เป็นเนื้อเดียวกันเรียกว่าจริยศาสตร์ที่นำเสนอเรื่องของคุณธรรมและพระพุทธศาสนาซึ่งต้องอยู่คู่กันไป
พระครูปลัดพลกฤต กลฺยาณธมฺโม เจ้าคณะตำบลหาดใหญ่เขต1 และหัวหน้าพระวินยาธิการจ.สงขลา
ส่วนเรื่องที่นายหนังน้องเดียวท้าให้เปิดกล่องรับบริจาคแข่งกับพระนั้นเรื่องนี้อย่ามาท้าทายกันเลยเพราะทั้งพระและนายหนังน้องเดียวเป็นบุคคลสาธารณะ แค่เจตนาก็ผิดแล้วญาติโยมไปใส่ให้ใครก็ยิ่งขัดแย้ง ทางที่ดีถ้าจะทำบุญก็ให้ทำทั้งสองฝ่ายแล้วเอามารวมกันจะดีที่สุด และขอบิณฑบาตให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี