อารักขาเข้มศาลตลิ่งชัน สกัดสำเร็จ "ชิงตัวจำเลย"

ศาลอาญาตลิ่งชันตัดไฟแต่ต้นลม ขอกำลังตำรวจ บก.น.7 อาวุธครบมืออารักขาศาล จัดกำลังเฝ้าระวังขั้นสูงสุดในพื้นที่โดยรอบ หลังรับมีการข่าวเตรียมชิงตัว 3 จำเลยเดินทางมาสืบพยานโจทก์ ในคดีร่วมกับอดีต ผกก.สภ.บ้านโป่ง อุ้มฆ่า ฝังดินอำพรางศพสาวทอม ประกอบกับเคยมีเหตุอดีตตำรวจพยายามลอบส่งปืนให้ผู้ต้องหาในคดีนี้มาแล้วครั้งที่ จ.กาญจนบุรี แต่ไม่สำเร็จ

ที่ศาลอาญาตลิ่งชัน เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการศาลยุติธรรมนำกำลังตำรวจศาล พร้อมอาวุธครบมือเดินทางไปตรวจดูความเรียบร้อยบริเวณอาคารศาล ห้องควบคุม และถนนทางผ่านศาล บรรยากาศเป็นไปอย่างเคร่งเครียดมี พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 พ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก. สน.ตลิ่งชัน นำกำลังตำรวจตั้งด่านสกัดเรียกตรวจยานพาหนะทุกคันที่วิ่งผ่านในลักษณะการรักษาความปลอดภัยในศาลขั้นสูง ท่ามกลางความแตกตื่นของผู้ที่เดินทางมาศาลและประชาชนทั่วไป

นายสราวุธเปิดเผยถึงสาเหตุที่มาดูความ เรียบร้อยในครั้งนี้ว่า รับทราบจากอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาตลิ่งชัน มีรายงานจาก ผอ.สำนักอำนวยการศาลอาญาตลิ่งชัน มีการข่าวกลุ่มคนร้ายพร้อมอาวุธร้ายแรงพยายามก่อเหตุชิงตัวจำเลย 3 คนที่เดินทางมาสืบพยานโจทก์ เป็นจำเลยชุดสองที่ถูกตำรวจจับกุม ในคดีร่วมกันอุ้มสาวทอมจากย่านพุทธมณฑล ไปฆ่านำศพฝังดินอำพรางความผิดที่ จ.กาญจนบุรี มีอดีต ผกก.สภ.บ้านโป่ง เป็น 1 ในผู้ร่วมก่อเหตุถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกไปแล้ว 15 ปี โดยศาลนัดสืบพยานโจทก์ที่ห้องพิจารณา 302 หลังทราบเรื่องจึงสนธิกำลังตำรวจศาลเดินทางไปศาลอาญาตลิ่งชันทันที พร้อมประสานไปยัง บก.น.7 และสน.ตลิ่งชัน นำกำลังกว่า 70 นายมาอารักขาศาล พร้อมพูดคุยกับผู้บริหารศาลอาญาตลิ่งชัน ถึงการวางแผนเชิงรุกเพื่อรับสถานการณ์ พบว่าอยู่ในระดับมั่นคงปลอดภัยสูงสุด เชื่อว่าวันนี้คนร้ายที่จะลงมือกระทำผิดเห็นกำลังตำรวจวางกำลังเข้มรอบศาล คงไม่กล้าก่อเหตุ

“ประกอบกับก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 31 ม.ค.62 ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้รับข่าวจะมีคนร้ายที่เป็นอดีตตำรวจส่งปืนให้จำเลย 3 คนนี้ที่ศาล เพื่อใช้ก่อเหตุหลบหนีแต่ผู้ก่อเหตุถูกจับได้ ดำเนินคดีฐานละเมิดอำนาจศาลไปแล้ว ดังนั้น เมื่อจำเลย 3 คนนี้ถูกส่งตัวมาสืบพยานที่ กทม. จึงต้องป้องกันการก่อเหตุร้ายอีก นี่คือการร่วมกันทำงานของศาล ตำรวจ ราชทัณฑ์เพื่อระงับเหตุร้าย และในเร็วๆนี้จะมีการ จัดกำลังตำรวจศาลให้ครบ 1,100 คน ที่จะต้องอารักขาศาลทั้งหมด 280 แห่งทั่วประเทศ และผู้พิพากษาที่มีอยู่กว่า 5 พันคน เพื่อให้ศาลมีความมั่นคงปลอดภัย” นายสราวุธกล่าว

ขณะที่ พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในศาลอาญาตลิ่งชันครั้งนี้ว่า หลังรับการประสานจากศาล จะมี กลุ่มจำเลยคดีอุ้มฆ่า น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง อายุ 28 ปี สาวทอมรูปหล่อ ชาว จ.สระแก้ว ถูกเบิกตัวจากเรือนจำ มารับฟังการไต่สวนที่ศาล และอาจมีการชิงตัวจำเลย จึงสั่งการเตรียมกำลังจากโรงพักต่างๆในความรับผิดชอบของ บก.น.7 ประมาณ 70 นาย พร้อมอาวุธครบมือ มาตั้งกองอำนวยการรักษาความปลอดภัยให้พื้นที่รอบศาล ให้ พ.ต.อ.ภาสกร สถิตยุทธการ รอง ผบก.น.7 เป็นผู้รับผิดชอบ จัดกำลังพลตรวจตราและตั้งด่านก่อนถึงพื้นที่ศาล มาตรการดังกล่าวถือเป็นมาตรการการป้องกันเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้าย หลังจากนี้หากได้รับการประสานจากทางศาลมีผู้ต้องขังหรือผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ หรือกลุ่มผู้ต้องขังที่มีอิทธิพลเดินทางมาที่ศาล ก็จะตั้งกองอำนวยการร่วมของตำรวจในลักษณะนี้อีก ขอให้ประชาชนอย่าตระหนกตกใจเนื่องจากเป็นการเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัย

สำหรับคดีการฆ่าโหดสาวทอมแล้วนำศพอำพรางฝังดินคดีนี้ ศาลจังหวัดตลิ่งชัน (ในขณะนั้น) มีคำพิพากษาจำคุก พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ อดีต ผกก.สภ.บ้านโป่ง 15 ปี และจำคุกนายสนอง สมสิทธิ์ กำนัน ต.ลาดบัวขาว ใน จ.ราชบุรี 10 ปี และข้อหาจ้างวานใช้คนร้ายอีก 2 คน และยกฟ้องนักร้องสาว 1 คน ส่วนจำเลยอีก 2 คน ศาลลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ให้ชดใช้เงิน 2.79 ล้านบาท ต่อมาตำรวจขยายผลจับกุมจำเลยอีก 3 คนในคดีนี้ ก่อนฟ้องต่อศาลอาญาตลิ่งชันหรือศาลจังหวัดตลิ่งชันเดิม โดยอัยการขอสืบพยานโจทก์ 60 ปาก 22 นัด จำเลยขอสืบ 6 นัด ขณะนี้สืบพยานโจทก์ไป 4 นัด เกือบ 20 ปากและยังต้องสืบพยานอีกครั้งวันที่ 26 และ 28 ก.พ.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

• ศาลยุติธรรม ส่งคอร์ทมาแชล-ตร.คุมเข้มศาลอาญาตลิ่งชัน หวั่นชิงตัวผู้ต้องหา
• เลขาฯศาล ยันเหตุอุ้มพี่ชายผู้พิพากษาร้ายแรง กระทบอิสระในการพิจารณาคดี
• ฝ่ายค้านโนโหวต ถกงบรอบสอง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath