คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3479 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 16-19 มิ.ย.2562 โดย… ว.เชิงดอย
เข็น 'บิ๊กตู่' นำทัพ พปชร. ลุยศึกเลือกตั้งครั้งหน้า
จู่ๆ ก็มีข่าว “เซอร์ไพรส์” ขึ้นมาว่า“บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 สมัย 2 จะก้าวขึ้นเป็น “หัวหน้า” พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แทน “อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นภายหลังการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือราวเดือนกรกฎาคม และมีข่าวด้วยว่า คนที่จะมาเป็นเลขาธิการพรรค จะมีการเสนอชื่อ “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 อดีตแกนนำ กปปส. และ “นายทุนพรรค” ทำหน้าที่แทน “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เลขาฯพรรค คนปัจจุบัน
ว่ากันว่า การเปลี่ยนแปลงภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่จะเกิดขึ้นมาจากสาเหตุ ต้องการเดินหน้าทางการเมืองระยะยาว ลบข้อครหาเสียงวิจารณ์ต่างๆ โดยเฉพาะข้อครหาเรื่องการเข้ามา “สืบทอดอำนาจ” ที่ผ่านๆ มา การลงพื้นที่หาเสียงของ “บิ๊กตู่” ก็ทำได้ไม่เต็มที่นัก ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบัน ปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ เกิดการแบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะจาก “กลุ่มสามมิตร” ที่รวมตัวก่อหวอดเคลื่อนไหวต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะไม่พอใจที่มีการยกเก้าอี้รมต.กระทรวงเกรดเอ ไปให้พรรคร่วมรัฐบาล จน พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลงมาเคลียร์ปัญหาเอง และไม่แน่ว่าปัญหาจะจบลงตลอดไปหรือไม่
ดังนั้น เพื่อไม่ให้เป็นปัญหากระทบต่อการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะเวลาโหวตเรื่องสำคัญๆ ในสภา จะได้ไม่เกิดประเด็นปัญหา พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค และควบคุมพรรคทั้งหมด ซึ่งการเข้ามาเป็นผู้นำพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์ ครั้งนี้ ได้รับการผลักดันและสนับสนุนจากพี่ใหญ่ “บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนั่นเอง
อีกเหตุผลหนึ่ง ที่มองได้ว่า ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ ถึงต้องเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค อาจเกิดจากการที่ “รัฐบาลประยุทธ์ 2” เป็น “รัฐบาลเสียงปริ่มนํ้า” ที่มีเสียงสนับสนุนรัฐบาลรวมกันอยู่แค่ 254 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของสภา มาแค่ 4 เสียง เวลาโหวตกฎหมาย สำคัญๆ หรือโหวตลงคะแนนในกรณีถูก “ซักฟอก” ถือว่าสุ่มเสี่ยงมากที่จะไม่ได้รับการรับรองให้ผ่านกฎหมาย หรือลงมติ “ไว้วางใจ” ทำให้โอกาสที่จะเกิด “แอ็กซิเดนต์ทางการเมือง” จนนำไปสู่การ “ยุบสภา” เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ มีโอกาสเป็นได้สูง (ประเมินกันว่ารัฐบาลอาจอยู่ได้ไม่ถึงปี) ดังนั้น หากเกิดการเลือกตั้งเร็ว ครั้งหน้า พล.อ.ประยุทธ์ ก็สามารถ “นำทัพ” ลุยสู้ศึกเลือกตั้งได้อย่างเต็มสูบ โดยไม่ต้องมาทำเป็น “เหนียมอาย” หรือ “เลี่ยงบาลี” อย่างที่เกิดขึ้นกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา…
ไม่รู้ว่ายังอยู่ในวงโคจรที่จะได้นั่งเป็นเสนาบดีกระทรวงพลังงานอยู่หรือไม่ สำหรับ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” แกนนำกลุ่มสามมิตร ในพรรคพลังประชารัฐ ถ้าหากมีชื่อเข้ามาเป็นรัฐมนตรีกับเขาด้วยครั้งนี้คงจะ “เสียผู้เสียคน” น่าดู เพราะ “เจ้าตัว” เคยพูดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล สปริงนิวส์ ช่อง 19 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9สิงหาคม 2561เวลา 07.30-09.30 น. ดำเนินรายการโดย “ดนัย เอกมหาสวัสดิ์” และ “อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์” ถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศว่า “คำพูดเป็นนาย จำคำพูด ผมไว้นะ เก็บเทปไว้เลย ผมจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาล” … อ่า ยังจำได้มั้ย จำได้หรือเปล่า? แล้วเรามาคอยดูกัน…
ตั้งแต่เดือนธันวาคม-มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (สมศ.) ได้จัดโครงการส่งเสริมสถานศึกษาและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับกรอบแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกประจำปีงบประมาณ 2562 ให้กับสถานศึกษาปฐมวัย (ศูนย์พัฒนาเด็ก) 8,345 แห่ง และหน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลจำนวน 3,130 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับบุคลากรของศูนย์พัฒนาเด็ก โดยเป้าหมายสำคัญของการประเมินคุณภาพภายนอกรอบ 4 คือ ต้องการให้สถานศึกษานำผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนาสถานศึกษาให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการประเมินเชิงคุณภาพ ที่เน้นข้อมูลเชิงประจักษ์ ลดภาระด้านเอกสารโดยใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นการสะท้อนผลลัพธ์การดำเนินงานของสถานศึกษา โดยผู้ประเมินภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญ… ที่สำคัญในการประเมินคุณภาพภายนอกรอบ 4 สมศ.จะเน้นการลงพื้นที่เพื่อดูการปฏิบัติงานจริง เน้นร่องรอยหลักฐาน มุ่งเน้นให้ผู้ประเมินเป็น Expert Judgment คือการตัดสินใจอย่างผู้เชี่ยวชาญ ที่รวมถึงการสัมภาษณ์ การสังเกต การสุ่มดูข้อมูล การวิเคราะห์ SAR การรายงานผลด้วยวาจา แต่ไม่ได้มุ่งเน้นด้านเอกสาร… ขอให้รับทราบกันตามนี้
ปิดท้ายที่ ผศ.ดร.ปิยะชาติ ภิรมย์สวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้อํานวยการ ด้านวิชาการ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แจ้งว่า ด้วยคณะนิสิต สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ฯ ได้กําหนดจัดสัมมนาวิชาการหัวข้อ Finding Ways to create Successful and Sustainable Digital Content ในวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคมนี้ เวลา 13.00-16.00 ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 9 อาคารศศปาฐศาลา จุฬาฯ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าร่วม รวมถึงสร้างองค์ความรู้เพื่อพัฒนาการสร้างเนื้อหาบนสื่อออนไลน์ ให้โดดเด่นและยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อหาเกี่ยวข้องกับอาหารและการท่องเที่ยว มี อธิวัฒน์ พงษ์พานิช, กุลธิดา กันต์พิทยา และ ภูมิ นวสิทธิโสภณ เป็นวิทยากร ผู้ที่สนใจเข้าร่วม ไม่มีค่าใช้จ่าย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ที่ คุณศันสนีย์ โทร 0-2218-4028
