ประเด็นโควิด-19 ลามไปถึงอาคารรัฐสภา ทั้งที่บรรดา“ผู้ทรงเกียรติ” อยู่นิ่งๆ เงียบๆ เก็บตัวในพื้นที่ ทำพื้นที่ช่วงการเมืองพักรบ
จู่ๆ“สิระ เจนจาคะ” ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ก็ออกมาเรียกร้องให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ออกคำสั่ง “ตัดเงินเดือน” ข้าราชการการเมืองทั้งหมด เพื่อนำเงินไปใช้แก้ปัญหาโควิด-19
“ถึงเวลาแล้วที่ข้าราชการการเมืองทั้งหมดควรเสียสละเพื่อบ้านเมืองและประชาชน ด้วยการไม่รับเงินเดือนไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย คิดว่าเงินจำนวนมากขนาดนี้ถ้าส่วนหนึ่งสามารถนำไปจ่ายเป็นค่าทำงานพิเศษให้กับเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ จะเป็นประโยชน์มากกว่า จากจำนวน ส.ส. และ ส.ว. 750 คน คิดกลมๆเฉลี่ยที่คนละ 120,000 บาท หากไม่รับ เงินเดือน จะได้เงินประมาณเดือนละ 90 ล้านบาท ยังไม่รวมเงินเดือนบรรดาที่ปรึกษา-ผู้ช่วยรัฐมนตรี อบจ. อบต. และส่วนอื่นอีกมาก หากตัดเงินเดือนข้าราชการการเมืองทั้งหมด จะมีเงินไปใช้ช่วยเหลือประชาชนหลายพันล้านบาท”
สิ้นเสียงของ“สิระ” บรรดา “นักเลือกตั้ง” ต่างพร้อมใจกัน นิ่ง – สงบ สยบความเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงกันทั้งฝ่ายรัฐบาล – ฝ่ายค้าน มีแค่ 1-2 ราย เท่าที่ออกมาระบุว่าการ “หักเงิน” สมทบทุนช่วยโควิด-19 เป็นเรื่องความสมัครใจ
รายแรก“ราเมศ รัตนะเชวง” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า “เห็นด้วย” แต่ควรเป็นไปตาม “ความสมัครใจ” “เพราะ ส.ส. ของพรรคหลายคนนั้นได้สละเงินเดือนนำไปช่วยเหลือพี่น้องประชนในพื้นที่ของตัวเอง และมีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือในแต่ละเขตอยู่แล้ว”
ด้าน “ศาสตรา ศรีปาน” ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า เห็นด้วยที่วันนี้ผู้แทนราษฎร ซึ่งมาจากประชาชน จะต้องออกมาช่วยประชาชน ถ้าสละได้ก็เชื่อว่าจะช่วยได้เยอะ แต่ส่วนตัว อยากให้เป็นเรื่องความสมัครใจ และสามารถช่วยไม่ทางใดก็ทางหนึ่งก็ได้ ทั้งนี้ส่วนตัว ได้ประกาศไปแล้วว่าจะไม่ขอรับเงินเดือนจนกว่าโควิด-19 จะหมดไปจากประเทศไทย
ในส่วนของ ประธานชวน “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะทำงาน ได้บริจาค 100,000 บาท ให้แก่ ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ เพื่อซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ไปก่อนหน้านี้แล้ว
ไม่ต้องรอให้มีการออกกฎ “หักคอ” บริจาค ทว่า ในสภาสูง “พรเพชร วิชิตชลชัย” ประธานวุฒิสภา ใช้มาตรการเด็ด ขอความร่วมมือวุฒิสภา 250 คน บริจาคช่วยโควิด – 19 ขีดเส้นขั้นต่ำ รายละ 5 หมื่น
“จากสถานการณ์เชื้อไวรัส c๐vid-19 แพร่ระบาดไปทั่วประเทศขณะนี้ วุฒิสภาควรมีบทบาทและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ดังกล่าวจึงมีความเห็นร่วมกันว่า สมาชิกวุฒิสภาทุกคนควรมีบทบาทร่วมกันในนามของวุฒิสภา เพื่อที่จะหาทางช่วยกันคลี่คลายและแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ดังกล่าวของประเทศ โดยได้ขอความร่วมมือจากส.ว.ทุกคน ร่วมกันบริจาคเงินชั้นต่ำ จำนวนคนละ 50,000 บาท เพื่อเป็นกองทุนบรรเทาทุกข์ของประชาชนในนามของวุฒิสภา โดยจะหักเงินบริจาคจำนวนดังกล่าวจากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง โดยเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 นี้”
จนมีข่าวว่า “ส.ว.” เสียงแตกในการขอความร่วมมือหัก 5 หมื่น“กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ” หนึ่งใน ส.ว.ที่ไม่ขัดข้องที่จะบริจาค แต่ก็ใช่ว่าจะเห็นด้วยทั้ง 100% กล่าวว่า รัฐมนตรี ฝ่ายบริหารได้มาชี้แจงแล้ว่ามีงบประมาณช่วย ส.ว. เราหารือกับประธานวุฒิว่าจะมีส่วนร่วมอย่างไรได้บ้าง มีการหารือกัน แต่ไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วยที่เอาเงินไปช่วยเหลือโควิด – 19 เพราะตนมีโอกาสเยี่ยมเยียน นายกฯ อบต. เจ้าหน้าที่ที่ตั้งด่าน เราเป็นกองทัพสนับสนุน แต่ถ้าหากจะเอาเงินเดือนในสภา 3 เดือน 200 ล้านบาท เอาไปทำอะไรได้ เพราะความเสียหายโควิดเป็นล้านล้าน ดังนั้น อย่าเอามันส์ ขณะนี้ประเทศเรากำลังต้องการความสามัคคี
“ท่านเอาเงินเดือน ส.ว. ไปช่วยโควิด – 19 น้ำหยดลงในทะเลทราย ส.ว.มีวินัย มีดำริมาแล้วหักเงินพวกเรา พวกเราจบ เบื้องต้นที่ ส.ว.น้อมรับ ให้บริจาคตามสะดวกตั้งแต่ 5 หมื่นขึ้นไป อย่างผมยากจนก็จะบริจาค 5 หมื่น ส่วนจะเดือน สองเดือน สามเดือนไม่ขัดข้อง”
ส่วนฝ่ายที่เห็นด้วยแบบ “เทใจ” อย่าง ส.ว. “เสรี สุวรรณภานนท์” ที่กล่าวว่า เห็นด้วยที่ ส.ว. ต้องสละเงินเดือน ในสภาวะเช่นนี้ การช่วยเหลือกันเป็นสิ่งอันสมควร ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อยามมีปัญหารวมถึงขณะเกิดโรคระบาด ส.ว. ต่างก็ทำงานและดูแลช่วยเหลือประชาชน มอบหน้ากากอนามัย มอบสิ่งของและมอบเงินช่วยเหลือสังคมกันมาตลอด
“เพียงแต่เป็นข่าวบ้างไม่เป็นข่าวบ้าง ผมเองและมีเพื่อน ส.ว. อีกหลายคนก็เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ ส.ว. ควรต้องสละเงินเดือนเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการซื้อเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือให้รัฐบาลนำเงินไปใช้จ่ายในการต่อสู้กับโรคระบาด หรือช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนต่อไป”
เมื่อเปิดเงินเดือน เงินเดือนและค่าตอบแทนของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พบว่า ประธานวุฒิสภามีเงินเดือน 74,420 บาท เงินเพิ่มเดือนละ 45,500 บาท รวม 119,920 บาทรองประธานวุฒิสภา มีเงินเดือน 73,240 บาท เงินเพิ่มเดือนละ 42,500 บาท รวม 115,740 บาทสมาชิกวุฒิสภา มีเงินเดือน 71,230 บาท เงินเพิ่ม 42,330บาท รวม113,560 บาทขณะที่ฝั่ง ส.ส. ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีเงินเดือน 75,590 บาท เงินเพิ่ม 50,000บาท รวม 125,590บาท รองประธานสภาผู้แทนราษฎร มีเงินเดือน 73,240บาท เงินเพิ่ม 42,500 บาท รวม 115,740 บาท และ ส.ส.มีเงินเดือน 71,230 บาท เงินเพิ่ม 42,330บาท รวม 113,560 บาทส่วนคณะรัฐมนตรี 36 คนนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เงินเดือนรวม 125,590 บาท รองนายกฯ ได้เดือนละ 119,920 บาท รัฐมนตรีว่าการกระทรวง / รัฐมนตรีประจำสำนักนายรัฐมนตรี 115,740 บาท ส่วนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ได้ 113,560 บาท
ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 3 มีนาคม คณะรัฐมนตรี มีมติ ตั้งกองทุนสมทบเพื่อป้องกันโควิด – 19 พล.อ.ประยุทธ์ บวก รัฐมนตรี หักเงินเดือน 1 เดือน เป็น “ทุนประเดิม” เข้ากองทุนไปก่อนหน้านี้แล้ว
