ชัยชนะในเกม “สกัดสภาฯล่ม” โดย “ฝ่ายรัฐบาล” ในการล้มญัตติการเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากประกาศ คำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช.ตามมาตรา 44 ลงไปเรียบร้อยแล้วด้วยมติ 244 เสียงต่อ 5 และงดออกสียง 6 เสียง เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.62 ที่ผ่านมานั้น ได้เกิดผลลัพธ์ขึ้นในหลายทาง
ทางหนึ่งคือการตอกย้ำว่า ฝ่ายรัฐบาล ไม่ได้มี “ตัวเล่น” เพียงเฉพาะเสียงในพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น
ทางหนึ่ง กำลังสะท้อนว่า เมื่อ “3ป.” ทั้ง “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ออกโรง ออกแอคชั่น “ส่งสัญญาณแรง” ทั้งในที่ประชุมครม.และก่อนวันนัดมีตติ้ง “แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล” ที่สโมสรราชพฤกษ์ ล้วนแล้วแต่เป็น “เสียง”ที่มีอิทธิพล อยู่ไม่น้อย
และทางสุดท้าย นั่นคือการชี้ให้เห็นว่า “7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน” มีความเปราะบาง เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว คงไม่เกิด “งูเห่า” ด้วยกันถึง “10 เสียง” ในการอยู่แสดงตนเพื่อให้องค์ประชุมในการประชุมสภาฯ ครบ เป็นการช่วยรัฐบาล
หมายความว่า แท้จริงแล้ว งูเห่าจากพรรคฝ่ายค้าน อาจจะมี “มากกว่า” ที่ตาเห็น เมื่อวันที่ต้องมีการโหวตลงมติ ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในราวต้นปีหน้า 2563
แต่ในขณะเดียวกัน ปัญหาที่ยัง “แก้ไม่ตก” กลับกลายเป็น “ศึกใน” ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ปะทุและลุกลามบานปลายมาถึงรัฐบาล แถมยังมีทีท่าว่า งานนี้ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค จะต้องแบกรับ “แรงกดดัน” ทั้งในและนอกพรรคในคราวเดียวกัน !
ยิ่งล่าสุดเมื่อ“เทพไท เสนพงศ์” ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัว กรณีโหวตสวนมติพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยการลงมติเห็นด้วยให้ตั้งคณะกรรมาธิการฯศึกษาคำสั่งคสช.และการใช้ม.44 ว่า
“73 ปีที่มีให้ไว้กับประชาชน อุดมการณ์ของพรรค สำคัญที่สุดสำหรับคนเป็นสมาชิกพรรค
*ผมได้ลงมติเห็นด้วยกับญัตติการตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบของ ม.44 ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ 1.เป็นญัตติของพรรค ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมพรรค และมีอดีต รมต. 7 คนลงชื่อเป็นเจ้าของญัตติเอง 2.ได้อภิปรายสนับสนุนญัตตินี้ในสภาอย่างชัดเจน 3.เป็นญัตติที่ตรงกับอุดมการณ์ของพรรคที่ประกาศมา 73 ปีแล้ว
*
ผมขอยืนยันในจุดยืนเดิม 1ใน5เสียง คือเสียงของผมเองครับ”
เช่นเดียวกับ “พนิต วิกิตเศรษฐ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็น 1 ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่โหวตสนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ฯโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Panich Vikitsreth ยืนยันว่า
“กฎหมายต้องได้รับการตรวจสอบโดยผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง และได้ยืนยันการสนับสนุนการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ตามญัตติที่เพื่อนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เสนอ เพราะต้องการทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรเพื่อทบทวนแก้ไขคำสั่งและประกาศของคสช. ที่มีฐานะเป็นกฎหมายให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชนตามแนวทางประชาธิปไตย”
อย่าลืมว่าทั้งพนิตและเทพไท ต่างไม่ได้ขึ้นตรงกับขั้วอำนาจของสายจุรินทร์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน หากแต่อยู่ในสายของอภิสิทธิ์ อดีตหัวหน้าพรรค ดังนั้นปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ใช่จะแก้ไข คลี่คลายลงได้ง่ายดาย สำหรับจุรินทร์ หากแต่ พล.อ.ประยุทธ์ และ บิ๊กป้อม ดูเหมือนว่าจะมี “แผนรับมือ” เอาไว้เพื่อสวนกลับ “ฝ่ายแค้น” ในพรรคประชาธิปัตย์ เรียบร้อยแล้ว !
