อย่างที่รู้กันว่า “หุ้นยั่งยืน” เป็นดัชนีซุปเปอร์สตาร์ที่ตลาดหุ้นโลกให้ความสำคัญมาก จะลงทุนอะไรปัจจัยเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล หรือ ESG ถูกหยิบมาพิจารณาเป็นลำดับต้นๆ มากกว่าผลกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนเสียอีก
สำหรับตลาดหุ้นไทยปัจจุบัน ก็มีดัชนีหุ้นยั่งยืนโดยเฉพาะ ในชื่อหุ้น “SETTHSI” ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2558 เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นด้าน ESG รวมถึงเป็นการสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียอย่างครอบคลุมทั้งด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีกระบวนการบริหารจัดการเพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่องค์กร เช่น การบริหารความเสี่ยง การจัดการห่วงโซ่อุปทาน และการพัฒนานวัตกรรม
โดยดัชนี SETTHSI จะพิจารณาทุกๆ 6 เดือน คือในเดือนมิถุนายนและธันวาคม ปัจจุบันมีหุ้นอยู่ทั้งหมด 53 ตัว หุ้นส่วนใหญ่ที่อยู่ในดัชนีนี้มักจะเป็นหุ้นกลุ่มพลังงาน ประกอบด้วย BANPU, BCP, BGRIM, BPP, EA, EASTW, EGCO, IRPC, PTG, PTT RAYCH, TOP, TTW
SETTHSI หุ้นของอนาคต
หุ้นกลุ่ม SETTHSI นอกจากจะเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืนทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและธุรกิจของบริษัทเองแล้ว ในอนาคตหุ้นกลุ่มนี้ยังมีโอกาสการลงทุน ที่เม็ดเงินพร้อมที่จะไหลเข้ามาอีกมาก
โดยก่อนหน้านี้บล.เอเซีย พลัสเคยประเมินว่า หากรัฐบาลรับข้อเสนอของสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ที่เสนอกองทุนหุ้นยั่งยืน (SEF) เป็นทางเลือกที่มาแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่กำลังจะหมดอายุนั้น ซึ่งหากรัฐบาลรับข้อเสนอและไฟเขียวให้มี SEF จะส่งผลกับหุ้นดัชนี SETTHSI ตามเงื่อนไขของการลงทุนในหุ้นยั่งยืน ซึ่งบล.เอเซีย พลัสประเมินว่า หุ้น 5 ตัวแรกที่จะต้องถูกเพิ่มน้ำหนักการลงทุนมากที่สุด ได้แก่ AOT PTT ADVANC SCC และ DIF
แต่ล่าสุดทางกระทรวงการคลัง ออกมาชี้แจ้งว่าเงื่อนไข SEF ยังไม่เหมาะสม ยังต้องรอข้อสรุปจากทางกระทรวงการคลังว่าจะหาอะไรมาแทน LTF พอเจอข่าวนี้เข้าไป แน่นอนว่ามีผลกระทบกับหุ้นยั่งยืนด้วยเช่นกัน แม้ว่าในไทยยังมีความชัดเจนไม่มากนักสำหรับเงื่อไขการลงทุนของ SEF แต่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนอย่าง SETTHIS ก็ยังมีโอกาสของการลงทุน เพราะกระแสทั่วโลกให้ความสนใจที่จะลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน เม็ดเงินของหุ้นในกลุ่มนี้เติบโตได้อีกมาก
อย่างไรก็ตามแม้ว่าหากเปรียบเทียบดัชนี SETTHSI ยังแพ้ผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ แต่พอกางรายชื่อหุ้นดูชัดๆ จะพบว่าหุ้นยั่งยืนส่วนใหญ่เป็นหุ้นบิ๊กแค็ปที่อยู่ใน SET50 และมี Performance ดี
โดย 5 เซ็คเตอร์ที่มีมากที่สุดในหุ้นยั่งยืน ประกอบด้วย กลุ่มพลังงาน ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ เทคโนโลยีสื่อสารและกลุ่มขนส่ง ซึ่งในหุ้นทั้ง 53 ตัว หุ้นที่ราคาบวกมากที่สุด ประกอบด้วย PTG BGRIM TASCO RATCH DTAC EGCO INTUCH ADVANC AOT และ TISCO ราคาหุ้นก็เคลื่อนไหวได้ดีและชนะหุ้นขนาดใหญ่หลายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์และเป็นโอกาสของการเข้าลงทุนในระยะยาวอีกด้วย
