ออสเตรเลียกำลังแย่! ไฟป่าลาม 3 รัฐ รวมกันกว่า 4 ล้านเอเคอร์ เจ้าหน้าที่เตือน “ซิดนีย์” สภาพอากาศ “อันตราย”
สถานการณ์ไฟป่าลุกลามอย่างรุนแรงในประเทศออสเตรเลียตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุด “เดอะออสเตรเลียน” รายงานว่า วันนี้ (6 ธ.ค.62) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย ประกาศความคืบหน้าว่า ขณะนี้เจ้าหน้าสามารถดับไฟได้แล้วราว 140 จุด แต่ยังเหลืออีกกว่า 100 จุดที่ไฟป่ายังรุนแรงเกินกว่าที่จะเข้าไปดับไฟได้ทันที
โดยรายงานจากหน่วยงานไฟป่าฉุกเฉินในนครซิดนีย์ เปิดเผยว่า สภาพอากาศในวันนี้ของนครซิดนีย์กำลังเข้าสู่ขั้นวิกฤตอีกครั้ง โดยดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่ “เป็นอันตราย” ต่อสุขภาพ พร้อมแนะนำประชาชนในบางจุดที่เริ่มอพยพออกจากบ้านเรือน เนื่องจากควันไฟป่ากำลังเข้าปกคลุมพื้นที่อีกครั้ง
“คุณภาพอากาศในนครซิดนีย์ย่ำแย่กว่า ปักกิ่ง หรือเม็กซิโกซิตี้ ซึ่งขึ้นชื่อในด้านสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยควันพิษ” เจ้าหน้าที่รายหนึ่งกล่าว
รายงานระบุว่า มีหลายพื้นที่ในออสเตรเลีย เช่น รัฐนิวเซาท์เวลส์, ควีนแลนด์ และนครซิดนีย์ ที่พื้นที่ป่าเต็มไปด้วยไฟที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง เป็นวงกว้างรวมกันถึง 4 ล้านเอเคอร์ มากกว่า 5.2 เท่าตัวของเกาะโรดไอแลนด์ หรือ 92 เท่าของวอชิงตันดีซีของสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ สำนักอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลีย ได้ออกคำเตือนให้ประชาชนสวมหน้ากากออกบ้านทุกครั้ง รวมไปถึงงดทำกิจกรรมภายนอกอาคาร ขณะที่เปิดเผยว่า โรงพยาบาลใน 3 รัฐหลักๆ ที่ได้รับผลกระทบมีจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาอาการป่วยทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นอีก 10% เทียบกับในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา
พร้อมย้ำเตือนว่า ในนครซิดนีย์ที่มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 5 ล้านคน จะได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยไฟป่าในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่ที่มีการบันทึกข้อมูลมา
