สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ว่านายจอร์จ จ้าว รองประธานฝ่ายการผลิตสมาร์ทโฟนตระกูล "ออเนอร์" ( Honor ) ของหัวเว่ย กล่าวในตอนหนึ่งระหว่างการแถลงเปิดตัว "ออเนอร์ พี20 โปร" ( Honor P20 Pro ) ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นเป้าหมายกลุ่มวัยรุ่นและคนหนุ่มสาว ที่กรุงลอนดอน เมืองหลวงของสหราชอาณาจักร เมื่อวันอังคาร ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับหัวเว่ย และไม่ว่าบริษัทต้องเผชิญกับ "ความท้าทาย" ในรูปแบบใดก็ตาม ทุกภาคส่วนในหัวเว่ยจะร่วมมือกัน และสามารถฝ่าฝันอุปสรรคนั้นไปได้ในที่สุด พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่า ออเนอร์ พี20 โปรรองรับระบบปกิบัติการแอนดรอยด์ "ได้ตามปกติ" เนื่องจากหัวเว่ยและกูเกิ้ลลงนามร่วมกันในการพัฒนาระบบของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ "ก่อนเกิดข้อพิพาท"
#Huawei launches Honor 20 series in #London pic.twitter.com/PbEaplHNfB
— CGTN (@CGTNOfficial) May 21, 2019
นายจอร์จ จ้าว บนเวทีเปิดตัว "ออเนอร์ พี20 โปร" ( Honor P20 Pro ) ที่กรุงลอนดอน
ในวันเดียวกัน นายอับราฮัม หลิว ผู้แทนของหัวเว่ยประจำภาคพื้นยุโรป กล่าวที่กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม ว่าบริษัทกำลังตกเป็นเหยื่อของ "การข่มเหงทางการค้า" นอกจากนี้ หัวเว่ยเชื่อว่ากูเกิ้ลไม่เคยมีความประสงค์จะระงับความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัท หากปราศจาก "ปัจจัยภายนอก" แต่เป็นเพราะแรงกดดันที่ส่งต่อเป็นทอดจากรัฐบาลวอชิงตันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
#Huawei CEO: 90-day license bears little meaning, Huawei is ready #ChinaUS
more:https://t.co/3W8pQuNV1j pic.twitter.com/DGPTQ3LbAE
— CGTN (@CGTNOfficial) May 22, 2019
*นายอับราฮัม หลิว ผู้แทนของหัวเว่ยประจำภาคพื้นยุโรป *
ขณะที่รายงานโดยบริษัทวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม "ไอดีซี" ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ระบุว่ามาตรการกดดันของรัฐบาลวอชิงตันน่าจะส่งผลกระทบต่อหัวเว่ยในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่อง "ความเป็นชาตินิยม" และผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด หากมาตรการกดดันหัวเว่ยยิ่งยืดเยื้อ คือบริษัทแอปเปิ้ลของสหรัฐเอง ทั้งนี้ หัวเว่ยส่งออกสมาร์ทโฟนสู่ตลาดโลก 206 ล้านเครื่องเมื่อปีที่แล้ว จากจำนวนดังกล่าว 105 เครื่องจำหน่ายในจีน คิดเป็น 26.4% ของตลาดในประเทศ แต่ส่วนแบ่งตลาดของแอปเปิ้ลในจีนอยู่ที่เพียง 9.1% เมื่อปีที่แล้ว และยิ่งลดลงอีกเมื่อสิ้นสุดไตรมาสแรกของปีนี้ เหลือเพียง 7% สวนทางกับส่วนแบ่งในตลาดของหัวเว่ยในช่วงเวลาเดียวกันซึ่งเพิ่มขึ้นอีก 3%.
เครดิตภาพ : AP,REUTERS
