จากกรณี ร.ต.อ.นพดล ไม้งาม รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุ มีคนกินยาฆ่าตัวตายแล้วรมควันเสียชีวิตหลายราย ที่เต็นท์รถยนต์มือสองกัณตภณ ออโต้ หมู่ 1 ต.จอมทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ภายในห้องนอนบนบ้าน พบศพผู้เสียชีวิต 5 ราย ประกอบด้วยนายกัณตภณ แป้นวงศ์ หรือ เฮียตี๋ อายุ 40 ปี, นางสุนิสา แป้นวงศ์ อายุ 60 ปี แม่, น.ส.สุธิพร แป้นวงศ์ อายุ 45 ปี พี่สาว, นางยอดขวัญ แป้นวงศ์ อายุ 41 ปี ภรรยา และเด็กชายรชฏ อายุ 13 ปี ลูกชาย พร้อมสุนัขอีก 6 ตัวนั้น
จากข้อมูลที่ทีมข่าวได้รับ พบว่ามีผู้ที่ร่วมลงทุนกับเฮียตี๋จำนวนมาก ได้แก่ นายอภิชาติ 8 ล้านบาท, นายคณิศร 1.5 ล้านบาท, นายวชิรวิทย์ 1.12 ล้านบาท, นางกิ่งกว่า 5.1 ล้านบาท ซึ่งมีหลานและอาม่าที่ร่วมด้วย 3.6 ล้านบาท และนายนนท์ 1.25 ล้านบาท รวมมากกว่า 20 ล้านบาท
วันที่ 24 ก.พ. 63 นายทองดี (นามสมมติ) พ่อของนายนนท์ (นามสมมติ) เพื่อนของเฮียตี๋ ผู้ที่ลงทุนกว่า 1,250,000 บาท เล่าว่า ช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ ลูกชายและผู้ที่ร่วมลงทุนกับเฮียตี๋ประมาณ 10 คน มาหารือกัน ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบรายละเอียด แต่ที่ตนเองรู้คือถูกโกงแน่นอน ตนเองรู้สึกสงสารลูกชายมากที่เสียเงิน 1,250,000 บาท ทุกวันนี้ตนก็กลัวลูกชายจะคิดสั้น เพราะเขาต้องดูแลครอบครัว ต้องส่งลูกเรียน เขาคือเสาหลักของครอบครัวคนเดียว
สาเหตุที่ทำให้ลูกชายกล้าลงทุนหลักล้าน เพราะเขาคบกับเพื่อนมานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่เฮียตี๋ยังไม่มีเต็นท์รถยนต์ มีเพียงเขียงหมู ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เมื่อเฮียตี๋เขาเดือดร้อนเรื่องเงิน ก็เคยมายืมครอบครัวตนเองครั้งละหลักหมื่นถึงหลักแสน และเขาก็คืนเงินตรงเวลามาตลอด จึงทำให้ลูกชายของตนเองเชื่อใจมาก จึงลงทุนโดยไม่มีการเซ็นสัญญา และตนเองก็อยากได้เงินของลูกชายคืน เงินก้อนที่ลงทุนไป ก็เก็บมาจากน้ำพักน้ำแรงที่หามาทั้งชีวิต
ด้านนายสอง (นามสมมติ) พี่ชายของนางกิ่ง ผู้ลงทุนธรกิจกับเฮียตี๋ 5,167,200 บาท ซึ่งมีหลานและอาม่าที่ร่วมลงทุนด้วย 3,600,000 บาท เปิดเผยว่า ครอบครัวของตนเองส่วนใหญ่ไม่ได้เซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ตนก็ไม่ได้กังวลใจ เพราะทุกอย่างเสียไปแล้ว นั่งกลุ้มใจไปก็เท่านั้น และวันพรุ่งนี้มีงานเผาศพครอบครัวเฮียตี๋ ตนเองไม่ไปแน่นอน
ส่วนที่พ่อของเฮียตี๋กล่าวหาว่าบางครอบครัวทำธุรกิจสีเทา ตนคิดว่าเขาน่าจะหมายถึงครอบครัวตน แต่ขอปฏิเสธ เพราะบ้านตนทำอาชีพสุจริต หลังจากนี้ จะไม่ไปเจรจากับพ่อเฮียตี๋ พวกตนขอตั้งหลักรวบรวมหลักฐานดำเนินการทางกฎหมายดีกว่า
นอกจากนี้ เงินที่ครอบครัวของตนเองเสียไปกับการลงทุน ก็ไม่เดือดร้อนเท่าไร เพราะเป็นเงินเก็บ ครอบครัวยังอยู่ได้ แต่ตนเองสงสารครอบครัวที่เขาโดนหนัก บางคนหมดตัวแล้ว ซ้ำต้องเป็นหนี้อีก บางคนเหมือนตายทั้งเป็น สูญเสียไปไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องพิสูจน์ว่าเฮียตี๋เป็นคนฆ่าตัวตายหรือไม่ ตรวจหาลายนิ้วมือที่เตาถ่านที่ใช้รมควัน หากพบมีลายนิ้วมือเฮียตี๋ คนในครอบครัวที่เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา 100,000 บาท
https://youtu.be/63o3QeUcV1U