สร้างเซอร์ไพรส์ไม่น้อย เมื่อนักแสดงสาว เฌอเบลล์ – ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์ เปิดมิติใหม่ด้วยการทำเซอร์ไพรส์ขอแฟนหนุ่ม พีท - ศักดิ์เดช พูลสวัสดิ์ กลางสวนสนุกชื่อดงัที่ประเทศญี่ปุ่น โดยล่าสุดทั้งคู่ควงกันมาเปิดใจถึงโมเมนต์สำคัญที่เกิดขึ้น
เจ๋งโคตร! “เฌอเบลล์” คุกเข่าขอแฟนหนุ่มแต่งงาน
“เฌอเบลล์” เปิดตัว “พีท ศักดิ์เดช” สถานะแฟน
เฌอเบลล์ : เรียกว่าเป็นการขอแต่งงานผู้ชาย เราคุยกันไว้อยู่แล้ว เป็นเหมือนสัญญาณบอกเขาว่าเราพร้อมจะแต่งแล้ว
พีท : จริงๆผมมีแพลนจะขอเขาแต่งงานอยู่แล้ว แต่เขามาขอผมก่อน ผมแพ้แล้ว ศึกนี้ผมแพ้แล้ว (ยิ้ม)
เฌอเบลล์ : ศึกนี้ฉันต้องชนะเท่านั้น ชิงคุกเข่าก่อนเลย (หัวเราะ) เราอยากทำให้เขาด้วย เพราะเรารู้สึกว่าเขาก็ทำให้เรามีความสุข ทำไมเราจะทำให้เขามีความสุขบ้างไม่ได้ ถ้านี่มันก็ทำให้คนมีความสุขมากเหมือนกัน จริงๆมันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เราอยากให้เป็นที่ๆเรามีช่วงเวลาดีๆด้วยกันทั้งวัน
พีท : ผมเชื่อว่าเขาตื่นเต้นมากกว่าผมอีก ตอนที่เขาเปิดแหวนออกมาคือเขาไม่พูดอะไรเลย แหวนจากปกติที่ตั้งและตัวเพชรชี้ขึ้นใช่ไหมครับ แต่นี่เพชรชี้มาที่หน้าผม (ยิ้ม)
เฌอเบลล์ : เปิดผิดฝั่งค่ะ คือเราตื่นเต้นมาก มันเกิดขึ้นไวมาก คือตื่นเต้นที่สุดในชีวิตแล้วแหละ เล่นรถไฟเหาะไม่มีตื่นเต้นเลยนะ ตรงนี้แหละคือจีดพีค ใจเต้น กลัวไปหมด กลัวระหว่างที่เราหยิบแหวนเขาจะหันมา พอเปิดแหวนแล้วแหวนผิดฝั่ง เราช็อกเลยว่าแหวนอยู่ไหน (หัวเราะ)
พีท : เราก็อึ้งเลย แล้วถามว่าขอพี่แต่งงานเหรอ เขาก็อื้อ ผมก็เซย์เยสไป แล้วเราก็ถ่ายรูปกัน สุดท้ายผมก็ให้เขาคุกเข่าแล้วถ่ายรูป (หัวเราะ) ความรู้สึกตอนนั้นคือผมไม่คิดเลยว่าเขาจะทำ ผมบอกไปเพราะว่าผมต้องการที่จะให้เซอร์ไพรส์ เพราะการขอแต่งงานเป็นโมเมนต์หนึ่งในชีวิต ซึ่งผมไม่ได้อยากทำเหมือนคนอื่นตรงที่ว่าคุยกันก่อนว่าจะแต่งงาน มีฤกษ์แต่งแล้วค่อยคุกเข่าแต่งงาน
เฌอเบลล์ : ใจลึกๆก็กลัวว่าเขาตอบว่าโนหรือเปล่า ตอนมองหน้าเขาก็ลุ้นว่าจะตอบว่าอะไร (หัวเราะ) สำหรับงานแต่งคือปีนี้ยังไม่เกิดขึ้นแน่นอนค่ะ เพราะเฌอติดละครด้วย ติดเรื่องธุรกิจหลอดที่เพิ่งทำด้วยค่ะ
ประทับใจอะไรในตัว *“พีท” *
เฌอเบลล์ : หลายๆอย่างที่เขาทำตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้คือ ความชัดเจน เขาไม่เคยมีเล่ห์อะไรเลย และเป็นคนที่เสมต้นเสมอปลาย เขาเทคแคร์ดูแลใส่ใจดี คือปกติจะมีมากๆในตอนต้นและจะน้อยๆลงตอนหลังใช่ไหมคะ แต่ของเขาเนี่ยตอนหลังยิ่งพีคขึ้นในทุกเรื่อง เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นทุกอย่างในชีวิต ด้วยความที่เรามีนิสัยแนวเดียวกันคือไม่ชอบการโกหก ไม่ชอบเรื่องนอกใจ เราไม่ต้องห่วงกันเรื่องนี้ เพราะเราเป็นในเวย์เดียวกัน มันไม่มีอะไรที่จะให้ต้องห่วง ต่างคนต่างที่ว่าเวลาทำงานก็คือทำงานจริงๆ ไม่จับโทรศัพท์แล้วเราเข้าใจกัน คือเรามาถึงจุดที่ผู้หญิงและผู้ชายเท่าเทียมกัน เขาเองก็ให้ความเท่าเทียมกับเราด้วย ในหลายๆอย่างเขาให้สิทธิเราในการตัดสินใจ เหมือนให้เราทำหน้าที่ผู้หญิงในการเป็นผู้นำด้วย ซึ่งเราก็รู้สึกว่าดี และเราก็ทำธุรกิจด้วยกันเขาก็สอนเราว่า ถ้าเขาไม่ว่างเราต้องเป็นคนที่จัดการแทนเขา เราก็ต้องเรียนรู้ เรารู้สึกดีตรงที่ว่าเขาไม่ได้ทำให้เราสบาย แต่เขาให้สิ่งที่ดีที่สุดคือการเรียนรู้ธุรกิจในอีกแง่หนึ่ง ซึ่งมันดีต่อตัวเราด้วย (ยิ้ม)
พีท : ผมเชื่อในความรักที่ว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่มีช่วงโปรโมชั่นมันเป็นเหมือนสินค้าที่มีขายได้กับขายไม่ได้ นั่นคือความสุของเราที่จะมีมากหรือมีน้อย แต่ผมตอนที่จีบหรือตอนที่คุยกับเขาผมเป็นตัวของผมในอย่างที่ผมคิดว่าผมจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ กินข้าวธรรมดาข้างถนน ใช้ชีวิตที่ว่าเราเป็นแบบนี้ยันแก่แหละ นี่คืออุดมคติของผม ไม่จำเป็นต้องมีเงินเยอะเพื่อที่จะให้ตัวเองมีความสุขเสมอไป เหมือนกันที่ไม่ต้องแสดงความรักกันมาก แต่รักกันให้มากๆ ให้เกียรติกัน แค่นี้ผมคิดว่าเราก็จะรักกันไปได้ตลอด สำหรับจุดมุ่งหมายที่เรามีเหมือนกัน สิ่งที่เราคุย ปรับความเข้าใจ แล้วเราสองคนดีอยู่อย่างนึงคือผมเข้ากับเพื่อนเขาได้ เขาเข้ากับเพื่อนผมได้ นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา (ยิ้ม)
ขอบคุณ ONE บันเทิง