เห็นกระแสซีรี่ส์ “My ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน” ที่ ‘หมอเป้ง’ พระเอกของเราลองเปิดใจคุยคนใหม่ แต่สุดท้ายก็พบว่า จริงๆ แล้วตัวเองยังรักคนเก่าอยู่(มาก) เลยอดสงสัยไม่ได้ว่า เอ๊ะ! แล้วถ้าเราไม่อยากเจ็บปวดกับรักครั้งเก่าอีกแล้วล่ะ จะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองพร้อม move on กับคนใหม่แล้วจริงๆ และนี่คือ 10 สัญญาณที่บอกว่านี่แหละ…คุณพร้อมไปต่อแล้ว!!
Photo Credit: NadaoBangkok
Sign #1 เลิกพูดพร่ำเพ้อกับเพื่อนซี้…ถึงความเจ็บปวดจากรักครั้งก่อน
เป็นเรื่องปกติที่เวลาเราถูกความเจ็บปวดกระแทกเข้าอย่างจัง แล้วเราจะอยากปลดปล่อยมันออกมาให้ใครซักคนได้รู้ “เพื่อนสนิท” เลยตกเป็นเป้าหมายแรกๆ ที่คุณจะนึกถึง แต่ถ้า topic สำคัญที่วันนี้คุณคุยกับเพื่อนเป็นเรื่องสวยๆ งามๆ หรือเม้าท์มอยทั่วไป นั่นถือว่าเป็นสัญญาณแรกๆ ที่แปลว่าคุณกำลังพับเก็บเรื่องเจ็บๆ ลงไปใต้พิภพแล้ว
Sign #2 พูดคุยเรื่องของแฟนเก่าได้ปกติ…เหมือนกับพูดคุยเรื่องของคนอื่นๆ
ถ้าเพื่อนของเธอ เพื่อนของฉัน…ก็เพื่อนกันทั้งนั้น การจะหลีกหนีไม่รับรู้หรือได้ยินชื่อของแฟนเก่าก็อาจเป็นไปได้ยากซักหน่อย แต่หากคุณสามารถร่วมวงสนทนาเรื่องของคนรักเก่าราวกับเม้าท์มอยเรื่องเพื่อนคนนึงได้ล่ะก็ งานนี้ก็เตรียมเริ่มนับหนึ่งใหม่ได้เลย
Sign #3 ไม่รู้สึกโกรธ…กับความสัมพันธ์ที่จบลงไปแล้ว
หลายครั้งที่รักมากก็ทำให้แค้นมาก…เมื่อความสัมพันธ์ที่ทุ่มเทแบบหมดใจไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง แต่ถ้าวันนี้คุณเข้าใจว่าความสัมพันธ์ที่เคยมีมันจบลงไปแล้ว และไม่ได้รู้สึกโกรธกับรักพังๆ ที่เกิดขึ้น นั่นไม่ได้แปลว่าคุณโลกสวยหรือเป็นแม่ชีอะไรหรอก แค่คุณพร้อมจะ move on แล้วต่างหากล่ะ!
Sign #4 เลิกตั้งคำถาม เลิกหาคำตอบ และ…เลิกหวังให้เขากลับมา
ถ้าไม่โกรธเขา…เราก็โกรธตัวเอง! “ถ้าวันนั้นเราทำแบบนี้ มันก็คงจะ…” “ถ้าวันนั้นเราเข้าใจเขามากกว่านี้ มันก็คงจะ…” อ่ะ! หรือระดับวิกฤตหน่อยก็ “เราจะเปลี่ยนตัวเองยังไงให้เขากลับมาดีนะ” สารพัดคำถามรันวนในสมองราวกับเล่นเกมตอบคำถามชิงรางวัล แต่ถ้าวันนี้หน้าจอคุณมืดดำไร้คำถามพวกนี้แล้วล่ะก็ เราขอแสดงความยินดี…คุณเอาชนะความเจ็บปวดมาได้อีกขั้นแล้ว!!
Sign #5 การ move on ของเขากับคนใหม่…ไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวด
แผลเหวอะกว่าการถูกเท ก็คือการได้เห็นเขา move on ไปกับใครคนใหม่นี่แหละ! แต่ถ้าวันนี้ภาพคู่ของเขากับอีกคนไม่ได้ส่งผลให้คุณรู้สึกตัวชา แขนขาอ่อนแรง หรือหดหู่ใจจนต้องกลับไปนอนร้องไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่า ก็นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่แปลว่าคุณไม่ยึดติดกับความรักครั้งเก่าอีกแล้ว
Sign #6 เลิกบล็อกโซเชียล…และรู้สึกยินดีกับชีวิตที่ดีของเขา(แม้ไม่มีคุณเป็นส่วนหนึ่ง)
เป็นอีกความรู้สึกที่คล้ายๆ กับการเห็นเขา happy with new relationship ในข้อที่ 5 นั่นแหละ เพราะการยังติดตามชีวิตของอีกคน แน่นอนว่าเมื่อเขามีแฟนใหม่เมื่อไหร่…เขาก็ต้องอัพเดทสเตตัสเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งถ้าคุณรู้สึกยินดีกับทุกโมเมนต์แห่งความสุขของเขา หรือสามารถกดไลค์ให้เขาได้แบบที่รอยแผลไม่ปริจนมีเลือดซึมออกมา ก็เป็นอันว่าคุณพร้อมไปต่อแล้วจริงๆ
Sign #7 ไม่โพสต์อะไรก็ตาม…ที่เกี่ยวข้องกับแฟนเก่าของคุณ
อ่ะ! บางคนอาจจะกำลังเถียงเสียงแข็งในใจว่า “ฉันก็ไม่เคยบล็อกโซเชียลแฟนเก่า” แต่ๆ ถ้าการไม่บล็อกของคุณเพียงเพื่อต้องการให้เขาเห็นว่าคุณยังเวิ่นเว้อถึงเขาอยู่ล่ะก็ แบบนี้ถือว่ายังไม่พร้อม move on นะ เพราะฉะนั้น เลิกมีความคิดแบบนี้ในหัวเมื่อไหร่ นั่นแหละ…ถึงเวลาที่คุณพร้อมไปต่อ!
Sign #8 ไม่รู้สึกเจ็บปวด…เมื่อย้อนกลับไปในสถานที่ที่เราเคยไปด้วยกัน
ถ้าการก้าวเข้าไปในดินแดนแห่งความหลังที่ฉันและเธอเคยนั่งอินเลิฟหวานชื่น ทำให้คุณแค่นึกถึงหรือนึกขึ้นได้ว่า “อ๋อ…ฉันเคยมากับเขาคนนั้น” แต่มันไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกเจ็บจี๊ดที่กลางใจ หรือน้ำตาซึมจนปริ่มจะไหล ก็แสดงว่าเรื่องราวรักครั้งเก่าถูกโยนเข้าโฟลเดอร์แห่งความหลัง…แบบที่ไม่มีวันทำคุณจมดิ่งสู่โหมดเศร้าได้อีกแล้ว
Sign #9 เพลงอกหัก เพลงเศร้า…ไม่ทำให้เราร้องไห้อีกแล้ว
อกหักทีไร…เพลงเศร้าต้องมา! นี่น่าจะเป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่ใครก็เคยเป็น(ถ้าเคยอกหักอ่ะนะ) แต่ถ้าวันนี้คุณสามารถฟังเพลงเศร้าหลายสิบเพลงที่อยู่ในเพลย์ลิสต์ “เพลงคนอกหัก” ได้แบบไม่มีน้ำตา รับรองเลยว่าอีกไม่นานคุณจะเปลี่ยนมาฟังเพลงในเพลย์ลิสต์ “เพลงคนมีความรัก” ตามประสาคนอินเลิฟแน่นอน!!
Sign #10 ไม่ได้มองหารักครั้งใหม่…เพียงเพื่อกลบความเจ็บปวดจากรักครั้งเก่า
เคยมั้ยที่เพื่อนหรือคนรอบข้างบอกคุณว่า ถ้าอยากจะลืมแฟนเก่าต้องมีแฟนใหม่ไปเลย! เราอยากจะบอกว่า…วิธีนี้ใช้ไม่ได้กับทุกคนนะ ก็เหมือนที่บางคนพูดว่า “ตัวอยู่กับคนนี้ แต่ใจอยู่กับอีกคน” มันไม่เพียงแค่ไม่ช่วยให้คุณลืมคนเก่า แต่ยังทำร้ายความรู้สึกของคนใหม่ เพราะฉะนั้น รักษาแผลใจของคุณให้แห้งดีก่อน…ค่อย move on เนอะ!
หลายคนเจ็บปวดเสียใจกับความสัมพันธ์ที่พังลง จนรู้สึกเข็ดกับความรัก ไม่อยากเริ่มต้นใหม่กับใครอีก แต่เราว่า…ถ้าวันนี้มีใครคนนึงทำให้คุณใจเต้นแรง และเป็นช่วงที่คุณมีทั้ง 10 ข้อด้านบนแล้ว การจะลองเปิดใจเรียนรู้ใครซักคนใหม่อีกครั้งก็น่าสนใจไม่น้อยเลยนะ
