สาววัย 34 ปี จอดรถลงไปคุยกับเพื่อนที่ขับตามมาอีกคันริมถนนอยู่ๆ รถพ่วงพุ่งมาชนขณะยืนอยู่ท้ายรถ ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์ร่วงใส่ร่างอัดติดท้ายเก๋งเสียชีวิต ด้านเจ้าของคอนเทนเนอร์ยันล็อกอย่างแน่นหนา และพร้อมรับผิดชอบอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.30 น. ของวันนี้ 24 มิ.ย.62 เกิดเหตุมีหญิงรายหนึ่ง ชื่อ น.ส รดีปัฐน์ ก้อนนาค อายุ 34 ปี ได้จอดรถลงมาคุยกับเพื่อนที่อยู่ในรถอีกคัน ริมถนนโรจนะขาออก เข้าตัวเมือง อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่โชคไม่ดีถูก รถพ่วงตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกปุ๋ย 22 ล้อ ที่หักหลบรถยนต์ที่ออกมาจากซอยอย่างแรงจนเสียหลัก แล้วทำให้ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต ร่วงใส่ท้ายรถยนต์ และทับเธอจนอัดก๊อปปี้อยู่ใต้ท้องรถเสียชีวิตคาที่ ก่อนที่จะถึงวันเกิดตัวเอง 1 วัน และยังมีรถที่จอดอยู่ใกล้กันได้รับความเสียหายนั้น
ล่าสุดทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้ลงพื้นที่ไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รังสิต และได้พูดคุยกับพี่ชายของผู้เสียชีวิต ชื่อ นายรามนริทธิ์ ก้อนนาค อายุ 37 ปี บอกว่าน้องสาวเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของบ้าน ประกอบอาชีพเล่นหุ้นและนำเงินมาจุนเจือครอบครัว
โดยนายนายรามนริทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า วันพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของน้องสาว ซึ่งวันเกิดทุกปีจะพาครอบครัวไปทำบุญ-ทานข้าวฉลองวันเกิด แต่ปีนี้น้องต้องมาเสียชีวิตเพราะความประมาท ทำให้ไม่มีงานฉลองอีกแล้ว วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ เนื่องจากมีอุบัติเหตุเกี่ยวกับตู้คอนเทนเนอร์ล้มทับเกิดการสูญเสียนับครั้งไม่ถ้วน แต่ยังไม่มีการแก้ไข อยากให้เคสน้องสาวตัวเองเป็นเคสสุดท้าย จนถึงตอนนี้ยังไม่มีบริษัทหรือคนขับติดต่อมาขอโทษหรือชดใช้ค่าเสียหายใดๆ วันนี้จะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัด ศาลาแดง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
นายรามนริทธิ์ ก้อนนาค พี่ชายผู้เสียชีวิต
ต่อมาทางผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปคุยกับเจ้าของร้านอาหารอีสานใกล้กับจุดเกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่าได้ยินเสียงดังสนั่นหลังเกิดเหตุจึงรีบออกมาดูเสร็จว่า ทีแรกไม่ทราบมีคนติดอยู่ระหว่างซากรถและตู้คอนเทนเนอร์ มีคนสังเกตเห็นขาของผู้เสียชีวิตจนช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้นำอุปกรณ์ตัดถ่างช่วยนำร่างออก
ด้านนายปัญญา กิจธัมมิ เจ้าของ บ.อภิชิต ทรานสปอร์ต ซึ่งเป็นเจ้าของรถบรรทุกและตู้คอนเทนเนอร์คันที่ก่อเหตุ บอกว่า คนขับได้หักหลบรถยนต์ที่ตัดหน้ากะทันหันจึงทำให้รถเสียหลักไถลไปชนร่างของผู้เสียชีวิต ยืนยันว่ามีการล็อกตัวตู้คอนเทนเนอร์กับฐานของตัวรถทั้ง 4 จุดอย่างแน่นหนา จึงทำให้ตัวรถไถลไปพร้อมตู้คอนเทนเนอร์ การสังเกตว่าล็อกหรือไม่ ให้ดูตัวรถ หากไม่มีการล็อกจะหล่นเพียงตู้คอนเทนเนอร์เท่านั้น ซึ่งทางบริษัทได้มีการกำชับพนักงานขับรถทุกคนว่าต้องทำการล็อกก่อนออกรถ หากถูกปรับพนักงานขับรถต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าปรับเอง
หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ขนส่งฯ ได้มาตรวจสอบพบว่าได้ทำการล็อกจริง สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เสียใจมาก คิดว่าถ้าเป็นลูกเป็นหลานจะทำยังไง อย่างไรก็ตามยินดีดูแลรับผิดชอบทุกอย่าง หลังเกิดเหตุที่ไม่ได้ติดต่อญาติไปเพราะติดธุระเรื่องนำตัวคนขับมาให้ปากคำ เย็นนี้จะรีบไปรดน้ำศพผู้เสียชีวิต
