เอะอะก็บอกว่ากินอาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนักแล้วดีอย่างนั้นอย่างนี้ เรียกได้ว่าอาหารคลีนฮ็อทในหมู่สาว ๆ ที่ต้องการลดน้ำหนักติดต่อกันมาหลายปีแล้วที่เดียว ร้านค้าขายอาหารคลีนก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียด้วยสิ แต่คำว่าอาหารคลีนที่กิน ๆ กัน และถ่ายรูปเก๋ ๆ ลงโซเชียลนั้น แน่ใจแล้วหรือว่าคลีนจริง
กฎเหล็กของการกินคลีน และกินคลีนอย่างไรให้ได้ผลอย่างยั่งยืน
1. ต้องครบ 5 หมู่
เรื่องง่าย ๆ ที่หลายคนมองข้าม เพราะต้องเริ่มต้นจากการเข้าใจก่อนว่าคนกินคลีนไม่ได้หมายความว่าอดอาหาร แถมไม่ได้หมายความว่าต้องกินน้อยลง แถมกินเยอะได้อีกด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามต้องกินให้สารอาหารครบ 5 หมู่ เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายให้มากที่สุด
2. อาหารคลีน เน้นความสะอาดตามชื่อเรียก
เป็นอีกกฎสำคัญที่ต้องปักหมุดไว้ อาหารคลีนก็ต้องคลีนสมชื่อ ความคลีนที่ว่าคือการปราศจากสารเคมีหรือสารปรุงแต่งต่าง ๆ ให้มากที่สุด เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารมากที่สุด ดังนั้นการเลือกร้านอาหารที่ปรุงอาหารคลีนให้เรากินจึงต้องพิจารณาให้ดี หรือหากเป็นไปได้การทำอาหารคลีนกินเองยิ่งเริ่ดที่สุด
3.เครื่องปรุงยิ่งน้อยยิ่งดี
นอกจากความสะอาดแล้ว การลดเครื่องปรุง หรือสารปรุงแต่งต่าง ๆ ในอาหาร คือใจความสำคัญของการกินคลีน เพราะบรรดาเครื่องปรุงทั้งหลายที่ใส่ลงไป ล้วนส่งผลต่อร่างกายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โดยเฉพาะใครที่กำลังลดหรือควบคุมน้ำหนัก ความหวานและความเค็มมีผลต่อน้ำหนักตัว และอาการบวมของร่างกายอย่างมาก
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องกินแต่อาหารจืดเท่านั้น เพราะมีเครื่องปรุงอีกมากมายที่ไม่สร้างอันตรายต่อร่างกายเรา อาทิ การใช้เกลือแทนน้ำปลา หรือเลือกน้ำปลา ซอสปรุงรสที่ลดปริมาณโซเดียม เป็นต้น ส่วนน้ำปลาพริกที่หลายคนติดนั้น ต้องพักไปยาว ๆ
4. บอกผ่านอาหารแปรรูป
อย่างที่บอกว่าอาหารคลีนที่ดี ต้องมีความสดใหม่ ปราศจากสารเคมีต่าง ๆ ให้น้อยที่สุด ดังนั้นอาหารแปรรูปหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นลูกชิ้น ไส้กรอก ผักดอง รวมทั้งบรรดาอาหารกระป๋องทั้งหลาย เป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ก็เลี่ยงไป หรือถ้าอดใจไม่ไหวก็ตาใจตัวเองบ้างแต่นาน ๆ ครั้งที่อยากตามใจปากก็พอ
เพราะอาหารที่ยิ่งผ่านการแปรรูป ก็ทำให้ร่างกายยิ่งต้องใช้เวลาในกระบวนการย่อยและดูดซึมที่ยาวนานกว่า กลายเป็นการสะสมสารอาหารที่ไม่ดีในร่างกาย
5. อาหารคลีน ไม่จำเป็นต้องงดแป้ง
หลายคนเข้าใจว่ากินคลีนคือ ไม่กินแป้ง ความจริงก็คือร่างกายยังคงต้องการคาร์โบไฮเดรตจากแป้ง แต่เลือกที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ที่มาจากวัตถุดิบที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสี หรือกระบวนการแปรรูปต่าง ๆ เช่น ข้าวกล้อง หรือ ขนมปังโฮลวีท นอกจากจะทำให้ร่างกายมีพลังงานแล้ว ยังช่วยเพิ่มไฟเบอร์เพื่อสมดุลระบบขับถ่ายอีกด้วย
6. *เลือกกินไขมันที่ดี *
ไขมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และอย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่าร่างกายยังต้องการสารอาหารครบ 5 หมู่ แต่เราต้องเลือกไขมันที่มีประโยชน์จากร่างกาย หรือไขมันดี (HDL) หรือคอเลสเตอรอลที่ดีต่อต่างกาย พบมากในไขมันไม่อิ่มตัว โดยเฉพาะน้ำมันจากพืช เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วลิสงเป็นต้น นอกจากนี้ ไขมันจากเนื้อสัตว์ประเภทปลาทะเลก็จัดเป็นไขมันดี เช่นกัน
7. บอกลาไขมันเลว (ไขมันอิ่มตัว)
ไขมันเลว (LDL) หรือไขมันอิ่มตัวทั้งหลายพบมากในไขมันจากสัตว์ ที่สะสมอยู่ในเนื้อขาวของสัตว์ หรือที่เรารู้จักกันในนามมันหมู หนังไก่ อะไรทั้งหลายเหล่านี้ รวมทั้งลดการใช้น้ำมันจากสัตว์ เพราะไขมันเหล่านี้จะไปเกาะตามอวัยวะภายในร่างกาย นอกจากทำให้อ้วนแล้วยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย
8. ไม่ต้องลดหวาน แต่เลือกความหวานจากธรรมชาติ
ร่างกายยังคงต้องการน้ำตาลในกระบวนการต่าง ๆ แต่เลือกน้ำตาลที่มาจากธรรมชาติผ่านกระบวนการเปลี่ยนแปลงให้น้อยที่สุด เช่น น้ำตาลจากผลไม้ต่าง ๆ หรือน้ำตาลที่ไม่ขัดสี เช่น น้ำตาลทรายแดงเป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ก็ควรที่จะกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะน้ำตาลที่มากเกินไป ร่างกายจะเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมอยู่ดี
9. เพิ่มไฟเบอร์ให้เยอะ
สำหรับใครที่ชอบเขี่ยผักทิ้ง หันหน้าหนีให้ผลไม้ ควรปรับพฤติกรรมมากินผักและผลไม้มากขึ้น และยังคงคอนเซ็ปต์เดิมว่าเน้นไปที่ของสด ไม่ผ่านการปรุงแต่งได้เท่าไหร่ยิ่งดี เพื่อประโยชน์ส่งตรงต่อร่างกายให้มากที่สุด
10. กินคลีนคือการดูแลเรื่องสารอาหาร
จำไว้เสมอว่าการกินคลีนคือการสร้างสมดุลเรื่องการกิน เป็นการบอกรักตัวเองที่ดีที่สุด การกินคลีนไม่จำเป็นต้องมาจากร้านแพง ๆ ร้านฮิต ๆ แต่กลับมาจาก การเลือกวัตถุดิบเน้นความสดใหม่ มีประโยชน์ต่อร่างกาย ผ่านขั้นตอนการแปรรูปให้น้อยที่สุด ลดปริมาณเครื่องปรุงให้น้อย บางครั้งความอร่อยที่คุ้นชินอาจน้อยลง แต่ความคลีนที่มาพร้อมประโยชน์กลับเพิ่มขึ้น เราสามารถกินคลีนได้ตลอด ไม่ใช่เฉพาะเวลาที่อยากลดน้ำหนักเท่านั้น เพราะความจริงแล้วน้ำหนักที่ลดลงคือผลพลอยได้มากกว่า แต่สุขภาพที่ดีขึ้นต่างหากคือผลลัพธ์ของการกินคลีน
