ตำรวจราชบุรีนำตัว นายณัฐพล อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในคดีวิ่งราวทรัพย์ภายในร้านทองแยกต้นสำโรง เขตเทศบาลเมืองราชบุรี ได้สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ไปจำนวน 11 เส้น อ้างนำเงินไปใช้หนี้พนันออนไลน์
วันที่ 29 พฤษภาคม 2563 เวลา 14.20 น. พ.ต.อ.จุมพล สิกเสน ผกก.สภ.เมืองราชบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงษกร เหมราช รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้นำตัวนายณัฐพล ศรีวิลัย อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/11 ซ.หมู่บ้านทางรถไฟฝั่งตะวันตก ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายใน “ห้างทองจิราวรรณ (เยาวราช)” เลขที่ 48/9 เขตเทศบาลเมืองราชบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ โดยการแต่งกายสวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีขาว ดำ มีอักษรหมายเลข 3 ที่ด้านหลัง ใส่หมวกแก็ป สวมแมสลาย นุ่งกางเกงขายาว สวมรองเท้าแตะสีขาวพื้นดำ และสะพายกระเป๋าเป้ ใช้อาวุธปืนเข้าไปชิงทองเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 11 เส้น มูลค่า 2 กว่า 298,000 บาท และได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ฮ้อฮอนด้า pcx สีน้ำเงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไปเมื่อเวลา 13.40 น.ของวันที่ 24 พ.ค.63 ที่ผ่านมา
โดยพ.ต.อ.จุมพล สิกเสน ผกก.สภ.เมืองราชบุรี กล่าวว่า ในคดีนี้หลังจากคนร้ายก่อเหตุ ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในร้าน ซึ่งระบุพฤติกรรมไว้อย่างชัดเจนและ รูปพรรณใบหน้า รวมไปถึงภาพจากกล้องวงจรปิดตามลายทางที่ผู้ต้องหาหลบหนี ก่อนจะสืบทราบว่าผู้ต้องหาเป็นใคร เป็น โดยได้ประสานงานกับ พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยสืบสวนภาค 7 ตร.ทล.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันจับกุมตัว นายณัฐพล ศรีวิลัย คนร้ายตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ที่ จ.92/2563 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 ข้อหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด ซึ่งทราบว่านายณัฐพล เป็นคนพื้นเพ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะขับรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กม 6830 ราชบุรี เดินทางมาที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตั้งจุดสกัดบริเวณริมถนนเพชรเกษม หน้าสถานีตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ จนพบรถคันดังกล่าวขับผ่านมาจึงส่งสัญญาณให้จอดและพบนายณัฐพล เป็นผู้ขับขี่ ก่อนแสดงหมายจับให้ดู ซึ่งนายณัฐพล ได้ยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลคนเดียวกับบุคคลในหมายจับดังกล่าวจริงจึงนำตัวมาสอบสวน และพบสร้อยคอทองคำจำนวน 1 เส้น ตรงตามบัญชีของกลางที่คอผู้ต้องหา
โดยนายณัฐพล ให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุ ตนได้แต่งกายสวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีขาว ดำ มีอักษรหมายเลข 3 ที่ด้านหลัง ใส่หมวกแก็ป สวมแมสลาย นุ่งกางเกงขายาว สวมรองเท้าแตะสีขาวพื้นดำ และสะพายกระเป๋าเป้ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ฮ้อ PCX ไม่ติดแผ่นทะเบียน ก่อนใช้ปืนเข้าไปชิงทรัพย์ที่ร้านทองดังกล่าว โดยมาจอดที่บริเวณด้านหน้าร้านเสริมความงามที่อยู่ถัดจากร้านไปประมาณ 3 ห้อง หรือ 50 เมตร จากนั้นเดินเข้ามาภายในร้านทอง โดยที่ตนเองทำทีมาซื้อทอง ได้บอกกับพนักงานร้านทองว่าจะขอซื้อสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และให้พนักงานนำมาให้เลือกซึ่งวางในถาด และจะบอกว่าตนไม่ชอบลายพนักงาน และให้หยิบอีกลายมาให้เลือก พร้อมทั้งทำทีไม่ชอบเพื่อให้พนักงานนำมาหลายวางไว้หลายเส้น เพื่อสบโอกาสตนจึงได้ ควักปืนที่พกมา เป็นปืนสั้นบีบีกัน เมื่อพนักงานตกใจก้มหลบไปด้านร่างโต๊ะเคาน์เตอร์ทองซึ่งมีลูกกรงปิดล้อมรอบ ตนจึงได้คว้าร้อยคอทองคำทั้งหมดใส่กระเป๋าเป้ ที่สะพายมา และขับขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ มุ่งหน้าไปผ่านตลาดกำนันหลักและหลบไปทางบริเวณแยกนิสสันราชบุรี ถนนเพชรเกษมสายหลัก
ทั้งนี้นายณัฐพล รับสารภาพอีกว่า สาเหตุที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากติดหนี้เวปพนันออนไลน์ ชื่อบาคาร่า จำนวนสองแสนกว่าบาท จึงตัดสินใจที่จะเข้าไปชิงทองในร้าน โดยตระเวนไปดูตามร้านทองต่างๆ ส่วนที่มาก่อเหตุร้านนี้เพราะเห็นว่าไม่ได้เข้มงวดเรื่องของการแต่งกายที่สามารถใส่หมวกใส่เสื้อคลุม เข้าภายในร้านได้ และเมื่อขอดูทองก็หยิบมาให้ดูจำนวนมาก จึงได้ตัดสินใจเข้าไปก่อเหตุดังกล่าว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้นั้นก็เป็นปืนบีบีกัน ภายหลังก่อเหตุได้นำไปโยนทิ้งตามข้างทางที่ใช้หลบหนี ส่วนสร้อยคอทองคำได้มาทั้งหมด 11 เส้น และขายใช้หนี้ที่เจ้าหนี้ได้ยึดรถปิกอัพ 4 ประตู ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน กม-6830 ราชบุรี ไว้จนหมดแล้ว เหลือเพียงเส้นเดียวที่สวมไว้ที่คอของตนเอง ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นรถของภรรยา หลังก่อเหตุก็ได้นำรถจักรยานยนต์กลับไปไว้ที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี และขับรถปิกอัพกลับไปบ้านที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนจะไปถูกจับกุมดังกล่าว
