สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯยังไม่จบ!
หลังจากที่จีนเพิ่มการเก็บภาษีจากสหรัฐ 5-10% ทำให้สินค้าสหรัฐกว่า 5,000 รายการ หรือ คิดเป็นมูลค่ากว่า 7.5 หมื่นล้านเหรียญได้รับผลกระทบโดยตรง นอกจากนั้นจีนมีแผนที่จะกลับมาเก็บภาษีรถยนต์จากสหรัฐที่ 25% ทำให้ในวันเดียวกัน (23 ส.ค.)ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทนไม่ไหว ออกโรงทวีตข้อความตอบโต้ทันทีโดยระบุว่า
….Sadly, past Administrations have allowed China to get so far ahead of Fair and Balanced Trade that it has become a great burden to the American Taxpayer. As President, I can no longer allow this to happen! In the spirit of achieving Fair Trade, we must Balance this very….
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) August 23, 2019
…Additionally, the remaining 300 BILLION DOLLARS of goods and products from China, that was being taxed from September 1st at 10%, will now be taxed at 15%. Thank you for your attention to this matter!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) August 23, 2019
“จะตอบโต้มาตรการภาษีของจีนในช่วงบ่ายนี้”
นอกจากนั้นเขายังระบุว่าสหรัฐฯไม่ต้องพึ่งพาจีน และสหรัฐฯจะไปไกลมากถ้าไม่มีจีน โดยเขาได้สั่งการให้บริษัทสัญชาติสหรัฐฯมองหาตัวเลือกอื่นแทนจีน
ซึ่งในช่วงบ่าย ทรัมป์ก็มาตามนัด ออกโรงประกาศทวีตว่าจะเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีน จากเดิม 25% เป็น 30% ส่งผลต่อสินค้าจากจีนที่มีมูลค่ากว่า 2 แสน 5 หมื่นล้านเหรียญ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562
เรื่องนี้เองทำให้เมื่อวานนี้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงกว่า 620 จุด (2.4%) รวมถึง FTSE 100 ของอังกฤษ และ DAX ของเยอรมนีก็ดิ่งลงเช่นกัน
For all of the Fake News Reporters that don’t have a clue as to what the law is relative to Presidential powers, China, etc., try looking at the Emergency Economic Powers Act of 1977. Case closed!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) August 24, 2019
ล่าสุดวันนี้ทรัมป์ได้ออกมาทวีตตอบโต้นักข่าวที่มองว่าเขาใช้อำนาจตามอำเภอใจว่า “สำหรับ นักข่าว Fake News ที่ไม่รู้กฎหมายเกี่ยวกับการใช้อำนาจของประธานาธิบดีต่อประเทศอื่น ๆ (อย่างเช่นจีน) จงไปศึกษากฎหมาย Emergency Economic Powers Act ปี 1977 (กฎหมายฉุกเฉินที่มอบอำนาจให้ประธานาธิบดีมีสิทธ์ในการออกคำสั่งเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของชาติ) ให้ดี
เรื่องมันก็มีแค่นี้ ไม่ต้องพูดอะไรต่อแล้ว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส
แชร์โพสนี้
