โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ฮาวทูยุบ! อดีตผู้สมัคร "อนาคตใหม่" แฉ "เธอ" ทำสิ้นพรรค ฉะสู้กับ คสช. แตไม่ป้องกันตัว

Manager Online

เผยแพร่ 11 ธ.ค. 2562 เวลา 21.53 น. • MGR Online

อดีตผู้สมัคร ส.ส.อนาคตใหม่ เผยระส่ำ “วันสิ้นพรรค” กรณีเงินกู้ 191 ล้าน ไม่ส่งเอกสารการเงินให้ กกต. สาขาต่างจังหวัดเตรียมตกงานนับพัน เปรียบสู้กับ คสช. แตไม่ป้องกันตัวเอง แฉ "เธอ" รองอันดับหนึ่ง-นิสัยผู้หญิง ไม่สุงสิงใคร ไม่พอใจใครก็เงียบ เวลามีปัญหาปกป้องทุจริตพรรคพวกตัวเองตลอด แถมยุ่งไปทุกเรื่องแม้แต่เอกสาร

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. นายชาญวิทย์ ใจสว่าง อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chanwit Jaisawang ในหัวข้อ “ลาก่อนอนาคตใหม่” ระบุว่า

"ระส่ำไปทั้งพรรค หลัง “วันสิ้นพรรค” กำลังจะเกิดขึ้น หวาดระแวงลงไปตามตามกัน ทั่วถึงสาขาต่างจังหวัดเตรียมตัวว่างงาน เพราะเหตุ “ยุบพรรค” จากเรื่องเงินกู้ 191 ล้าน และ เงินบริจาค ที่ตกแต่งบัญชี อำพรางผู้ให้และผู้รับ ธรรมดา พูดกันเยอะ พรรคไม่รอด ขนาดหุ้นสื่อ ยังออกเทาๆ บ้าง ในมุมนักกฎหมายบางคน

แต่พอนักกฎหมาย ผู้ไม่เคยออกนอกห้องบรรยาย สู่โลกความจริงแห่งการนำกฎหมายไปใช้ ประกาศยอมแพ้ไม่ส่งเอกสารการเงินให้ กกต. เท่านั้น หมดพรรคก็ว่าได้ พูดกันเสียงเดียว “หายนะ” แล้วอนาคตใหม่ หลักๆ คือ

1. แกนนำพรรค กรรมการบริหาร ผู้บริจาคเงิน ติดคุก

2. แกนนำพรรค กรรมการบริหาร หมดสิทธิลงการเมืองยาว

3. ส.ส. ที่เหลือ ต้องทิ้งพรรค หาพรรคใหม่

4. เจ้าหน้าที่พรรค ผู้ช่วย ส.ส. ตกงาน เกือบพัน

การไม่ส่งเอกสาร เป็นวิธีที่ดีที่สุด ทั้งนี้ในทางบัญชี จะสัมพันธ์กับกฎหมาย ทุกอักษร ทุกตัวเลข ที่ใส่ลงไปคือสิ่งที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด เท่ากับยิ่งมากความ เติมแต่งแก้ไข อธิบาย ยิ่งพันคนเพิ่มขึ้นได้ โทษฐานความผิดอาจถูกขยายกว้างขึ้นอีก ผิดเท่าที่มีอยู่ก่อน ก็หนักพอแล้ว

คุกไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ ดั่งที่ ธนาธร (จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่) บอกการทำการเมือง ที่มีแนวร่วมต้องโทษโดนคดี คือความเจ็บปวดทั้งนั้น

ความสำเร็จที่น่าภูมิใจ คือถึงเป้าหมาย โดยไม่มีการสูญเสียใครสักคน สู้กับ คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) แต่ไม่ป้องกันตัวเอง เหมือนไปแข่งกีฬาต่างประเทศ สิ่งที่ต้องระวัง คือ เจ้าภาพจ้องจับผิดเรื่องกฎกติกา มารยาท มาก เพราะการผิดแม้นครั้งเดียวคือการแพ้โดยไม่ต้องแข่งให้จบเกมส์ก็ได้

กับ คสช. คล้ายกัน รู้กันทุกพรรค กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ คนของใคร เขาอาจโน้มเอียงได้ จึงต้องระวัง ซึ่งถ้าทำเรื่องหุ้นสื่อให้เสร็จก่อนหน้านานๆ คดีก็ไม่เกิด ส่วนการระดมทุน วิธีแบบปลอดภัยไม่ผิดกฎหมายมีมาก แต่นักกฎหมายคนเก่ง เขาคนเหนือคน นิสัยไม่ชอบฟังใคร ความสูญเสียจึงเกิดขึ้นเพราะคนของคุณไม่ระวังกันเอง ไม่จำเป็นต้องจ้องจับผิด คุณผิดด้วยการกระทำของคุณเอง

การวิจารณ์อนาคตใหม่ ไม่ใช่ว่าผมชื่นชอบและไปนิยม “ประยุทธ์” (จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี)

ประยุทธ์ ไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศ เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมอย่างดี แต่อนาคตใหม่ ไม่ใช่ “ม้าขาว” ที่จะมาแทนประยุทธ์

ระบบการบริหารจัดการในพรรค ผมเห็นว่าเป็น “ระบบเผด็จการ ห่อหุ้มด้วยระบบอุปถัมภ์” มีการสร้างระบบประชาธิปไตยข้างนอกกับข้างในคนละอย่าง คนละชุดกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะฝากประชาธิปไตยไว้กับพรรคเผด็จการซ่อนรูป

ผู้ที่มีอำนาจเหนือสุด สร้างชนชั้นแฝงแบ่งแยกคน คือตำแหน่งรองอันดับหนึ่ง เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด คนนี้มี “นิสัยผู้หญิง” ใครเขาก็รู้

เธอ รับบทบาทประสานคนหมู่มาก แต่ไม่คบคน ไม่ “สุงสิง” กับใคร ไม่คิดให้เบอร์และ Line ใครไว้ติดต่อทำงาน ไม่โทรหาผู้สมัครที่ไหน ทั้งพรรค ส.ส. ผู้ช่วย อดีต ส.ส. ทราบดี ธนาธร วางบทบาทเช่นเดียวกับเธอ ที่ไม่ให้ใครเข้าถึง ยกเว้นชนชั้นของเขา

เธอ เป็นคนไม่พอใจคนง่าย ไม่ชอบใคร ชักสีหน้า แล้วไม่พูดกับคน คนนั้นอีก เธอรู้หรือไม่ กระแสพรรคตกต่ำลงเรื่อยๆ เพราะเธอมีส่วนเป็นอย่างมาก พรรคแตกคนออก ความขัดแย้งลุกลามเกิดขึ้นไปทั่ว คอรัปชันโกงกินเงินสนับสนุน เธอแทรกแซงป้องกันคนของชนชั้นตลอด

วันนี้พรรคล่มเพราะงานเอกสารที่คนทำไม่เป็น ไม่ควรยุ่ง ไม่โทษเธอแล้วโทษใคร เมื่อยุ่งไปทุกเรื่อง

ความจริง ถ้าปลดเธอได้ตั้งแต่แรกๆ การถูกเสนอให้ยุบพรรค ตัดสิทธิ์ ติดคุกก็ไม่มี แต่ช้าไปแล้ว วันนี้ถ้าผมขอความเมตตาจากศาลได้ ผมขอให้มีโทษสูงสุดคือปรับอย่างเดียว อย่างอื่นให้ยกให้หมด ผมไม่อยากเห็นคนเล่นการเมืองต้องคดีอีก"

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ต.ค. นายชาญวิทย์ เคยออกมาวิจารณ์กรณีที่พรรคอนาคตใหม่ไม่เห็นค่าผู้สมัครที่แพ้การเลือกตั้ง มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายระหว่างกลุ่มเพื่อนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคมีอำนาจ เหนือ ส.ส. และสมาชิกพรรคทั้งหมด โต้แย้งและเสนอแนะอะไรไม่ได้ รวมทั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่เป็นคนใกล้ชิดและสนิทกับกลุ่มเพื่อนนายธนาธร และนายปิยบุตร ส่วน ส.ส. เขตพบว่ามีสิทธิมีเสียงไม่ได้ ผู้ที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง 320 เขต ไปเป็นผู้ช่วย ส.ส. ไม่กี่คน

อีกทั้งสื่อสารกันในพรรคบอกให้ทุกคนทราบว่า ทุกคะแนนที่ได้ เป็นเพราะคนศรัทธานายธนาธร ไม่ใช่ความสามารถของผู้สมัคร จึงอย่ามาต่อรอง เลือกตั้งแล้วก็ขาดกัน จึงมองว่าพรรคไม่มีคุณธรรม ธรรมาภิบาล แต่กลับกลุ่มชนชั้นบนในพรรค ที่ทำงานในกรุงเทพฯ อีกทั้งคนที่เข้ามารู้ไม่จริง ไม่มีตัวแทนจากพื้นที่เข้าไปร่วมทำงานด้วย และวิเคราะห์ไปเรื่อยโดยไม่รู้จักระบบราชการของไทยอย่างแท้จริง เหมือนแค่ดูนักศึกษารายงานหน้าห้องเก็บคะแนน นำไปใช้ปฎิบัติไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาโกงเงินสนับสนุนพรรคตามสาขาต่างๆ อีกด้วย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0