จากกรณี การเสียชีวิตของ ม.ร.ว.เจริญศรี กมลาศน์ หรือ หม่อมแดง วัย 89 ปี ด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 62 ที่บ้านพักภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 42 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เบื้องต้นมีผู้โพสต์เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ออกมาโพสต์ข้อความตามหาญาติของผู้ตาย หลังจากในพิธีสวดพระอภิธรรมไม่มีญาติเดินทางมาร่วมงาน จนกระทั่งล่าสุด ญาติผู้เสียชีวิตเดินทางมาแสดงตัวแล้วนั้น
วันที่ 22 ก.ค. 62 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ บ้านของ ม.ร.ว.เจริญศรี มีกลุ่มคนสวมเสื้อขาวดำ 5-6 คน ญาติของนางปิยนุช ผู้ดูแล ม.ร.ว.เจริญศรี โดยมีการขนของจำพวกถ้วยชามช้อน อาหารส่วนหนึ่งออกจากบ้าน โดยมีหญิงรายหนึ่ง อ้างว่าเป็นหลานและน้องชายของนางปิยนุช
ซึ่งในระหว่างที่ครอบครัวนางปิยนุชกำลังขนของออกจากบ้าน น้องชายของนางปิยนุช บอกว่า ครอบครัวของตัวเองในฐานะคนดูแลหม่อมแดง ยืนยันว่า หม่อมแดงไม่มีญาติ เพราะหม่อมแดงพูดไว้ว่า “กูไม่มีญาติ” ส่วนวันนี้ที่นางปิยนุชไม่เดินทางมาด้วย เพราะอยู่ระหว่างการพักผ่อน ส่วนเหตุผลที่นางปิยนุชพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้ตายไว้ เพราะเป็นสัญญาใจ ที่หม่อมแดงอนุญาต คนในครอบครัวก็รับรู้เป็นพยาน
ส่วนเรื่องของทรัพย์สินที่บ้านหม่อมแดง ก็ไม่มีที่อื่น นอกจากที่ปลูกบ้านหลังปัจจุบันอยู่ แม้กระทั่งตรงเสาชิงช้าก็ไม่ใช่ของหม่อมแดง แต่เป็นนางของปิยนุช
ขณะที่ อาสากู้ภัย ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุ ตนไปที่บ้านของ ม.ร.ว.เจริญศรี โดยเสียชีวิตมาแล้วหลายชั่วโมง คนในบ้านยืนยันว่าเสียชีวิตจากโรคชรา และไม่จำเป็นต้องให้กู้ภัยรับร่างส่งต่อโรงพยาบาล ซึ่งในฐานะอาสากู้ภัย จึงได้แนะนำให้คนในบ้าน ไปแจ้งความต่อตำรวจ ก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายร่าง หลังจากนั้น นางปิยนุชให้กู้ภัยและญาติทั้งหมดออกจากบ้าน พร้อมกับล็อกประตูด้านนอก และเดินทางไปที่โรงพักสน.คลองตัน เพื่อแจ้งความต่อตำรวจ นางปิยนุชยืนยันว่าไม่ติดใจการตาย และนำเอกสารประสานกับรถหีบศพเคลื่อนย้ายร่างไปที่วัด
นอกจากนี้ ลักษณะการตาย ม.ร.ว.เจริญศรี อยู่ในท่านั่ง และขั้นตอนการดำเนินการก็ถูกเร่งรัด นางปิยนุชอ้างว่าหม่อมไม่มีญาติ อยากดำเนินการให้จบตามขั้นตอน
ด้าน นางสาวเฟื่องฟ้า (นามสมมติ) อายุ 45 ปี เพื่อนบ้านของ ม.ร.ว.เจริญศรี บุคคลที่หม่อมแดงติดต่อให้ช่วยเหลือเกี่ยวกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ให้ข้อมูลว่า จากที่ตนเองรู้จักกับหม่อมแดงตั้งแต่อายุ 5 ขวบ กระทั่งอายุถึง 45 ปี เห็นการเปลี่ยนแปลง และการถือครองสมบัติของหม่อมแดง ประกอบด้วย
ร้านขายหนังสือ บริเวณข้างที่ว่าการกรุงเทพมหานคร ใกล้กับเสาชิงช้า โดยว่าจ้างให้นางปิยนุชเป็นคนดูแล เนื่องจากหม่อมแดงสุขภาพไม่ค่อยดี จากนั้นได้ถูกถ่ายโอนเป็นชื่อของนางปิยนุช เป็นผู้ครอบครอง, ที่ดินมูลค่า 50,000,000 บาท พร้อมบ้านเก่า 50 ปี บนเนื้อที่ 140 ตารางวา บ้านที่อยู่ปัจจุบันของหม่อมแดง ปรากฏชื่อครอบครองเป็นของหม่อมแดง, ที่ดินในจังหวัดชลบุรี จำนวน 6 ไร่ ชื่อผู้ครอบครองเป็นของหม่อมแดง ขายไปเมื่อปี 2560 ขายได้เงินมูลค่า 4,800,000 บาท ซึ่งหลังจากขายที่ดินดังกล่าว เงินสดถูกจัดเก็บโดยนางปิยนุช, เงินฝากในธนาคารออมสิน และเงิน-ทองในตู้เซฟภายในบ้าน รวมมูลค่าหลายล้านบาท เป็นทรัพย์สินที่หม่อมแดงสะสมเก็บออมตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ในการขายหนังสือพิมพ์ และที่ดิน อาคารอะพาร์ตเมนต์ ย่านบางลำภู กรุงเทพมหานคร รวมมูลค่าอีกหลักล้านบาท ปรากฏชื่อครอบครองเป็นของหม่อมแดง ซึ่งจากการตีราคามูลค่าสมบัติทั้งหมด อาจสูงถึง 100 ล้านบาท
นางสาวเฟื่องฟ้า เปิดใจว่า ตนเองในฐานะคนสนิทของหม่อมแดง ไม่สามารถที่จะเข้าถึงตัวของป้าหม่อมได้ มักถูกกีดกัน แม้กระทั่งญาติ ก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวของหม่อมแดงได้ ตลอดช่วงที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่หม่อมพยายามแอบโทรศัพท์มาหาตน บอกให้นำรถตู้ไปรับ เพื่อหนีออกมา และไปทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่สำเร็จ หม่อมเคยพูดว่า “หากวันหนึ่งเสียชีวิตแล้ว ไม่มีญาติพี่น้องเข้ามาติดต่อ อยากจะให้ติดต่อสำนักพระราชวัง เพื่อยกทรัพย์สินทั้งหมดตกเป็นของแผ่นดิน”
https://youtu.be/XP6elVI4S7k
